LOADING

Type to search

‘Scroogenomics’ อีกด้านของการมอบของขวัญที่อันตรายต่อ ‘การเงิน’ มากกว่าที่คิด

‘Scroogenomics’ อีกด้านของการมอบของขวัญที่อันตรายต่อ ‘การเงิน’ มากกว่าที่คิด
Share

ในความคิดของหลายคน ‘วันปีใหม่’ คงเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่รายล้อมไปด้วยความอบอุ่นจากการใช้เวลาอันแสนล้ำค่ากับคนที่รัก รวมถึงเป็นช่วงเวลาสุดพิเศษที่เหมาะกับการมอบของขวัญสักชิ้น เพื่อสร้างความทรงจำดีๆ ระหว่างกัน

การมอบของขวัญมาพร้อมเรื่องราว ‘ฟีลกู๊ด’ และความอิ่มเอมใจเสมอ เพราะภายในกล่องของขวัญไม่ได้มีเพียง ‘สิ่งของ’ ที่คัดสรรมาอย่างดี แต่ยังมี ‘ความสุข’ ที่ผู้ให้ต้องการส่งต่อไปยังผู้รับอยู่ด้วย ดังนั้น ของขวัญจึงเป็นสิ่งที่แสดงถึงสายสัมพันธ์อันดีระหว่างทั้งสองฝ่ายในเวลาเดียวกัน

แต่การมอบของขวัญมีเพียงเรื่องราวดีๆ จริงเหรอ?

Future Trends จะพาไปสำรวจเรื่องราวอีกด้านของการมอบของขวัญที่เป็นอันตรายต่อ ‘สภาพการเงิน’ ผ่านสิ่งที่เรียกว่า ‘Scroogenomics’ แนวคิดของความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการซื้อของขวัญให้ผู้อื่น

‘Scroogenomics’ คืออะไร?

Gift and Money
Image by jannoon028 on Freepik

Scroogenomics เป็นแนวคิดของ ‘โจเอล วอลด์โฟเจล’ (Joel Waldfogel) นักเศรษฐศาสตร์จากมหาวิทยาลัยมินนิโซตา (University of Minnesota) ที่ระบุว่า การมอบของขวัญมีโอกาสทำให้เกิดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ (Deadweight Loss) เพราะผู้รับไม่ได้พึงพอใจกับของขวัญที่รับมา แม้จะเป็นสินค้าราคาสูงก็ตาม

โจเอลทำการวิจัยโดยสอบถามนักเรียนของตัวเองจำนวน 86 คน ผลปรากฏว่า หากต้องใช้เงินซื้อของที่รับมาจะยอมจ่ายเพียง 70 เปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้าเท่านั้น แต่ถ้าแลกเป็นเงินสดได้ จะยอมแลกเป็นเงินมูลค่า 90 เปอร์เซ็นต์ของราคาสินค้า ซึ่งมูลค่า 10 – 30 บาทที่เสียไป ถือเป็นเงินที่ผู้ให้ของขวัญสามารถนำไปทำอย่างอื่นที่มีประโยชน์ได้มากกว่า

แนวคิดของโจเอลย่อมมีคนต่อต้านแน่นอน เพราะการมอบของขวัญไม่ได้มีแค่เรื่องมูลค่าสิ่งของเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่เป็นเรื่องของคุณค่าทางจิตใจและการส่งต่อสิ่งดีๆ ให้ผู้อื่น รวมถึงการมอบของขวัญยังเป็นธรรมเนียมที่ปฏิบัติกันมายาวนาน จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่คนบางกลุ่มจะเปิดใจยอมรับแนวคิดนี้ได้ทันที

แต่ในปี 2022 ที่เศรษฐกิจส่อแววบอบช้ำหนัก ทำให้หลายคนตัดสินใจรัดเข็มขัดตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นและตั้งคำถามว่า การมอบของขวัญช่วงเทศกาลเป็นการส่งต่อความสุขให้ผู้อื่น หรือการปฏิบัติตามกระแสนิยมกันแน่?

‘การมอบของขวัญ’ ช่วงเทศกาลยังจำเป็นหรือไม่?

Image by Freepik

ไม่ว่าการมอบของขวัญจะเป็นการส่งต่อความสุข หรือทำตามกระแสนิยม สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือการมอบของขวัญเป็นภาระทางการเงินรูปแบบหนึ่งของผู้ให้ เพราะของขวัญแต่ละชิ้นต้องเกิดจากการซื้อสินค้าด้วยจำนวนเงินที่เหมาะสม

ในปี 2021 ชาวอังกฤษใช้จ่ายสำหรับค่าของขวัญโดยเฉลี่ย 550 ปอนด์ (22,500 บาท) จากรายได้โดยเฉลี่ยที่ 38,131 ปอนด์ต่อเดือน ถึงแม้ค่าของขวัญจะเป็นสัดส่วนเพียง 1.4 เปอร์เซ็นต์ของรายได้ แต่เมื่อพิจารณาด้วย Scroogenomics เท่ากับว่า ผู้ให้ของขวัญกำลังสูญเสียมูลค่าทางการเงินประมาณ 10 – 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว

โจเอลมองว่า ของขวัญที่ตอบโจทย์แนวคิดของเขาคือ ‘บัตรของขวัญ’ เพราะเป็นสิ่งที่ให้อิสระกับผู้รับในการเลือกซื้อสินค้าที่ต้องการ แต่บัตรของขวัญกลับไม่เป็นที่นิยมเท่าที่ควร เพราะตามธรรมเนียมปฏิบัติจะนิยมมอบของขวัญเป็นสิ่งของมากกว่า โดยผลสำรวจจาก Ipsos ระบุว่า มีชาวอังกฤษเพียง 29 เปอร์เซ็นต์ ที่ตั้งใจมอบบัตรของขวัญในช่วงเทศกาล

นอกจากนี้ ของขวัญที่ผู้รับไม่ได้ใช้ยังมีโอกาสแปรเปลี่ยนเป็น ‘ของในกรุ’ มากขึ้น (หากไม่มีระบบการคืนสินค้า) เพราะ ‘แอล เจอร์รี’ (Al Gerrie) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ZigZag แพลตฟอร์มการคืนสินค้าในอังกฤษ เผยว่า ‘อัตราการคืนสินค้ามีแนวโน้มสูงขึ้นมาก’ สะท้อนให้เห็นถึงการที่ผู้รับได้ของขวัญไม่ตรงกับความต้องการ และไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์อย่างที่ผู้ให้ตั้งใจ

ถึงแม้การมอบของขวัญจะมีเรื่องราวเกี่ยวกับคุณค่าทางจิตใจที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้เข้ามาเกี่ยวข้องและขัดกับแนวคิดของ Scroogenomics แต่แนวคิดนี้กลับมีมิติที่เป็นประโยชน์ต่อการมอบของขวัญมากขึ้น โดยเฉพาะการคิดอย่างถี่ถ้วนก่อนซื้อของขวัญ เพื่อที่ผู้รับจะสามารถนำของชิ้นนั้นไปใช้ประโยชน์ได้อย่างแท้จริง

Sources: https://bit.ly/3jKVcBk

https://bit.ly/3IiinNq

https://bit.ly/3G8A3bL

Tags::
Witchayaporn Wongsa

อดีตนิสิตวิทยาศาสตร์ที่จับผลัดจับผลูมาเป็น Content Creator เพราะค้นหาตัวเองจนเจอสิ่งที่ใช่จากการทำกิจกรรม สนใจโลกธุรกิจและสารพันสิ่งเกี่ยวกับ 'เกาหลี' เชื่อในพลังแห่งการอ่าน (แต่หนังสือที่อ่านค้างมีมากกว่าหนังสือที่อ่านจบ)

  • 1