LOADING

Type to search

หมดปัญหา Work – Life Balance นวัตกรรมจักรยานออกกำลังกาย ปั่นไป ทำงานไป ชาร์จไฟได้ด้วย

หมดปัญหา Work – Life Balance นวัตกรรมจักรยานออกกำลังกาย ปั่นไป ทำงานไป ชาร์จไฟได้ด้วย
Share

งานก็เยอะ ค่าใช้จ่ายก็แยะ ไม่มีเวลาออกกำลังกาย ไม่รู้ทำอย่างไรดี? ปัญหาเหล่านี้อาจช่วยผ่อนคลายได้ด้วยนวัตกรรมล่าสุด ซึ่งเพิ่งเปิดตัวในงาน Consumer Electronics Show (CES) นิทรรศการแสดงสินค้าเทคโนโลยีสุดล้ำประจำปี 2023 ที่นครลาสเวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกา

นวัตกรรมที่ว่า คือ โต๊ะทำงานที่ผสมผสานกับจักรยานออกกำลังกาย และเครื่องปั่นไฟ กลายเป็นอุปกรณ์เครื่องใช้ 3-in-1 เป็นผลงานการสร้างสรรค์ของ Acer บริษัทผู้ผลิตคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปชื่อดัง โดยตั้งชื่อนวัตกรรมนี้ว่า ‘Acer eKinekt BD 3’

คุณสมบัติพิเศษของ Acer eKinekt BD 3 คือการเป็นจักรยานออกกำลังกายที่มีแท่นเป็นโต๊ะทำงานอยู่ด้านหน้า ทำให้สามารถวางโทรศัพท์ หรือโน้ตบุ๊ก เพื่อออกกำลังกายไปด้วยและทำงานไปด้วยในเวลาเดียวกัน

นอกจากนี้ แท่นขาปั่นยังทำหน้าที่เป็นเครื่องปั่นไฟ โดยระหว่างปั่นจักรยานออกกำลังกาย มันจะผลิตกระแสไฟออกมา โดย Acer ระบุว่า หากปั่นต่อเนื่องนาน 1 ชั่วโมง ด้วยความเร็ว 60 รอบต่อนาที (RPM) สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 75 วัตต์

กำลังไฟที่ผลิตได้แม้ไม่ถือว่ามาก แต่ก็เพียงพอสำหรับใช้ชาร์จโทรศัพท์และคอมพิวเตอร์แล็ปท็อปหลายรุ่นให้เต็มได้ โดยแล็ปท็อปรุ่นใหม่ซึ่งมีขนาดบางเบา ส่วนใหญ่ใช้ไฟแค่ประมาณ 45 – 65 วัตต์

สำหรับอุปกรณ์อื่นๆ ที่ออกแบบมาพร้อมกับจักรยานออกกำลังกาย 3-in-1 เครื่องนี้ คือ ช่องชาร์จ USB ทั้งหมด 3 ช่อง หนึ่งในนั้นเป็นช่องชาร์จขนาดเล็กสำหรับ USB-C ส่วนที่เหลือเป็นช่อง USB-A แบบคลาสสิก

ขณะเดียวกันยังมีช่องสำหรับวางแก้วน้ำบนส่วนโต๊ะทำงาน และแท่นโต๊ะทำงานสามารถเลื่อนเข้า-ออกได้ เพื่อปรับให้เข้ากับสรีระและท่าทางการออกกำลังกายของแต่ละคน

นอกจากนี้ แท่นทำงานและตัวเครื่องภายนอกยังทำจากพลาสติกรีไซเคิลทั้งหมด ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และด้านหน้าของโต๊ะทำงานมีหน้าจอและปุ่มปรับระดับความยากของการปั่นจักรยาน ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟน เพื่อเก็บสถิติการออกกำลังกายได้ด้วย

แม้นวัตกรรมหลายชิ้นที่นำมาจัดแสดงในงาน CES มักถูกค่อนขอดว่า เป็นสิ่งประดิษฐ์ที่ไอเดียกระฉูด แต่สุดท้ายไม่ได้ผลิตออกมาวางขายจริง

แต่สำหรับจักรยานออกกำลังกาย Acer eKinekt BD 3 ตัวนี้ มีแผนออกสู่ตลาดจริง โดยจะเริ่มวางขายในยุโรป เดือนมิถุนายน 2023 ในราคาเครื่องละ 999 เหรียญสหรัฐ (ประมาณ 33,000 บาท)

ส่วนในเอเชีย และประเทศไทย ยังไม่มีข่าวว่าจะเข้ามาเมื่อไหร่ แต่ถ้ามาขายจริงก็น่าจะได้รับความสนใจไม่น้อย เนื่องจากเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ปัญหาของคนยุคนี้ ที่ต้องทำงานจนไม่มีเวลาออกกำลังกาย แถมยังต้องจ่ายค่าไฟแพงขึ้นอีกด้วย

เขียนโดย Phanuwat Auaudomchaisakun

Source: https://bit.ly/3XkkCnP

Tags::

You Might also Like