5 รูปแบบ ‘VR Training’ เทรนด์การเรียนรู้ขององค์กรยุคใหม่แบบเสมือนจริง ตอบโจทย์โลกการทำงานยุค New Normal
![](https://assets.futuretrend.co/futuretrend/wp-content/uploads/2024/08/16182949/Thumbnail_InfoTH-01-1.jpg)
ในปี 2021 นับว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่ Virtual Reality (VR) เข้ามามีบทบาทในแวดวงต่างๆ มากขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้คนต้องเว้นระยะห่าง ติดอยู่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่ ทำให้พวกเขาโหยหาประสบการณ์เก่าๆ มากขึ้น ไปพร้อมกับความปลอดภัยทางด้านสุขภาพ ร่างกายที่ก็ต้องมาเป็นอันดับแรกเหมือนกัน
นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ VR ถูกขยับเข้ามาเป็นเทรนด์ไวขึ้นกว่าที่เราคาดไว้ โดยเฉพาะในโลกการทำงานเอง VR ก็เข้ามามีบทบาทในการ Training พนักงานมากขึ้น เพื่อให้พนักงานได้รับประสบการณ์แบบสมจริง เหมือนกับตอนที่ได้รับการสอนที่ออฟฟิศ
![](https://futuretrend.co/wp-content/uploads/2021/09/laurens-derks-bCdIx5LjrYo-unsplash-1024x678.jpg)
VR Training คืออะไร?
VR Training หรือเรียกชื่อเต็มว่า “Virtual Reality Training” คือ การเรียน หรือการเทรนนิ่งโดยให้ผู้เรียนสวมแว่น VR เพื่อเห็นภาพเสมือนจริง โดยการจำลองสถานการณ์แบบสมจริง เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจถึงสถานการณ์ตรงหน้าได้ดีกว่าการเรียนรู้ด้วยหลักทฤษฎีเพียงอย่างเดียว
โดยปกติการเรียนผ่านสไลด์ หรือผ่านกระดาษรายงานต่างๆ อาจจะเป็นเรื่องปกติของการเรียนในองค์กร แต่พอเราต้องมา Work From Home บางอย่างการเรียนรู้ หรือการเทรนนิ่งผ่านออนไลน์ทั่วไปก็อาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป ตัว VR Traning เลยเข้ามาแก้ไขปัญหาตรงนี้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องสร้างสถานการณ์จริงขึ้นมา เพื่อลดโอกาสความเสี่ยงทุกรูปแบบที่จะเกิดขึ้นขณะฝึกสอน รวมไปถึงยังช่วยให้ผู้เรียนได้รับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
![](https://futuretrend.co/wp-content/uploads/2021/09/stella-jacob-4lSz1Jv0Vkc-unsplash-1024x582.jpg)
5 เหตุผลที่องค์กรควรใช้ VR Training
1. ลดโอกาสการเกิดความสูญเสีย เพิ่มความปลอดภัยให้พนักงาน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมผลิตวัตถุไวไฟที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน เป็นการจำลองสถาณการณ์เสมือนจริง เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์จริงที่อาจเกิดขึ้นในการปฎิบัติงานได้ดียิ่งขึ้น
2. ลดต้นทุนให้กับองค์กร อาทิ ช่วยลด manpower และค่าใช้จ่ายในการ Training แต่ละครั้ง โดยการใช้ Virtual Reality Training (VR) Training เข้ามาแทนที่ เป็นลงทุนแบบครั้งเดียวจบ สะดวกสบาย คุ้มค่าในระยะยาว เปรียบเสมือน e-Learning รูปแบบหนึ่งที่สามารถใช้สำหรับเปิดสอนได้ซ้ำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ พร้อม Test วัดผลลัพธ์ได้อีกด้วย
3. เปลี่ยนเรื่องยาก ให้เข้าถึงง่าย ด้วยการลงมือทำจริง ด้วยการใช้เทคโนโลยรูปแบบใหม่อย่าง Virtual Reality Training (VR) Training เข้ามามีส่วนช่วยในการเรียนรู้ของพนักงาน ให้เข้าใจถึงหลักการปฎิบัติลงมือทำจริง เมื่อเจอกับสถานการณ์นั้นๆ โดยเรียนจากแบบเรียนจำลองสถานการณ์เสมือนจริง
4. ลดความเสี่ยง ตอบโจทย์ยุค New Normal เป็นการเรียนรู้ที่สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องรวมตัวกันเพื่อทำการ Training ที่อาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส Covid-19 รวมไปถึงยังสามารถทบทวนบทเรียนได้ตลอดเวลาแบบไร้ขีดจำกัด
5. เปิดการเรียนรู้แบบไร้ขีดจำกัด ส่งเสริมทักษะเฉพาะทาง อาทิ ด้านการแพทย์ ใช้ Virtual Reality Training (VR) Training เข้ามามีส่วนสำคัญในการฝึกสอนบุคคลากรทางการแพทย์ให้สามารถลงมือปฎิบัติได้เสมือนจริง เพื่อเตรียมตัวในการรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
![](https://futuretrend.co/wp-content/uploads/2021/09/Untitled-1-01-1024x570.png)
5 ตัวอย่างของการใช้ VR Training ในองค์กร
1. VR Training สำหรับงานในโรงงานอุตสาหกรรม
โรงงานประเภทอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความรู้ ความชำนาญของพนักงานในการปฏิบัติงานค่อนข้างมาก และยังมีความเสี่ยงสูงต่อการทำงานจริง การใช้เทคโนโลยี VR Training จะช่วยฝึกฝนการทำงานของพนักงาน จำลองสถานการณ์เสมือนจริงหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ช่วยลดโอกาสการเกิดการสูญเสียได้มากยิ่งขึ้น
2. VR Training สำหรับงานด้านการบริการ
สำหรับองค์กรด้านการบริการที่เน้นความปลอดภัยของพนักงาน และผู้บริโภค โดยมีการ Training พนักงานผ่านการใช้ VR Training มาจำลองสถานการณ์เหตุการณ์อาชญากรรมหลากหลายรูปแบบ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพื่อให้พนักงานได้รับมือกับเหตุการณ์จริงที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อลดโอกาสการเสียชีวิต ทรัพย์สินของทั้งพนักงาน และผู้บริโภค
3. VR Training สำหรับทางการเเพทย์
มีการใช้ VR Training กับบุคคลกรทางการแพทย์ในการฝึกสอนบุคคลากรทางการแพทย์ โดยทำการทดลอง ลงมือรักษาผู้ป่วยแบบเสมือนจริง ก่อนรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อลดความกดดัน และความสูญเสียในอนาคต ถือเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะกับยุคนี้อย่างแท้จริง
4. VR Training สำหรับงานอีเว้นท์
กรณีงานอีเว้นท์ถือว่า VR Training เป็นตัวเลือกที่ดีอันดับต้นๆ ในการจัดแสดงสินค้า หรือบริการที่มีข้อจำกัด อาทิเช่น สินค้าที่เยอะจนไม่สามารถจัดเเสดงได้หมด , สินค้าที่มีขนาดใหญ่ใช้พื้นที่เยอะ, สินค้าที่ต้องการความสนใจจากผู้ชมเพื่อร่วมกิจกรรมให้สนุกขึ้น
5. VR Training สำหรับงานสาย Marketing Research
สำหรับ Marketing Research ที่ต้องการเรียนรู้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคแบบทะลุปรุโปร่ง การใช้ VR Training อาทิเช่น สร้างโอกาสการมองเห็นสินค้าแบบเสมือนจริง เพื่อวิเคราะห์ว่าจุดตำแหน่งการวางสินค้าที่ดึงดูดสายตาที่สุด หรือการออกแบบจัดวาง สีสันแบบใดดึงดูดใจผู้บริโภคมากที่สุดในการเลือกซื้อสินค้าบนชั้นวางใน Supermarket เป็นส่วนเสริมที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ติดตลาดได้มากขึ้น เป็นต้น
ทั้งหมดนี้คือหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจสำหรับการเรียนรู้ในองค์กรยุคนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า VR อาจจะยังดูไกลตัวสำหรับหลายคน แต่ตอนนี้ VR ขยับข้ามาใกล้เรามากกว่านั้น ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนี้ VR เข้ามามีบทบาทในพาร์ทการทำงาน การเทรนนิ่งต่างๆ มากมายที่ยังนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพ และองค์ความรู้แบบไร้ขีดจำกัดได้อีกด้วย
สนใจทำ Content VR Training คุณภาพสูงกับ Infographic Thailand ดูรายละเอียดเเละติดต่อได้ที่ https://bit.ly/ftcontentwhatvr