‘กับดัก 10,000 ก้าว’ เทรนด์การออกกำลังกายที่อาจส่งผลร้ายหากร่างกายไม่พร้อม

การแพร่ระบาดของโรค Covid-19 ทำให้ผู้คนต่างเริ่มหันมาใส่ใจปัญหาในเรื่องของสุขภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการรับประทานอาหารที่ดีกว่าเดิม การรักษาสุขภาพจิตให้มีภูมิคุ้มกัน ห่างไกลจากความเครียด รวมไปถึง ‘การออกกำลัง’ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงอยู่เสมอ

การออกกำลังกาย นอกจากจะช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ยังช่วยส่งเสริมในด้านอื่นๆ อีกมายมาย เช่น ทำให้การคิดหรือการรับรู้ดีขึ้น ลดความรู้สึกวิตกกังวลในผู้ใหญ่ นอกจากนี้ยังสามารถลดความเสี่ยงของภาวะซึมเศร้า และช่วยให้นอนหลับได้ดี

การออกกำลังกายมีหลายรูปแบบให้เราเลือกตามความเหมาะสม จะงบน้อยงบเยอะก็ไม่แตกต่าง เราไม่จำเป็นต้องซื้อคอร์สฟิตเนส หรือจ้างเทรนเนอร์ให้วุ่นวาย เพราะความจริง ‘แค่ขยับก็เท่ากับการออกกำลังกาย’ แล้ว

วิธีที่สะดวก และแทบจะไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายอะไรมากก็คือ ‘การเดิน’ โดยการเดินเป็นหนึ่งทางเลือกในการออกกำลังกาย เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย ซึ่งการเดินที่ถูกต้องอย่างสม่ำเสมอจะช่วยสร้างเสริมสุขภาพที่แข็งแรงของเราได้ในระยะยาว

เชื่อว่าหลายๆ คนอาจจะคุ้นเคยกับ ‘เป้าหมาย 10,000 ก้าว’ ที่ไม่ว่าเป็นโทรศัพท์มือถือหรือ Smart Watch ก็มักจะกำหนดเป้าหมายการเดินมาให้เรา นั่นคือ 10,000 ก้าวต่อวัน ในความจริงมันมีที่มาด้วยนะ 

ย้อนกลับไปเมื่อปี 1964 ในแคมเปญการตลาดที่จัดทำขึ้นก่อนการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่กรุงโตเกียว บริษัทนาฬิกาและเครื่องมือ Yamasa ได้ปล่อย “เครื่องนับก้าว” ออกมา โดยเรียกว่า Manpo-kei แปลว่า “เครื่องวัด 10,000 ก้าว” และนี่คือจุดเริ่มต้นของเทรนด์การเดินหนึ่งหมื่นก้าวต่อวันมาจนถึงปัจจุบัน

ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลมากขึ้น Smart Watch ได้กลายเป็นอุปกรณ์พกพาของเราในการติดตามสุขภาพและกิจกรรมทางกายของเรา อุปกรณ์เก๋ๆ เหล่านี้ติดอยู่กับข้อมือของเรา โดยมันจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับจำนวนก้าว แคลอรี่ อัตราการเต้นของหัวใจ และอื่นๆ อีกมากมาย อย่างไรก็ตาม แม้ว่าSmart Watch จะมีประโยชน์ที่น่าทึ่ง แต่ก็มาพร้อมกับข้อเสียของตัวเองที่อาจบดบังข้อดีได้เช่นกัน

Smart Watch ผสมผสานเข้ากับชีวิตประจำวันของเราได้อย่างดี สามารถนำเสนอข้อมูลมากมายได้เพียงปลายนิ้วสัมผัส ในแง่ของของการนับก้าว มันจะคอยกระตุ้นให้เราบรรลุเป้าหมายจำนวนก้าวในแต่ละวัน ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจระหว่างออกกำลังกาย รวมไปถึงวิเคราะห์รูปแบบการนอนหลับ

เสน่ห์ของตัวเลขบน Smart Watch ไม่เพียงแต่ส่งเสริมรูปแบบการดำเนินชีวิตให้กระฉับกระเฉงมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังสร้างความตระหนักรู้และความรับผิดชอบต่อสุขภาพได้อีกด้วย โดยอุปกรณ์เหล่านี้ สามารถเป็นแรงจูงใจอันทรงพลังสำหรับบุคคลในการรักษาสุขภาพ

ในทางกลับกัน ความหลงใหลในตัวเลขอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพจิตของแต่ละบุคคลได้ การตรวจสอบอย่างต่อเนื่องและความกดดันในการบรรลุเป้าหมายเชิงตัวเลข อย่าง ‘10,000 ก้าว’ อาจนำไปสู่ความวิตกกังวลและการแก้ไขตัวชี้วัดที่ไม่ดีต่อสุขภาพ 

นอกจากนี้ความถูกต้องของข้อมูลที่ให้โดย Smart Watch ก็เป็นเรื่องที่น่าสงสัย ตัวอย่างเช่น จำนวนแคลอรี่มักจะเป็นการประมาณคร่าวๆ และอาจทำให้เราเข้าใจผิดเกี่ยวกับการใช้พลังงานที่แท้จริงได้ โดยความหลงใหลในตัวเลขนี้อาจนำไปสู่ภาพลักษณ์ที่บิดเบี้ยวและความสัมพันธ์ที่ไม่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกาย

ในยุคที่การละเมิดข้อมูลและภัยคุกคามทางไซเบอร์เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ ข้อมูลที่รวบรวมโดย Smart Watch จะไม่ได้รับการยกเว้นจากการใช้ในทางที่ผิด อุปกรณ์เหล่านี้รวบรวมข้อมูลสุขภาพส่วนบุคคลจำนวนมหาศาล ซึ่งเมื่อตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดีก็สามารถนำมาใช้ในทางที่ผิดได้ 

นอกจากนี้ บางบริษัทอาจใช้ข้อมูลที่รวบรวมไว้สำหรับการโฆษณาแบบกำหนดเป้าหมาย ซึ่งเป็นการละเมิดความเป็นส่วนตัวอย่างโจ่งแจ้ง การไม่มีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูลในตัวติดตามฟิตเนสเป็นปัญหาที่ผู้ใช้ต้องระวัง

Smart Watch ที่มีความสามารถในการวัดปริมาณกิจกรรมในแต่ละวันและตัวชี้วัดสุขภาพของเรานั้น ได้ส่งเสริมไลฟ์สไตล์ที่กระตือรือร้นและใส่ใจสุขภาพมากขึ้น อย่างไรก็ตาม การหมกมุ่นอยู่กับเป้าหมายที่เป็นตัวเลขเช่น ‘10,000 ก้าว’ ก็อาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพจิต และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลในทางที่ผิดได้ ดังนั้น ผู้ใช้งานจึงจำเป็นที่จะต้องตระหนักถึงข้อเสียเหล่านี้ และใช้เครื่องมือติดตามการออกกำลังกายอย่างรอบคอบ

เพราะสุดท้ายและ ไม่ว่าจะเดิน 10,000 ก้าว 100 ก้าว หรือ 10 ก้าว ก็เท่ากับเราได้ออกกำลังกายแล้วนั่นเอง อย่าลืมที่จะออกกำลังไปพร้อมกับการมีความสุขนะ

เขียนโดย ชนัญชิดา พลอยพลาย

Sources: