เมื่อถึงเวลาที่เราต้องทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เรามักจะเห็นแนวโน้มของความล้มเหลวอยู่เต็มไปทั่ว มากกว่าจะมองเห็นแนวโน้วของความสำเร็จ นั่นเป็นเพราะเรากำลังขาดความมั่นใจอยู่ โดยสิ่งที่สามารถแก้ไขอาการนี้ได้คือ “มั่นใจในตัวเองหน่อยสิ” แหงล่ะ ถ้ามันง่ายอย่างที่พูดก็คงจะดีไม่ใช่น้อย ความมั่นใจ คือ การเชื่อในคุณค่า และความสามารถของตัวเอง กล้าหาญให้มากยิ่งขึ้นเพื่อเผชิญหน้ากับบททดสอบที่อยู่ตรงหน้า นิยามของมันช่างแตกต่างจากคำว่าง่ายเสียจริง แต่ไม่ต้องกังวลไป ทาง Future Trends เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ ท่านคงจะมีปัญหานี้เหมือนกัน เราเลยได้นำบทเรียนของ TED-Ed มานำเสนอให้กับผู้อ่านเรียนรู้ 3 เทคนิคในการจุดประกายความมั่นใจในตัวเอง [ Try A Quick Fix ลองเปลี่ยนแปลงมันดูสิ ] เห็นแค่ชื่อเทคนิคแล้วก็น่าจะพบกับความงงกันอยู่บ้าง คนกำลังเจอกับปัญหาขาดความมั่นใจในตัวเองจะให้เปลี่ยนแปลงอะไรกัน สิ่งที่ต้องเปลี่ยนแปลงคือ ...
เคยรู้สึกแบบนี้ไหม เวลาที่ทำงานอะไรก็ตามสำเร็จตามเป้าหมาย แต่ภายในใจกลับคิดว่า ‘คนอื่นก็ทำได้เหมือนกัน’ ‘วันนี้โชคดีจริงๆ ’ หรือจะเป็น ‘หลวงพ่อช่วยลูกช้างแล้ว’ ประโยคสั้นๆ ที่ดูแสนธรรมดา แต่กลับแอบแฝงไว้ด้วยความผิดปกติเล็กๆ ที่ก่อตัวขึ้นภายในจิตใจโดยที่เราไม่ทันได้รู้สึกตัว กับอาการของ ‘Imposter Syndrome’ Imposter Syndrome ถูกค้นพบและตั้งชื่อโดย ดร. พอลลีน โรส แคลนซ์ (Pauline Rose Clance) และ ดร.ซูซาน เอเมนท์ อิมีส (Suzanne Ament Imes) นักจิตวิทยาและอาจารย์จากมหาวิทยาลัยจอร์เจียในปี ค.ศ. 1978 ...
การพักผ่อน คือ หนึ่งสิ่งที่มนุษย์ต้องการ เพื่อการฟื้นฟู พักผ่อนร่างกายจากความเหนื่อยล้าที่ประสบพบเจอมาทั้งวัน เราต่างก็แสวงหาความสมบูรณ์แบบในการนอน ระยะเวลาที่เหมาะสม ช่วงเวลาที่เหมาะสม แท้จริงแล้วความสมบูรณ์ของการนอนมีลักษณะเป็นแบบไหนกันแน่? คำตอบนั้นง่ายมาก “ความสมบูรณ์แบบนั้นไม่มีจริง” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการนอนหลับ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น เพราะว่าการนอนเป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล ความเหมาะสมจึงแตกต่างกันตามการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เกณฑ์ที่ผู้คนชอบยึดถืออย่าง นอนพักผ่อนให้ได้อย่างน้อย 8 – 12 ชั่วโมง อาจจะใช้ได้กับคนบางกลุ่มเท่านั้น! แล้วเราจะสามารถรู้ได้อย่างไร ว่าการนอนแบบไหนเหมาะสมกับการใช้ชีวิตของเรา วันนี้เราจะมานำเสนอ ‘Chronotype Quiz’ แบบทดสอบการนอนหลับสำหรับแบ่งแยกประเภทการนอนที่เหมาะสม ตามประเภทของสัตว์ทั้ง 4 ตัว [ Chronotype Quiz คืออะไร? ...
‘ฉลาม’ ถือเป็นสัตว์ประเภทนักล่าแห่งท้องทะเล เป็นหนึ่งในสัตว์สายพันธ์ุที่น่ากลัวที่สุดแห่งมหาสมุทร ด้วยความโหดร้ายในคราบนักล่าของมันผู้คนจึงชอบเปรียบเทียบ ฉลาม และการเป็นผู้นำของมนุษย์ “IN THE WORLD FULL OF FISH, BE A SHARK.” จงเป็นฉลามในโลกที่เต็มไปด้วยปลา เรียกได้ว่าฉลามเป็นภาพตัวแทนของผู้นำ ด้วยเหตุนี้ Future Trends จึงอยากนำเสนอบทเรียน 6 ข้อ ให้ผู้อ่านได้ศึกษา หรือนำไปปรับเปลี่ยนกับชุดความคิด(Mindset) ของตัวเองให้กลายเป็น “ผู้นำเยี่ยงฉลาม” [ ฉลามจะไม่มีวันหยุดที่จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า ] ฉลาม จะไม่หยุดที่จะเคลื่อนที่ไปข้างหน้า คุณเองก็ไม่ควรหยุดอยู่กับที่เช่นกัน การใช้ชีวิตย่อมมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก พบเจอกับความท้าทายที่คาดไม่ถึง ...
คุณกำลังคิดว่าตารางงานของคุณมันเกินที่จะรับไหวแล้ว อย่าพึ่งรีบตีโพยตีพายไป ลองคิดถึงกิจวัตรประจำวันของประธานาธิบดีดูสิ พวกเขาต้องรับมือกับงานที่หลากหลาย รับมือกับความท้าทายมากมาย และมีกำหนดเวลาที่เข้มงวดกว่าพวกเราหลายคน อย่างไรก็ตาม พวกเขาหาวิธีรักษาประสิทธิภาพและทำทุกอย่างให้ลุล่วง แม้จะมีกิจวัตรประจำวันที่เร่งรีบ คุณก็สามารถทำงานต่างๆ ให้สำเร็จลุล่วงได้อย่างมีประสิทธิภาพ และตัวอย่างของผู้นำชาวอเมริกันที่มีชื่อเสียงหลายคนก็พิสูจน์ให้เห็นถึงเรื่องนั้น วันนี้ Future Trends จึงอยากพาไปถอดบทเรียนว่า “ทำอย่างไรจึงจะคงประสิทธิภาพการทำงานด้วยปริมาณงานมหาศาล และทำอย่างไรให้บรรลุกำหนดเวลาที่ยากที่สุด” จากอดีตประธานาธิบดีทั้ง 5 คนของสหรัฐอเมริกา [ การบริหารเวลาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยอดีตประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาทั้ง 5 คน ] 1. จอร์จ วอชิงตัน (George Washington) ประธานาธิบดีคนแรกของสหรัฐอเมริกา ซึ่งวันเกิดของเขากลายมาเป็น ‘วันประธานาธิบดี’ ...
มนุษย์นั้นชอบจับคู่ “ช้อนเงินต้องคู่กับการทานอาหารเกาหลีเท่านั้น” “ชีสต้องทานคู่กับแครกเกอร์” หรือ “ไอศกรีมวานิลลาต้องทานคู่กับฮันนี่โทสต์” มนุษย์น่ะชอบการจับคู่อย่างมาก ไม่เพียงแต่เรื่องของอาหารการกิน นิสัยก็มีการจับคู่เช่นกัน ในอดีตที่ผ่านมาเรามักจะเคยได้ยินแนวคิดการจับคู่ลักษณะนิสัยกับหมู่เลือด หรือ การจับคู่ลักษณะนิสัยกับวันเกิด และอื่นๆ อีกมากมาย แต่หลายๆ แนวคิดไม่ปรากฏให้เห็นข้อเท็จจริง หรือ หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ ล้วนแล้วแต่เป็นเพียงความเชื่อเท่านั้น แล้วถ้าเกิดว่ามีผลการศึกษาวิจัยชี้ให้เห็นล่ะ ว่า “คนชอบทานของหวานเป็นคนอัธยาศัยดี” เราจะสามารถเชื่อได้หรือไม่? วันนี้ Future Trends จะมานำเสนอแนวคิดสุดแหวกแนว โดย ไบรอัน ไมเออร์ (Brian Meier) จากมหาวิทยาลัยเกตทีสเบิร์ก (Gettysburg College) สหรัฐอเมริกา ...
หากพูดถึงการทำงาน แต่ละคนจะมีคำที่เด้งขึ้นในใจที่แตกต่างกันไป เช่น ทำงานก็ต้องได้เงินเดือน ทำงานก็ต้องประสบความสำเร็จ หรือทำงานก็ต้องก้าวหน้าในหน้าที่ และแน่นอนว่า เส้นทางที่เราเดินทางไปยังปลายฝั่งฝันไม่ได้มีเพียงความสำเร็จที่เป็นจุดสิ้นสุด แต่ยังมี ‘ความเหนื่อย’ ปะปนอยู่ด้วย คงปฏิเสธไม่ได้ว่าระหว่างที่เรากำลังทำกิจกรรมต่าง ๆ ความเหนื่อยล้านั้นสามารถคืบคลานมาหาได้ตลอดทั้งวัน และจะยิ่งมาได้รวดเร็วกว่าเดิมหากเรามีอายุมากขึ้น! แน่นอนว่าคนเรามีวิธีร้อยแปดในการบริหารความเหนื่อยล้า ไม่ว่าจะเป็นการกินอาหารอย่างเหมาะสม ออกกำลังกายให้เพียงพอ หรือการหาที่พึ่งพิงทางใจเพื่อเป็นการชาร์จแบตให้กับตัวเอง แต่ถ้าหากความเหนื่อยล้าที่เกิดขึ้นนั้นส่งผลกระทบและรบกวนกิจวัตรประวำวันของเราจนเกินไป ก็คงจำเป็นที่จะต้องไปพบกับแพทย์เพื่อแก้ไขปัญหา เพราะอาจเป็นความผิดปกติร้ายแรงได้ หรือจะลองพิจารณาเคล็ดลับที่ Future Trends นำมาฝากในวันนี้ก่อนก็ได้นะ [ เคล็ด(ไม่)ลับ 5 ข้อ ที่จะช่วยเติมพลังให้ชีวิต ] 1. ออกไปรับแสงแดดในยามเช้า การเข้าและตื่นนอนให้ตรงเวลาเดิมในทุกๆ ...
วันพฤหัสบดีที่ 6 กรกฎาคม 2566 เวลา 9 โมงเช้าไทย เมตา(Meta) บริษัทของเฟซบุก และอินสตาแกรม ได้เปิดตัวแพลตฟอร์มน้องใหม่ที่มีชื่อว่า ‘Treads’ โดยให้ข้อมูลว่า “Threads จะเป็นแพลตฟอร์มส่วนหนึ่งของอินสตาแกรมที่ขยายการพูดคุยให้มากยิ่งขึ้น” เท่ากับว่าสถานการณ์ของเมตาในตอนนี้ให้บริการ และครอบครองโซเซียลมีเดียอยู่รอบด้าน (โพสต์ข้อความ โพสต์รูปภาพ และเทรดพูดคุย) ในส่วนของ Threads ผู้พัฒนาจะยึดติดมันกับแพลตฟอร์มเก่าอย่างอินสตาแกรม ผู้ใช้งานอินสตาแกรมไม่จำเป็นต้องสมัครบัญชีใหม่แต่อย่างใด สามารถใช้ฟังก์ชันการค้นหา แล้วพิมพ์ว่า ‘Threads’ จะปรากฏตั๋วสำหรับการโหลดใช้งานแอปพลิเคชันได้ทันที ในเวลา 10 โมงที่ผ่านมาถือว่าเป็นเวลากว่า 1 ชั่วโมงที่แพลตฟอร์มได้เปิดให้สมัครสมาชิก หรือเชื่อมต่อบัญชีจากอินสตาแกรม มาร์ก ...
เป็นกระแสฮือฮาถล่มโลกออนไลน์อีกครั้ง หลังจาก ‘Threads’ แพลตฟอร์มน้องใหม่จาก Meta เปิดให้ใช้งานกันแล้ววันนี้ แน่นอนว่าสิ่งที่แบรนด์ให้ความสนใจคงหนีไม่พ้นการใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียใหม่ ในการส่งเสริมธุรกิจ ปัจจุบันการทำการตลาด หรือการสร้างแบรนด์ ให้มีตัวตนในสายตาผู้คนมีหลากหลายวิธีให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะเป็นการนิยามตัวเองให้แปลกใหม่ การทำเพื่อสังคม สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นคุณค่าของแบรนด์ที่แสดงถึงความเป็นตัวตน และไม่เหมือนใคร ถึงแม้เราจะบอกว่ามันมีหลากหลายวิธี แต่ช่องทางการนำเสนอตัวตนของแบรนด์กลับน้อยนิด สามารถแบ่งแยกได้ง่ายๆ คือ ออฟไลน์ และออนไลน์ ซึ่งในยุคสมัยนี้ออนไลน์เป็นกุญแจสำคัญในการสื่อสารตัวตนของแบรนด์ได้เป็นอย่างดี การนำแบรนด์เข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์มันจะคุ้มค่าจริงหรือเปล่า ขออ้างอิงจากสถิติการใช้งานโซเซียลมีเดียของผู้คนในปี 2021 ที่มีมากกว่า 4.2 พันล้านคน และการเข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ของแบรนด์ธุรกิจรายเล็กต่างๆ กว่า 77 เปอร์เซ็นต์ เป็นตัวเลขที่ค่อนข้างน่าสนใจเลยใช่ไหม ถึงแม้ว่ามันจะการันตีความคุ้มค่าในการลงสนามไม่ได้ แต่มันก็เป็นตัวเลขที่แสดงให้เห็นถึงความน่าจะเป็นที่ดีในการเติบโตของแบรนด์ในแพลตฟอร์มออนไลน์ ...
‘TikTok’ แพลตฟอร์มให้ความบันเทิงผ่านคลิปวิดีโอสั้นๆ จากแดนมังกร ที่ปัจจุบันไม่ได้เป็นที่นิยมในแค่ประเทศจีน แต่กำลังขยายความนิยมไปทั่วโลก ด้วยสถิติจำนวนผู้ใช้ที่มากกว่า 1,000 ล้านคน ด้วยรูปแบบของแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้อย่างไม่ซับซ้อน มีเนื้อหาที่หลากหลาย ทำให้คนทุกเพศและทุกวัยสามารถเข้าถึงได้ง่าย อีกทั้งยังมีอัลกอริทึมที่นำเสนอเนื้อหาโดยอ้างอิงจากสิ่งที่ผู้ใช้สนใจ จึงไม่น่าแปลกใจที่แอปพลิเคชันนี้จะ ถูกจัดให้เป็น “Top App Worldwide Q1” ที่มีคนดาวน์โหลดมากที่สุดในโลก คงปฏิเสธไม่ได้ว่าความสนุกของ ‘TikTok’ มาจากการที่เราสามารถเลื่อนดูคลิปวิดีโอที่น่าสนใจผ่านการสัมผัสแค่ปลายนิ้วในระยะเวลาสั้นๆ แต่รู้ไหมว่า ทุกการสัมผัสหน้าจอแต่ละครั้ง กลับแฝงไปด้วยภัยอันตรายที่เราอาจถูกจู่โจมแบบโดยไม่รู้ตัว! [ TikTok Brian ภัยเงียบที่แฝงมากับความสนุกจากปลายนิ้วสัมผัส ] TikTok Brain เป็นพฤติกรรมสมองของมนุษย์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับการใช้งานแอปพลิเคชัน TikTok นั่นคือการดูคลิปวิดีโอสั้นๆ ...