เขตการศึกษาแห่งหนึ่งในรัฐไอโอวา สหรัฐอเมริกา ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อพิจารณาว่า “ควรนำหนังสือเล่มไหนออกจากห้องสมุดของโรงเรียน” เพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายของรัฐบาลที่สั่งห้ามไม่ให้มีสื่อที่แสดงออกถึง ‘กิจกรรมทางเพศ’ และ ‘ความหลากหลายทางเพศ’ Mason City Schools ได้แบนหนังสือกว่า 19 เล่มออกจากห้องสมุดโรงเรียน หลังจากที่ผู้ช่วยผู้อำนวยการ ป้อนรายชื่อหนังสือที่ถูกแบนในประเทศไปประมาณ 50 เล่ม ลงใน ChatGPT และขอให้พิจารณาว่าหนังสือเล่มใด ในโรงเรียนแห่งนี้ มีภาพที่แสดงได้ถึงกิจกรรมทางเพศ นี่ถือว่าเป็นครั้งแรกที่มีการใช้งานปัญญาประดิษฐ์ ในการพิจารณาว่าควรนำหนังสือเล่มไหนออกจากห้องสมุดของโรงเรียน แพท แฮมิลตัน (Pat Hamilton) ผู้อำนวยการ Mason City Schools กล่าวว่า “เขตนี้ไม่เคยสั่งแบนหนังสือมาก่อน” ...
หลายปีที่ผ่านมา ผู้คนต่างออกมาขอโทษในสิ่งเลวร้ายที่เคยทำไป มีให้เห็นตั้งแต่การไม่ขอโทษแบบเดิมๆ ไปจนถึงการใช้ข้ออ้างมากมาย การขอโทษที่ไม่ดีนั้นง่ายเกินไป แต่นักวิจัยพบว่าการขอโทษที่ดีมีองค์ประกอบบางอย่างร่วมกัน และการพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบสามารถช่วยให้คุณแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี เนื่องจากการขอโทษในที่สาธารณะมีความยุ่งยากเฉพาะตัว เราจะเน้นที่ตัวอย่างแบบตัวต่อตัว ลองนึกภาพ “สำนักงานแห่งใหม่ของคุณมีแซนด์วิชไอศกรีมฟรีอยู่ในตู้เย็นส่วนกลาง หรืออย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่คุณคิด แต่เมื่อวันศุกร์ เมื่อคุณช่วยเพื่อนร่วมงานของคุณจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้เพื่อนร่วมงานอีกคน เขาพบว่าไอศกรีมครึ่งหนึ่งที่เขาซื้อสำหรับงานฉลองนั้นหมดไปแล้ว” แม้ว่านี่จะเป็นอุบัติเหตุที่น่าอับอายอย่างเห็นได้ชัด แต่การออกมาข้างหน้าและขอโทษยังคงเป็นสิ่งที่ควรทำ การทำความเข้าใจและยอมรับความรับผิดชอบต่อการกระทำของคุณ คือสิ่งที่นักวิจัยบางคนเรียกว่า ‘หัวใจสำคัญของคำขอโทษ’ แต่ไม่เป็นไรถ้าหากรู้สึกว่ามันยากเกินไป มันควรจะเป็นเช่นนั้น! การขอโทษที่มีค่าใช้จ่ายสูงเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้มันมีความหมาย ดังนั้น แม้ว่าคุณจะถูกล่อลวงให้ปกป้องการกระทำของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าคำขอโทษที่ดีไม่ได้เกี่ยวกับการทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น มันเกี่ยวกับการพยายามทำความเข้าใจมุมมองของฝ่ายที่ถูกกระทำผิด และซ่อมแซมความเสียหายต่อความสัมพันธ์ของคุณ นั่นหมายความว่าคุณควรขอโทษด้วยความรู้สึกผิดไม่ใช่ขอโทษเพราะมันทำให้รู้สึกดี แน่นอนมันมีความผิดพลาดที่เกิดจากอุบัติเหตุ และเกิดจากความตั้งใจ ลองนึกภาพ “คุณสัญญากับ ‘ฟิล์ม’ ...
‘ความไว้ใจ’ คือ ความเชื่อที่เรามีให้กับคนอื่น โดยเชื่อว่าเขาจะซื่อสัตย์ ไม่ทำร้าย หรือเอาเปรียบเรา ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานที่แสดงถึงความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างกันและกัน ทำให้เรามีความร่วมมือในการทำสิ่งต่างๆ อย่างจริงใจ และมีความภักดีต่อกันตามมา ‘ความไว้ใจ’ เป็นพื้นฐานของการทำงานร่วมกันกับผู้อื่น การที่พนักงานมีความไว้วางใจให้กับหัวหน้า และหัวหน้าก็มีความไว้วางใจให้กับพนักงาน จะก่อให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานที่สูงขึ้น เหล่าพนักงานจะกล้าแสดงความคิดเห็นเพื่อพัฒนาชิ้นงานให้ไปถึงจุดสูงสุด และมีอัตราความเครียดหรือความเหนื่อยที่ต่ำลง ผู้นำจึงควรใส่ใจในเรื่องของ ‘ความไว้ใจ’ เพราะประโยชน์ของมันส่งผลดีต่อทีมได้ไม่น้อยเลยล่ะ แต่บางครั้ง ความไว้วางใจก็ ‘สร้าง’ ยากกว่าที่เราคิด โดยอาจมีสาเหตุมาจากการสมาชิกในทีมจะมีนิสัยที่แปลกๆ เป็นคนที่มักทำงานผิดพลาดอยู่บ่อยๆ หรือก็อาจจะเกิดการที่ทำงานแบบ WFH ทำให้ผู้นำอย่าง ‘หัวหน้า’ และสมาชิกไม่ค่อยได้พบกันก็ตาม การ ‘ขาดซึ่งความไว้ใจ’ นั้นส่งผลกระทบทางลบต่อการทำงานเป็นทีม โดยอาจส่งผลให้ผู้นํารู้สึกกังวล ...
การตลาด เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญที่นำไปสู่การประสบความสำเร็จทางธุรกิจ มันทำให้ธุรกิจมีประสิทธิภาพมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะมีกระแสที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเปลี่ยนแปลงตลอด สอดคล้องกับความสนใจของมนุษย์ในช่วงเวลานั้นๆ ในปัจจุบันมีธุรกิจจำนวนมากที่ใช้เงินจำนวนมหาศาลไปกับงบการตลาด แต่ก็มักจะลืมองค์ประกอบสำคัญบางอย่างที่มีแนวโน้วในการเข้าถึงลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น วันนี้ Future Trends จะมาเล่าให้ฟังกับเรื่องราวของ “4 อย่าง กลยุทธ์ทางการตลาด” ที่มักจะถูกละเลย แต่พวกมันคือ Game-Changer ที่สามารถพลิกโฉมธุรกิจของคุณได้อย่างง่ายดาย เพียงนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปผสมผสานให้ลงตัวกับ Campaign ของธุรกิจของคุณ [ 1. ใช้ประโยชน์จากคำวิจารณ์ของลูกค้า ] ความคิดเห็นของลูกค้าอาจจะสร้าง หรือ ทำลายธุรกิจของคุณได้เลยในยุคดิจิทัล ทว่า ธุรกิจจำนวนมากไม่ได้ใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางการตลาดที่สำคัญนี้ให้เกิดประโยชน์เลย ทรัพยากรที่ว่านี้คือ ‘บทวิจารณ์เชิงบวกจากลูกค้า’ สิ่งนี้ไม่เพียงแต่เพิ่มความน่าเชื่อถือ แต่ยังดึงดูดลูกค้าใหม่ๆ ...
ในความเป็นจริงมีสิ่งหนึ่งที่ ‘โหดร้าย’ มาก และใครหลายๆ คนเลือกที่จะปฏิเสธมัน มันคือ ‘ความสามารถในการควบคุม’ แล้วมันโหดร้ายอย่างไร? ก็เพราะว่าเมื่อมีสิ่งที่ควบคุมได้คุณก็จะรู้สึกว่ามีอำนาจในการควบคุมเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตคุณ แต่เมื่อคุณเจอตอกับสิ่งที่คุณไม่สามารถควบคุมได้มันจะสร้างความเครียดให้คุณอย่างมาก วันนี้ Future Trends จะมานำเสนอ 6 วิธีในการหยุดความเครียดเกี่ยวกับสิ่งที่คุณควบคุมไม่ได้ แต่ก่อนอื่นผู้อ่านอาจจะต้องยอมรับในจุดที่ว่า “เราไม่สามารถควบคุมทุกอย่าง” ได้ก่อน ไม่เช่นนั้นทั้ง 6 ข้อจะไม่มีความหมายอะไรเลย [ 1. กำหนดสิ่งที่คุณสามารถควบคุมได้ ] ในความเป็นจริง มีหลายสิ่งหลายอย่างในชีวิตที่คุณควบคุมไม่ได้ ไม่ว่าจะเป็น ฝนตกที่ผลพยากรณ์อากาศไม่เคยจะแม่นยำเลย หรือ คุณไม่สามารถบังคับให้ผู้อื่นเปลี่ยนแปลงไปเป็นในสิ่งที่คุณชอบได้ คุณไม่สามารถกำหนดไม่ให้พายุเกิดขึ้นได้ และคุณไม่สามารถควบคุมความรู้สึกของคนอื่นได้ ...
นอกเหนือจากภาพจำของการเป็นผู้นำ ‘หมาป่า’ ยังถูกยึดโยงกับวัฒนธรรมองค์กรอีกด้วย โดยมาจากความดุร้ายของพวกมัน ทำให้ผู้ประกอบการในประเทศจีนหลายๆ แห่ง นิยามคำว่า ‘Wolf Culture’ หรือ ‘วัฒนธรรมหมาป่า’ ขึ้นมา เป็นคุณสมบัติที่ผู้ประสบความสำเร็จต้องมี องค์กรใหญ่ระดับโลกอย่าง ‘Huawei’ ก็เป็นหนึ่งในองค์กรที่มีแนวคิดวัฒนธรรมองค์กรแบบหมาป่า แล้ว Wolf Culture แท้จริงแล้วมันมีลักษณะแบบใดกันแน่ แค่ความดุร้ายอย่างเดียวคงไม่สามารถขับเคลื่อนองค์กรได้หรอก [ Wolf Culture คืออะไร? ] หากผู้อ่านยังจำกันได้ Future Trends เคยเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับผู้นำแบบหมาป่า ตัววัฒนธรรมหมาป่าจะคล้ายคลึงกัน คือ การทำงานที่ทุกคนมีหน้าที่ ทุกตำแหน่งสำคัญ ขาดตำแหน่งไหนไปไม่ได้ ...
หลายคนเปรียบเทียบการเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจกับการแต่งงาน เพราะความสำคัญในชีวิตของหุ้นส่วนทางธุรกิจมีความสำคัญมากเพียงใด จะขึ้นตรงกับความสำเร็จทางธุรกิจ และมีโอกาสที่คู่ค้าทางธุรกิจจะใช้เวลาร่วมกันมากกว่าคู่สมรสที่แท้จริงของตัวเองอีกด้วย ผู้คนมักจะกระโดดเข้ามาสู่การเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจโดยเริ่มต้นจากการเป็นเพื่อนกันมาก่อน ซึ่งมีทั้งรายที่ไปได้ดี และเลวร้ายถึงขั้นแตกหักกันก็มี ดังนั้น ความแน่ใจจึงเป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจก่อนจะร่วมลงทุนกับใครต้องมั่นใจก่อน วันนี้ Future Trends มีชุดคำถามที่สามารถนำไปใช้ประกอบการตัดสินใจก่อนที่จะร่วมลงทุนกับใคร 1. เราต้องการสิ่งเดียวกันหรือไม่? เงินมักเป็นแรงจูงใจร่วมกัน แต่ความต้องการในตัวเงินมักต่างกัน ตลอดจนความเข้ากันได้ของแรงจูงใจอื่นๆ เช่น ความสมดุลระหว่างการทำงานและชีวิตปกติ บ่อยครั้งที่คู่ค้ามาพร้อมกับความแตกต่างทางการเงิน ตัวอย่าง คน 2 คนที่ร่วมลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยคนหนึ่งประสบความสำเร็จทางการเงินแล้ว ทำให้การร่วมกันทางธุรกิจนี้มีแต่ความสนุกได้ทดลองสิ่งต่างๆ แต่หุ้นส่วนอีกคนมีแต่ความความเครียดในการทำงานเนื่องจากเป็นการลงทุนที่หวังผลกำไร ดังนั้น ควรถามก่อนว่าต้องการอะไรในการร่วมธุรกิจครั้งนี้ 2. เราจะทำงานหนักแค่ไหน? คนสองคนจะมีความแตกต่างกันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในเวลา และจำนวนงานที่พวกเขาจะทำงาน อาจดูเหมือนเป็นเรื่องน่าปวดหัวที่จะถามว่า ...
เหตุใดเราต้องทำหลายอาชีพ ถ้าไม่ใช่เพราะเงิน ยังมีเหตุผลใดอีกที่ต้องทำ?
“ปล่อยมันไป อย่างที่เป็น ไม่อาจจะเก็บอีกต่อไป ปล่อยออกมา เลิกซ่อนเร้น เดินกลับหลัง หมดสิ้นเยื่อใย ฉันไม่กลัว ปล่อยให้เขาพูดไป พัดให้โหมกระหน่ำ ความหนาวไม่ทำให้เดือดร้อนซักเท่าไหร่” ‘ปล่อยมันไป (Let it go)’ เป็นเพลงติดหูที่ใช้ประกอบแอนิเมชั่นชื่อดัง ‘Frozen’ จากอาณาจักรยักษ์ใหญ่ของความฝันวัยเยาว์อย่าง ‘Disney’ ที่กวาดรายได้ไปกว่า 1,276 ล้านบาท และคว้ารางวัลไปได้อย่างล้นหลามในปี 2013 ซึ่งภาพยนต์เรื่องนี้ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในความสำเร็จของ Disney ในระยะเวลาเกือบ 100 ปีเลยก็ว่าได้ The Walt Disney Company หรือที่เราเรียกกันสั้นๆ ว่า ...
เรียนรู้เคล็ดลับการใช้มือประกอบการพูดให้ทรงพลังกว่าที่เคย