LOADING

Type to search

5 รูปแบบ ‘VR Training’ เทรนด์การเรียนรู้ขององค์กรยุคใหม่แบบเสมือนจริง ตอบโจทย์โลกการทำงานยุค New Normal

5 รูปแบบ ‘VR Training’ เทรนด์การเรียนรู้ขององค์กรยุคใหม่แบบเสมือนจริง ตอบโจทย์โลกการทำงานยุค New Normal
Share

ในปี 2021 นับว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่ Virtual Reality (VR) เข้ามามีบทบาทในแวดวงต่างๆ มากขึ้น จากสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้คนต้องเว้นระยะห่าง ติดอยู่กับบ้านเป็นส่วนใหญ่ ทำให้พวกเขาโหยหาประสบการณ์เก่าๆ มากขึ้น ไปพร้อมกับความปลอดภัยทางด้านสุขภาพ ร่างกายที่ก็ต้องมาเป็นอันดับแรกเหมือนกัน

นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ VR ถูกขยับเข้ามาเป็นเทรนด์ไวขึ้นกว่าที่เราคาดไว้ โดยเฉพาะในโลกการทำงานเอง VR ก็เข้ามามีบทบาทในการ Training พนักงานมากขึ้น เพื่อให้พนักงานได้รับประสบการณ์แบบสมจริง เหมือนกับตอนที่ได้รับการสอนที่ออฟฟิศ

VR Training คืออะไร?

VR Training หรือเรียกชื่อเต็มว่า “Virtual Reality Training” คือ การเรียน หรือการเทรนนิ่งโดยให้ผู้เรียนสวมแว่น VR เพื่อเห็นภาพเสมือนจริง โดยการจำลองสถานการณ์แบบสมจริง เพื่อให้ผู้เรียนได้เข้าใจถึงสถานการณ์ตรงหน้าได้ดีกว่าการเรียนรู้ด้วยหลักทฤษฎีเพียงอย่างเดียว

โดยปกติการเรียนผ่านสไลด์ หรือผ่านกระดาษรายงานต่างๆ อาจจะเป็นเรื่องปกติของการเรียนในองค์กร แต่พอเราต้องมา Work From Home บางอย่างการเรียนรู้ หรือการเทรนนิ่งผ่านออนไลน์ทั่วไปก็อาจไม่ตอบโจทย์อีกต่อไป ตัว VR Traning เลยเข้ามาแก้ไขปัญหาตรงนี้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องสร้างสถานการณ์จริงขึ้นมา เพื่อลดโอกาสความเสี่ยงทุกรูปแบบที่จะเกิดขึ้นขณะฝึกสอน รวมไปถึงยังช่วยให้ผู้เรียนได้รับมือกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ดีมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

5 เหตุผลที่องค์กรควรใช้ VR Training 

1. ลดโอกาสการเกิดความสูญเสีย เพิ่มความปลอดภัยให้พนักงาน เช่น โรงงานอุตสาหกรรมผลิตวัตถุไวไฟที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน เป็นการจำลองสถาณการณ์เสมือนจริง เพื่อเตรียมรับมือกับสถานการณ์จริงที่อาจเกิดขึ้นในการปฎิบัติงานได้ดียิ่งขึ้น

2. ลดต้นทุนให้กับองค์กร อาทิ ช่วยลด manpower และค่าใช้จ่ายในการ Training แต่ละครั้ง โดยการใช้  Virtual Reality Training (VR) Training เข้ามาแทนที่ เป็นลงทุนแบบครั้งเดียวจบ สะดวกสบาย คุ้มค่าในระยะยาว เปรียบเสมือน e-Learning รูปแบบหนึ่งที่สามารถใช้สำหรับเปิดสอนได้ซ้ำได้บ่อยเท่าที่ต้องการ พร้อม Test วัดผลลัพธ์ได้อีกด้วย

3. เปลี่ยนเรื่องยาก ให้เข้าถึงง่าย ด้วยการลงมือทำจริง ด้วยการใช้เทคโนโลยรูปแบบใหม่อย่าง Virtual Reality Training (VR) Training เข้ามามีส่วนช่วยในการเรียนรู้ของพนักงาน ให้เข้าใจถึงหลักการปฎิบัติลงมือทำจริง เมื่อเจอกับสถานการณ์นั้นๆ โดยเรียนจากแบบเรียนจำลองสถานการณ์เสมือนจริง 

4. ลดความเสี่ยง ตอบโจทย์ยุค New Normal เป็นการเรียนรู้ที่สามารถเรียนได้ทุกที่ ทุกเวลา ไม่จำเป็นต้องรวมตัวกันเพื่อทำการ Training ที่อาจส่งผลให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส Covid-19 รวมไปถึงยังสามารถทบทวนบทเรียนได้ตลอดเวลาแบบไร้ขีดจำกัด 

5. เปิดการเรียนรู้แบบไร้ขีดจำกัด ส่งเสริมทักษะเฉพาะทาง อาทิ ด้านการแพทย์ ใช้ Virtual Reality Training (VR) Training เข้ามามีส่วนสำคัญในการฝึกสอนบุคคลากรทางการแพทย์ให้สามารถลงมือปฎิบัติได้เสมือนจริง เพื่อเตรียมตัวในการรักษาผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ

5 ตัวอย่างของการใช้ VR Training ในองค์กร

1. VR Training สำหรับงานในโรงงานอุตสาหกรรม 

โรงงานประเภทอุตสาหกรรมที่ต้องใช้ความรู้ ความชำนาญของพนักงานในการปฏิบัติงานค่อนข้างมาก และยังมีความเสี่ยงสูงต่อการทำงานจริง การใช้เทคโนโลยี VR Training จะช่วยฝึกฝนการทำงานของพนักงาน จำลองสถานการณ์เสมือนจริงหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน ช่วยลดโอกาสการเกิดการสูญเสียได้มากยิ่งขึ้น

ตัวอย่าง VR Training ฝึกฝนช่างไฟ ของการไฟฟ้านครหลวง ผลิตโดย Infographic Thailand ทำให้การฝึกฝนการต่อไฟ ไม่เป็นอันตรายอีกต่อไป

2. VR Training สำหรับงานด้านการบริการ 

สำหรับองค์กรด้านการบริการที่เน้นความปลอดภัยของพนักงาน และผู้บริโภค โดยมีการ Training พนักงานผ่านการใช้ VR Training มาจำลองสถานการณ์เหตุการณ์อาชญากรรมหลากหลายรูปแบบ หรือเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพื่อให้พนักงานได้รับมือกับเหตุการณ์จริงที่อาจเกิดขึ้นได้ เพื่อลดโอกาสการเสียชีวิต ทรัพย์สินของทั้งพนักงาน และผู้บริโภค

ตัวอย่าง VR Training ฝึกฝนพนักงานของ Walmart

3. VR Training สำหรับทางการเเพทย์ 

มีการใช้ VR Training กับบุคคลกรทางการแพทย์ในการฝึกสอนบุคคลากรทางการแพทย์ โดยทำการทดลอง ลงมือรักษาผู้ป่วยแบบเสมือนจริง ก่อนรับมือกับเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น เพื่อลดความกดดัน และความสูญเสียในอนาคต ถือเป็นเทคโนโลยีที่เหมาะกับยุคนี้อย่างแท้จริง

ตัวอย่าง VR surgery การผ่าตัดหัวเข่า จาก Ghost Production ของต่างประเทศ

4. VR Training สำหรับงานอีเว้นท์ 

กรณีงานอีเว้นท์ถือว่า VR Training เป็นตัวเลือกที่ดีอันดับต้นๆ ในการจัดแสดงสินค้า หรือบริการที่มีข้อจำกัด อาทิเช่น สินค้าที่เยอะจนไม่สามารถจัดเเสดงได้หมด , สินค้าที่มีขนาดใหญ่ใช้พื้นที่เยอะ, สินค้าที่ต้องการความสนใจจากผู้ชมเพื่อร่วมกิจกรรมให้สนุกขึ้น

ตัวอย่าง VR Experience จัดเเสดง Event เปิดตัว Toyota C-HR ของต่างประเทศ

5. VR Training สำหรับงานสาย Marketing Research 

สำหรับ Marketing Research ที่ต้องการเรียนรู้ถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคแบบทะลุปรุโปร่ง การใช้ VR Training อาทิเช่น สร้างโอกาสการมองเห็นสินค้าแบบเสมือนจริง เพื่อวิเคราะห์ว่าจุดตำแหน่งการวางสินค้าที่ดึงดูดสายตาที่สุด หรือการออกแบบจัดวาง สีสันแบบใดดึงดูดใจผู้บริโภคมากที่สุดในการเลือกซื้อสินค้าบนชั้นวางใน Supermarket เป็นส่วนเสริมที่ช่วยกระตุ้นยอดขายให้ติดตลาดได้มากขึ้น เป็นต้น

ตัวอย่าง VR Market research สำหรับ Supermarket ของต่างประเทศ

ทั้งหมดนี้คือหนึ่งเทรนด์ที่น่าสนใจสำหรับการเรียนรู้ในองค์กรยุคนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่า VR อาจจะยังดูไกลตัวสำหรับหลายคน แต่ตอนนี้ VR ขยับข้ามาใกล้เรามากกว่านั้น ไม่ใช่แค่เพื่อความบันเทิงเพียงอย่างเดียว แต่ตอนนี้ VR เข้ามามีบทบาทในพาร์ทการทำงาน การเทรนนิ่งต่างๆ มากมายที่ยังนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพ และองค์ความรู้แบบไร้ขีดจำกัดได้อีกด้วย


สนใจทำ Content VR Training คุณภาพสูงกับ Infographic Thailand ดูรายละเอียดเเละติดต่อได้ที่ https://bit.ly/ftcontentwhatvr

Tags::

You Might also Like