LOADING

Type to search

4 เทรนด์ธุรกิจมาแรง และคู่มือเอาตัวรอดปี 2021 ที่นักธุรกิจควรรู้

4 เทรนด์ธุรกิจมาแรง และคู่มือเอาตัวรอดปี 2021 ที่นักธุรกิจควรรู้
Share

ปี 2020 ยังขนาดนี้ แล้วปี 2021 ล่ะจะขนาดไหน?

การระบาดของ COVID-19 ไม่เพียงแต่ทำให้การคาดการณ์หลาย ๆ อย่างแปรปรวนเท่านั้น แต่ยังกระทบไปถึงสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกอีกด้วย โดยทาง AIS The StartUp ได้มีการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์เทรนด์เพื่อเป็นคู่มือทำธุรกิจให้กับผู้ประกอบการยุคดิจิทัล 4 เทรนด์ 15 มุม วันนี้เราจะมากางคู่มือนี้ไปด้วยกันว่า Digital Entrepreneur จะต้องเตรียมตัวอย่างไรเพื่อเอาตัวรอดในอนาคตบ้าง

สิ่งที่เห็นชัดเจนเลยก็คือเศรษฐกิจของแต่ละประเทศในช่วงครึ่งแรกของปี 2020 นั้นสั่นสะเทือนอย่างมาก เช่น GDP ในสหรัฐฯ ลดลง 10%, 14% ในสหภาพยุโรป ส่วนประเทศไทยเองในไตรมาสที่ 2 ทาง EIC ระบุว่า GDP หดตัวหนักสุดในรอบ 22 ปีที่ -12.2%YOY

แม้ในช่วงไตรมาสที่ 3 และ 4 นี้หลายประเทศจะเริ่มฟื้นตัวกลับมาบ้างแล้วก็ตาม แต่ก็ยังไม่สมบูรณ์เสียทีเดียว เพราะบางแห่งก็เหมือนเจอความเสียหายหลังพายุถล่มที่ต้องมาเช็กสภาพและค่อย ๆ รักษาแผลไปตาม ๆ กัน ทำให้การฟื้นตัวในช่วงนี้เรียกได้ว่าอยู่ในระยะชะลอตัวลง (Stalling recovery)

สำหรับประเทศไทยเองหลายธุรกิจก็ต้องมาวางกลยุทธ์เพื่อรับมือกับการระบาดโควิด-19 ระลอกใหม่ที่กลับมาให้เราหวาดหวั่นอีกครั้งเมื่อปลายปี 2020 และต้นปีที่ผ่านมานี้ตัวเลขหรือสถานการณ์ต่าง ๆ ก็ดูจะน่าหวั่นใจมากยิ่งขึ้น


2021 : แผลเป็นเศรษฐกิจ และการฟื้นตัวที่เปราะบาง

International Monetary Fund (IMF) ประเมินว่าในปี 2021 เศรษฐกิจไทยจะกลับมาขยายตัวได้เพียง 4.0%

เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา OECD องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ ได้เปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจ และคาดการณ์ว่า GDP ทั่วโลกจะสามารถกลับมาอยู่ในระดับก่อนการระบาดได้เร็วสุดในปี 2021 แต่เป็นการฟื้นตัวที่เปราะบางอยู่ ซึ่งขึ้นอยู่กับปัจจัยหลาย  ๆ อย่างของแต่ละประเทศด้วย

นอกจากนี้ทาง EIC ยังคาดการณ์อีกว่าในประเทศไทยปี 2021 นั้นจะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจะเริ่มกลับมาในช่วงครึ่งปีหลัง อยู่ที่ประมาณ 8 ล้านคน ซึ่งยังถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับปี 2019 ที่ตัวเลขเกือบ 40 ล้านคน ส่วนอีกหนึ่งหัวใจหลักของเศรษฐกิจอย่าง ‘การส่งออก’ ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปตามทิศทางเศรษฐกิจและการค้าโลก แต่แนวโน้มค่าเงินบาทที่แข็งขึ้นตามทิศทางการอ่อนค่าของเงินดอลลาร์สหรัฐ จะเป็นปัจจัยกดดันต่อการส่งออกในปีหน้า

อีกเรื่องที่แน่นอนคือตลาดแรงงานไทยก็ยังคงเปราะบาง จะยังมีธุรกิจปิดตัวจากพิษของเศรษฐกิจในปี 2020 อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่แรงงานบางส่วนอาจจะต้องเปลี่ยนไปทำงานที่มีรายได้ลดลงจากเดิม และแน่นอนว่าจะนำไปสู่ปัญหาหนี้ครัวเรือนต่อรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นมากเช่นเดียวกัน

ในภาพรวมของโลกการทำงาน ทางฝั่งของ World Economic Forum ก็ได้ออก World Economic Forum’s Future of Jobs Report คาดการณ์ว่าใน 5 ปีข้างหน้าโลกการทำงานจะต้องเจอกับภาวะ “Double-Disruption” จากโควิดและการนำระบบ Automation เข้ามาแทนการจ้างแรงงานคน


สรุปคู่มือทำธุรกิจเอาตัวรอดปี 2021 : 4 เทรนด์ 15 มุมรับมืออนาคต

เทรนด์ที่ 1  Customer Trends

ปี 2020 เป็นปีที่ธุรกิจได้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าแตกต่างไปจากเดิมโดยเฉพาะในช่วง COVID-19 ทั้งประสบการณ์แบบดิจิทัล และความรวดเร็วที่มากกว่าเดิมเท่าตัว ต่อไปการตอบสนองประสบการณ์ลูกค้าแบบ “Nice to have (มีไว้ก็ดี)” จะเปลี่ยนเป็น “Must Have (ของมันต้องมี)” เพื่อให้ได้สิ่งที่ไม่ใช่แค่ลูกค้าต้องการ “แต่จำเป็น และขาดเราไม่ได้” -สำหรับ Customer Trend นั้น เราขอสรุปออกมาได้เป็น 3 มุมหลัก ๆที่ธุรกิจ และ Digital Entrepreneur ควรต้องรู้คือ

1.1 สุขภาพและความปลอดภัยต้องยืนหนึ่ง :

ในปี 2021 ลูกค้าจะมองที่ความปลอดภัยความสุขอนามัยเป็นหลัก ความไว้วางใจที่ลูกค้าจะมีต่อแบรนด์จะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อแบรนด์นั้น ๆ แสดงให้ ‘เห็น’ ไม่ใช่แค่การ ‘บอก’ อีกต่อไป โดยเฉพาะธุรกิจที่ต้องได้ใจลูกค้ามาเป็นอันดับหนึ่ง ยกตัวอย่างเช่น โรงแรมฮิลตันได้ทำ CleanStay โดยการติดสติกเกอร์ไว้ที่ประตูห้องพักเพื่อแสดงให้เห็นว่าได้มีการทำความสะอาดห้องพักเรียบร้อยและยังไม่มีใครเข้าใช้หลังจากนั้น

ในประเทศไทยเอง ‘Golfdigg’ ก็ได้ออก Golf Masters Solution เพื่อช่วยบริหารจัดการสนามกอล์ฟแบบ Digitalization รวมไปถึงการบริหารเรื่องเงินแบบ Cashless อีกด้วย เพื่อลดการสัมผัสที่เกิดขึ้นในสนามกอล์ฟ นอกจากนี้ก็ยังมีทางฝั่งของ Rabbit Line Pay ซึ่ง AIS  ร่วมถือหุ้นอยู่ในสัดส่วนร้อยละ 33.33 ก็ได้ทำ Cashless Solution สำหรับร้านค้า Online และ Offline เช่นเดียวกัน เพราะเรื่องสุขภาพและความปลอดภัยต้องมาเป็นอันดับ 1

1.2 On-Demand Economy Shift ลูกค้ายังต้องการอะไรที่ ‘เร็ว’ กว่านี้ :

COVID-19 ส่งผลให้คนสั่งของออนไลน์มากขึ้น ธุรกิจแข่งขันกันด้วยความเร็วมากขึ้น ทำให้ในปี 2021 ลูกค้าก็ยังคงคาดหวังสิ่งเหล่านี้มากยิ่งขึ้น ในประเทศไทยเองพบว่าภาพรวมตลาดอีคอมเมิร์ซ และการซื้อขายสินค้าออนไลน์ช่วงเดือนมี.ค. 2020 มีการเติบโตที่สูงขึ้น 80% และการเติบโตของพฤติกรรม On Demand บนออนไลน์นั้นมีแนวโน้มว่าจะโตอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันในปี 2021 ซึ่งในปัจจุบันก็มี Solution มากมายที่มาตอบโจทย์พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์มากขึ้น อาทิ Shippop บริการออนไลน์ที่ทำให้การส่งสินค้า สะดวก ง่าย และครบวงจรมากยิ่งขึ้น

1.3 Customer Journey จะเปลี่ยนไป :

จากการคาดการณ์ของ Forrester’s Predictions 2021: Customer Experience Guide ระบุว่าผู้บริโภคจะโหยหาการเจอหน้ากันมากขึ้น อันเป็นผลมาจากการอยู่ติดบ้านมานาน หรือออกไปไหนทำอะไรก็ไม่ค่อยสะดวกใจเหมือนแต่ก่อน แต่ถึงจะอยากกลับเข้าสู่สภาวะปกติยังไงก็ยังต้องการความปลอดภัยอยู่ดี ดังนั้นธุรกิจจึงต้องปรับตัวให้ทันกับ Customer Journey ที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย อาทิ Starbuck ที่เริ่ม Drive-thru และ Mobile order ในบางสาขา เป็นต้น

หรืออย่างแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยเองก็ใช้แอป QUEQ ในการจองเที่ยวเพื่อเข้าพื้นที่ เช่น อุทยานแห่งชาติทั่วประเทศเพื่อบริหารจัดการพื้นที่ ลดการแออัดของผู้เข้าชม  แต่ในขณะเดียวกันลูกค้าก็ยังได้รับประสบการณ์ที่ดีเหมือนเดิมด้วย

เทรนด์ที่ 2 Technology Trends

ปี 2021 เป็นอีกปีที่เทคโนโลยีต่าง ๆ จะถูกพูดถึงอีกครั้ง แม้จะถูกแย่งซีนด้วยโรคระบาดก็ตาม แต่ความจริงแล้วในหลาย ๆ ธุรกิจ หลาย ๆ องค์กรก็เดินหน้า Digital Transformation กันอย่างต่อเนื่องและยังติดสปีดมากขึ้นจาก COVID-19 อีกด้วย และนี่คือ 5 การคาดการณ์เทรนด์เทคโนโลยีสำหรับ Digital Entrepreneur ในปี 2021

2.1 5G จะกลายเป็นจุดเชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกัน :

การมาถึงของ 5G ในหลาย ๆ ประเทศเป็นเหมือนเส้นทางใหม่ของการเติบโตทางธุรกิจ ผู้เชี่ยวชาญคาดการณ์ว่าเครือข่าย 5G จะมีการเข้าถึงทั่วโลกถึง 40% ในปี 2024 และ 5G จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน อาทิ การผ่าตัดทางไกล หรือระบบควบคุมเครื่องจักรและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จะทำให้ไวและดียิ่งขึ้น อย่างโรงพยาบาลในจีนก็มีใช้หุ่นยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย 5G เพื่อตรวจสอบอุณหภูมิของผู้ใช้และแอปพลิเคชันด้านสุขภาพอื่น ๆ

2.2 Hybrid Cloud จะเป็นพระเอกมากขึ้น :

Hybrid cloud คือเทคโนโลยีคลาวด์ที่ผสมระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud ซึ่งถือว่าที่มีความยืดหยุ่นสูง และมีความสะดวกในการใช้งาน โดยงานวิจัย Enterprise Cloud Index 2018 ฉบับล่าสุด ระบุว่า 91% ขององค์กรบอกว่า Hybrid Cloud คือโมเดลที่ที่สุดสำหรับธุรกิจเลยทีเดียว ขนาดบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง IBM ก็ได้ประกาศเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง เพราจะมุ่งไปที่ระบบ Hybrid Cloud อย่างเต็มที่แล้ว

2.3 Cybersecurity จะเป็นตัวกำหนดธุรกิจ :

การพึ่งพาระบบคลาวด์มากขึ้น ก็จะทำให้ภัยคุกคามด้านความปลอดภัยในโลกไซเบอร์รุนแรงขึ้นเช่นเดียวกัน การรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ขั้นสูงจะเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะในอนาคตที่จะมีการเก็บข้อมูลลูกค้า ข้อมูลทางธุรกิจบนคลาวด์มากยิ่งขึ้น การลงทุนในเครื่องมือหรือตัวช่วยที่จะช่วยให้ระบบรักษาความปลอดภัยของเราปลอดภัยที่สุดจึงเป็นสิ่งที่ควรทำอย่างมากสำหรับธุรกิจ ยกตัวอย่างเช่นเรื่องการเงินในองค์กร ปัจจุบันก็มีโปรแกรมบัญชีออนไลน์ผ่านระบบคลาวด์ แบบ SaaS อย่าง FlowAccount ที่เลือกระบบฐานข้อมูลคลาวด์จาก Amazon Web Services ที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล เป็นต้น

2.4 การเติบโตของ AIoT (Artificial Intelligence of Things) :

AIoT คือลูกผสมระหว่าง AI + IoT ในปัจจุบันพบว่า 90% ขององค์กรที่ใช้ AI สำหรับการดำเนินงาน IoT พบว่าทำงานได้ดีขึ้น และเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งคาดว่าจะเติบโตอย่างมากในปีนี้ที่มีการใช้ 5G เต็มรูปแบบซึ่งก็คือการคาดการณ์ในปี 2021 นี้นั่นเอง ความเป็นไปได้ของ AIoT มีตั้งแต่การสร้าง“ Digital Humans” สำหรับการให้คำปรึกษาระยะไกล ไปจนถึงการแจ้งเตือนในบริการสาธารณะที่เร็วยิ่งขึ้น เช่น การดับเพลิงในสถานการณ์ฉุกเฉิน

2.5 Online Learning จะเพิ่มขึ้นมากมาย :

ต่อไปการเรียนรู้จะไร้พรมแดน และธุรกิจเองก็จะต้องเพิ่มเทคโนโลยีนี้เพื่อต่อยอดศักยภาพของคนในองค์กรมากขึ้นเช่นเดียวกัน เหตุผลนึงก็เพราะว่า 40% ของคนทำงานในตอนนี้จำเป็นต้องรีสกิลอย่างเร่งด่วนภายในหกเดือนหรือน้อยกว่านั้น เพราะตอนนี้เทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของโลกมันวิ่งเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะเดียวกันแพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ก็พร้อมสำหรับการเรียนรู้ในยุคนี้ด้วยเช่นเดียวกัน อาทิ เว็บไซต์ FutureSkill ที่มีคอร์สสอนทักษะสำหรับอนาคตมากมายกว่า 200 คอร์สเลยทีเดียว

เทรนด์ที่ 3 Marketing Trends

3.1 ลูกค้าจะโหมเข้าสู่ Online Solutions มากขึ้น :

ลูกค้าต้องการ Online Solutions มากขึ้น ธุรกิจจะต้องมีการทำ CRM กับลูกค้ามากกว่าแต่ก่อน โดยผลการสำรวจของ Deloitte พบว่ากว่า 58% ของลูกค้าบอกด้วยว่าพวกเขาจะจดจำแบรนด์ที่สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วเพื่อตอบสนองต่อ New Normal ที่เกิดขึ้น และเกินครึ่งของลูกค้าในช่วง COVID-19 ที่ผ่านมาก็ใช้เวลาไปกับดูและซื้อสินค้าบนออนไลน์นั่นเอง จึงไม่แปลกที่ในปี 2021 พฤติกรรมนี้ของพวกเขาจะยังอยู่ และยังคาดหวังการบริการที่ดีมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะบนโลกออนไลน์ ยกตัวอย่างในประเทศไทยเองก็เริ่มมีการทำ CRM บนออนไลน์ ผนวกเข้ากับการใช้ Digitalization มากขึ้น อาทิ AIYA ผู้พัฒนานวัตกรรม Chat CRM ซึ่งผนวกระบบแชทบอทและระบบ CRM เข้าด้วยกัน เพื่อมาตอบโจทย์กลุ่มค้าขายออนไลน์ให้รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

3.2 พนักงานแฮปปี้ = ลูกค้าแฮปปี้ :

รายงานจาก Deloitte ชี้ให้เห็นว่าความสุขของพนักงานและความสุขของลูกค้านั้นเชื่อมโยงกัน ลูกค้ามีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่สามารถแสดงให้เห็นถึง ‘ความเป็นมนุษย์’ ได้มากกว่า 1.6 เท่า ในขณะเดียวกันพนักงานที่ทำงานกับแบรนด์เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะรู้สึกมีแรงจูงใจในการทำงานมากกว่า 2.6 เท่าเมื่อได้รับการปฏิบัติที่ดีด้วยเช่นเดียวกัน ดังนั้นในปี 2021 คือปีที่ต้องทำให้ดีจาก ‘ภายใน’ สู่ ‘ภายนอก’

3.3 Niche Market ที่ว่ามาแรง ปี 2021 จะแรงกว่านี้ :

ตลาดเฉพาะกลุ่มจะเพิ่มขึ้น คนต้องการอะไรที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมากกว่าแต่ก่อน ตลาดเฉพาะกลุ่มที่จะมาแรงได้แก่ LQBTQ +, เกมเมอร์, กลุ่มคนรักษ์โลก, กลุ่มคนทำงานระยะไกล และกลุ่มชุมชน ตลาดเฉพาะกลุ่มในภาคธุรกิจแบบย่อย ๆ ก็จะเพิ่มมากขึ้นด้วย ยกตัวอย่างเช่น ธุรกิจอาหารที่เจาะกลุ่มคนทานมังสวิรัติมากขึ้น เรียกได้ว่าเป็นปีที่คนจะมองหาสิ่งที่ตรงจริตและตรงใจมากขึ้นกว่าเดิมอีก

3.4 Cross-Industry Partnerships การร่วมมือกันของธุรกิจข้ามอุตสาหกรรม :

ปี 2020 เป็นปีที่ได้เห็นธุรกิจ และองค์กรใหญ่ ๆ หลายที่สร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ มากมายรวมไปถึงการจับมือกันข้ามอุตสาหกรรมเพื่อผลิตสินค้าและบริการใหม่ขึ้นมา ผู้บริหารไม่สามารถทำ “สิ่งเดิม ๆ ที่ดีกว่า” ได้อีกต่อไป แต่จำเป็นต้องทบทวนกลยุทธ์ของตนใหม่ทั้งหมดเพื่อตอบสนองความต้องการที่เปลี่ยนแปลงไป อาทิ Lloyds Bank ได้จับมือกับ Mental Health UK ให้คำแนะนำด้านสุขภาพจิตที่เกิดจากปัญหาทางการเกินในช่วง COVID-19 ทำให้ Lloyds Bank ได้มีบริการใหม่ที่นอกเหนือจากเรื่องการเงินเพิ่มเข้ามา

เทรนด์ที่ 4 Data Trends

4.1 เตรียมพร้อมสำหรับ PDPA :

จากที่ต้องมีผลบังคับใช้เมื่อ 27 พ.ค. 2563 ก็ได้มีการประกาศเลื่อนมา 1 ปี ทำให้ในปี 2021 คนทำธุรกิจต้องเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับ PDPA หรือพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งจะทำให้การเก็บข้อมูลส่วนตัวของลูกค้ามีข้อจำกัดและข้อควรระวังมากยิ่งขึ้น โดยสิ่งที่ธุรกิจต้องเตรียมสำหรับ PDPA ก็คือ Record of Processing (ROP), แบบฟอร์มการขอใช้สิทธิสำหรับเจ้าของข้อมูล, Cookie Consent Banner, แบบฟอร์มแจ้งเตือนกรณีเกิดการรั่วไหลของข้อมูลส่วนบุคคล และนโยบายความเป็นส่วนตัว

4.2 ธุรกิจต้องมี Data Quality Management (DQM) ในการจัดการข้อมูลให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น :

ปฏิเสธไม่ได้ว่าตอนนี้ธุรกิจอยู่ได้ด้วยข้อมูลทั้งหมดที่มี เพราะข้อมูลในปัจจุบันทำให้ธุรกิจสามารถคาดการณ์อนาคต เข้าใจลูกค้า รวมไปถึงสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันได้ โดย IBM ได้มีการประเมินว่าแค่ในสหรัฐฯ ธุรกิจต่างสูญเสียเงิน 3.1 ล้านล้านดอลลาร์ทุกปีเพราะข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพมากพอ ดังนั้นหลังจากนี้เทรนด์ของข้อมูล จะต้องเป็นการทำ Data Quality Management ที่ไม่ใช่แค่ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แต่ต้องกลายเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับธุรกิจด้วย และแนวโน้มเทรนด์นี้จะกระเพื่อมต่อในปี 2021 แน่นอน

4.3 Actionable Everywhere :

ปี 2020 Actionable Everywhere ถือว่ามาแรงมาก ทั้งในเรื่อง “Actionable Analytics Everywhere” และ “Actionable Management Everywhere”

Actionable Analytics Everywhere เป็นเรื่องการวิเคราะห์ที่นำไปใช้ได้จริง และในปี 2021 ต่อเนื่องจากการจัดการข้อมูลให้คุณภาพ คือการมีข้อมูลที่ใช้ได้กับทุกอย่างในธุรกิจ ซึ่งปัจจุบันมี BI (Business Intelligence) ที่ช่วยสรุปข้อมูลทางธุรกิจ ได้ข้อมูลเชิงลึกที่นำไปใช้ได้จริงและนำไปใช้ทั้งหมดในที่เดียว ในอนาคตการทำ Advanced Analytics ก็จะช่วยให้ธุรกิจสามารถคาดการณ์และค้นหารูปแบบบางอย่างได้ ในปีที่ทุกธุรกิจต้องฟื้นตัวกลับมาการวิเคราะห์บางอย่างได้ ย่อมทำให้เกิดข้อได้เปรียบที่ดีกว่าแน่นอน

หนึ่งในตัวช่วยที่ดีคือสตาร์ทอัพ หรือองค์กรดิจิทัลใหม่ ๆ ที่มีเครื่องมือพร้อมให้ Digital Entrepreneur สามารถไปใช้บริการได้อย่าง Baania ที่มีการนำเทคโนโลยี และข้อมูลมารวมกันเพื่อช่วยแก้ปัญหา และตอบโจทย์สำหรับคนที่ต้องการใช้ข้อมูลด้านอสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น

Actionable Management Everywhere คือการที่ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จาก Cloud Technology ในการบริหารภายในต่าง ๆ ได้ทุกที่ และทุกเวลา ส่งเสริมให้การ Work From Home หรือ การ Work From Everywhere เกิดขึ้นแบบมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น ปัจจุบัน Flowaccount ยังพัฒนาระบบที่เหนือกว่าแค่เรื่องระบบบัญชี โดยจัดทำ Flowaccount Business Suite ที่เป็นระบบ saas ที่ทำให้ SME, ฟรีแลนซ์,  แม่ค้าออนไลน์และ ผู้ประกอบการรายเล็ก สามารถบริหารจัดการและ จัดเก็บข้อมูลของระบบต่างๆเพื่อนำมาใช้ในการวิเคราะห์ทางธุรกิจได้ต่อไป เช่น ระบบ HR เบื้องต้น, ระบบเงินเดือน, ระบบภาษี, ระบบลูกค้า ได้ง่ายผ่านทุกอุปกรณ์โดยไม่จำเป็นต้องลงโปรแกรม  แถมยังมีการเชื่อมต่อโดยตรงกับ online market place อื่นๆด้วย เช่น Lazada เป็นต้น


โดยสรุปของคู่มือนี้จะแสดงให้ทุกคนได้เห็นถึงเทรนด์ในปี 2021 เป็นต้นไปที่จะเกิดขึ้น และยังเป็นคู่มือสำหรับ Digital Entrepreneur ที่ควรรู้ไว้ ถ้าเตรียมพร้อมและวางแผนให้ดีก็พอจะช่วยให้ธุรกิจผ่านพ้นวิกฤต รักษาแผลเป็นกันได้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ

  • ‘Customer Trends’ ที่จะช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้า และเตรียมวางแผนในเก็บข้อมูลของลูกค้าเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ตรงใจ ตอบโจทย์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปจะทำให้ธุรกิจต้องสร้างความน่าเชื่อถือผ่านการกระทำมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการใส่ใจเรื่องสุขอนามัยต่าง ๆ ด้วย
  •  ‘Technology Trends’ ในปี 2021 นี้ 5G จะเข้ามามีบทบาทมากขึ้นทั่วโลก ซึ่งจะส่งผลให้การทำธุรกิจไปพร้อมกับเทคโนโลยีจะเห็นผลมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการเก็บข้อมูลแบบ Hybrid Cloud จะเข้ามาตอบโจทย์ธุรกิจได้มากขึ้น ปีนี้เทคโนโลยีจะโตเร็วขึ้นดังนั้นธุรกิจจึงต้องมีการปรับตัว และเพื่อสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน การนำเทคโนโลยีมาช่วยในธุรกิจจึงเป็นเรื่องสำคัญมาก ๆ
  • ‘Marketing Trends’ เป็นอีกปีที่ตลาดเฉพาะกลุ่มจะฮอตมากขึ้น การเกิดโรคระบาดทำให้เกิดความชอบเฉพาะกลุ่ม และธุรกิจจะต้องสร้าง Online Solution ให้กับลูกค้าให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต้องใส่ใจ ‘คนใน’ เพราะลูกค้าเองก็เชื่อว่าการที่เขาจะได้รับบริการที่ดีนั้นก็มาจากความสุขของพนักงานด้วยเช่นเดียวกัน
  • ‘Data Trends’ เป็นเรื่องที่พูดกันมาตลอดหลายปี และในปีนี้จะเริ่มเห็น Action ของการใช้ข้อมูลมากขึ้น ธุรกิจจะต้องมีการจัดการข้อมูลให้มีคุณภาพมากขึ้นเพื่อคาดการณ์เทรนด์ คู่แข่ง ลูกค้าให้แม่นยำมากขึ้น เพราะข้อมูลมีความสำคัญมากแทบจะเป็นตัวพลิกเกมทางธุรกิจเลยก็ว่าได้ และอีกหนึ่งเรื่องสำคัญคือการเตรียมพร้อมสำหรับ PDPA ในประเทศไทยที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วงกลางปีด้วย

แล้วคุณล่ะคิดว่าในปี 2021 เราจะต้องเตรียมพร้อมอะไรกันอีกบ้าง?


Sources:
https://www.contentgrip.com/deloitte-global-marketing-trends-report / 
https://www.ifs.org.uk/publications/15077
https://www.weforum.org/agenda/2020/09/oecd-global-gdp-pre-pandemic-level-2021-sustainable-resilient/   
https://comparecamp.com/business-trends/#1
https://www.getfeedback.com/resources/cx/5-customer-experience-trends-to-watch-for-in-2021/#customer-trust-relies-on-health-and-safety-visibility
https://financesonline.com/entrepreneurship-trends/
https://www.gartner.com/smarterwithgartner/gartner-top-strategic-technology-trends-for-2021/
https://positioningmag.com/1309703
https://techsauce.co/tech-and-biz/pdpa-for-business

Tags::

You Might also Like