เวลาของปี 2566 ผ่านไปแล้วเกือบๆ 8 เดือน และในเดือนสิงหาคมนี้ ทุกคนเคยสังเกตตัวเองหรือสิ่งรอบตัวกันบ้างไหม ว่ามีอะไรที่คงอยู่ หรือเปลี่ยนแปลงไปบ้าง?
เชื่อเถอะว่าอย่างน้อยชีวิตเราก็คงมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเป็นทางดีหรือทางลบ เช่น การมีริ้วรอยเล็กๆ บนใบหน้า การมีน้ำหนัก 2-3 กิโลกรัมเพิ่มขึ้นมา หรืออาจจะเป็นการ ‘ขี้เกียจ’ ด้วยสภาพร่างกายที่เริ่มเฉื่อยชาบวกกับสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ไม่ดี ส่งผลให้จิตใจที่หม่นหมองลง
ไม่แปลกเลยถ้าความเปลี่ยนแปลงนั้นจะแตกต่างจากคนอื่น และไม่ค่อยจะส่งผลดีต่อการทำงานสักเท่าไหร่ เพราะใครๆ ก็สามารถ ‘ขี้เกียจ’ได้ แต่ถ้าหากรู้สึกแย่ หรือผิดหวังในตัวเอง ก็ขอนำเสนอกิจกรรมหนึ่งที่สามารถทำได้ไม่ยาก แถมยังมีประโยชน์ อย่างการ‘การอ่านหนังสือ’ มาแนะนำ
การอ่านหนังสือ นอกจากจะช่วยให้เราได้ความรู้และผ่อนคลายแล้ว ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง แถมยังสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้กับเราได้อีกด้วยนะ
เพราะฉะนั้น วันนี้ Future Trends จะมาแนะนำ ‘8 หนังสือ’ ที่จะช่วยให้อีก 4 เดือนที่เหลือของเรามีความหมาย และเปลี่ยนไปจากเดิม จากที่เราเคยเป็นคนเอื่อยเฉื่อย จะกลายเป็นคนที่แสนโปรดัคทีฟในทันทีเลยล่ะ!
1. ATOMIC HABITS เพราะชีวิตดีได้กว่าที่เป็น โดย JAMES CLEAR
ยกระดับความโปรดัคทีฟในตัวเราอย่างมีประสิทธิภาพด้วย ‘ATOMIC HABITS’ ที่จะช่วยปลูกฝังนิสัยดีๆ ให้เราอย่างมีคุณภาพ ด้วยกฎ 4 ข้อ 1) แนะแนว 2) ทำใหม่ 3) สร้างได้ และ 4) ได้ผล
หนังสือสือเล่มนี้จะสอนให้เรารู้ว่าการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถสร้างผลลัพธ์ที่น่าเหลือเชื่อได้ ทั้งยังนำเสนอวิธีเกี่ยวกับการส่งเสริมพฤติกรรมสร้างสรรค์ และการกำจัดพฤติกรรมท็อกซิกให้หมดไป
2. “Getting Things Done” บริหารชีวิต พิชิตความสำเร็จ โดย David Allen
‘Getting Things Done’ เป็นหนังสือที่ช่วยให้เราสามารถจัดการทุกเรื่องราวในชีวิตได้ดีด้วยการรวบรวม-ประมวลผล-จัดระเบียบ -ทบทวน-ลงมือทำ โดยที่ไม่ต้องรู้สึกลำบากใจหรือเครียดที่จะทำ สามารถลำดับความสำคัญของงานแต่ละงานได้ อีกทั้งยังได้วิธีที่ทำให้จิตใจให้ปลอดโปร่ง พร้อมสู้กับทุกปัญหาที่เข้ามา
3. กินกบตัวนั้นซะ! Eat That Frog! โดย Brian Tracy
เรียนรู้กลยุทธ์ในการจัดการนิสัยผัดวันประกันพรุ่งด้วย ‘Eat That Frog!’ หรือการกินกบที่เปรียบเสมือน ‘งาน’ ที่เราไม่ชอบและลำบากใจที่จะทำ จนต้องคอยผัดวันมันไปเรื่อยๆ หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เราลำดับงานและความสำคัญได้ดียิ่งขึ้น โดยจัดการกับสิ่งที่น่ากลัวที่สุดก่อน
4. จงทิ้งสิ่งที่ดีเพื่อสิ่งที่ดีที่สุด Essentialism โดย Greg McKeown
‘Essentialism’ เป็นหนังสือเกี่ยวกับการรักษาสิ่งที่สำคัญเอาไว้ และปล่อยวางกับสิ่งที่เหลือ กล่าวคือ เราควรมุ่งโฟกัสในงานที่สำคัญอย่างแท้จริงทีละงาน ดีกว่าการทำทุกอย่างไปพร้อมๆ กัน ซึ่งถือเป็นการปรับปรุงการทำงานของเราให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยที่ใช้เวลาเท่าเดิม เรียกได้ว่าหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้เราวางแผนการตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดนั่นเอง
5. DRIVE เมื่อสิ่งที่จูงใจคนได้…ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด โดย Daniel H. Pink
‘Drive’ เป็นการนำเสนอแนวคิดใหม่ในการทำงาน โดยเจาะลึกถึงแรงจูงใจที่มีผลต่อประสิทธิภาพในการทำงานของเราอย่างมาก และได้พูดถึงเทคนิคการ ‘ใช้รางวัลและการลงโทษ’ เพื่อสร้างแรงจูงใจว่าเป็นวิธีที่ล้าสมัย เพราะสิ่งที่ช่วยให้เราโปรดัคทีฟได้จริงคือการที่เราทำสิ่งต่างๆ เพราะเรา ‘ต้องการ’ ทำเสียมากกว่า
6. ใช้ความคิดเอาชนะโชคชะตา mindset โดย Carol S. Dweck
จิตวิทยากับความโปรดัคทีฟเป็นของคู่กัน เช่นเดียวกับการกระทำที่ทำให้เราไปถึงเป้าหมาย ‘mindset’ เล่มนี้ มีเนื้อหาเกี่ยวกับกรอบแนวคิดสองรูปแบบ คือ 1) เชื่อว่าความสามารถของคุณเป็นไปตามที่เป็นอยู่และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ และ 2) คุณสามารถปรับปรุงตัวเองได้ด้วยการฝึกฝน
โดยจะเป็นการอธิบายว่ากรอบความคิดแรกนั้นฉุดรั้งเราอย่างไร ในขณะที่แบบที่สองสามารถพาเราไปสู่ความสำเร็จได้อย่างน่าทึ่ง นอกจากนี้ ‘mindset’ ยังช่วยให้เรารับมือกับความท้าทายและเรียนรู้จากความผิดพลาดที่้เกิดขึ้นได้
7. ได้ทุกสิ่งด้วยสิ่งเดียว: The One Thing โดย Gary Keller, Jay Papasan
‘The One Thing’ จะช่วยให้เรากำจัดสิ่งรบกวนและแก้ไขขั้นตอนการทำงานให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และแนะนำให้เรามุ่งไปสู่สิ่งสำคัญ ‘สิ่งเดียว’ เพื่อที่จะทำให้เรา ‘ได้ทุกสิ่ง’ ที่เราต้องการเพื่อหนทางสู่ความสำเร็จ รวมไปถึงการรักษาความสนใจของเราให้คงที่ เพราะมันจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมได้
8. DEEP WORK ดำดิ่งท่ามกลางสิ่งรบกวน โดย Cal Newport
เล่มสุดท้าย ‘DEEP WORK’ เป็นหนังสือที่แนะนำให้เรามุ่งเน้นไปยังการทำงานที่ท้าทายให้สำเร็จโดย ‘ไม่วอกแวก’ ซึ่งเป็นแนวคิดของ Cal Newport ที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากตัวของเราเองเป็นผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนี้
Newport นำเสนอถึงความสำคัญของสมาธิในโลกที่มีแต่สิ่งรบกวนรายล้อมรอบตัวเรา ทั้งยังมีเคล็ดลับดีๆ เกี่ยวกับการสร้างสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์แบบสำหรับการทำงานแบบ ‘ดำดิ่ง’ อีกด้วย
เขียนโดย ชนัญชิดา พลอยพลาย
Source:
