LOADING

Type to search

Tags:

อัปเดทเทรนด์ Deep Tech ในงาน ‘STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2021’ สแกนอนาคต “สตาร์ทอัพ” ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างไร ให้ไปรอดในยุควิกฤต

อัปเดทเทรนด์ Deep Tech ในงาน ‘STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2021’ สแกนอนาคต “สตาร์ทอัพ” ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างไร ให้ไปรอดในยุควิกฤต
Share

อัปเดทเทรนด์ Deep Tech ในงาน ‘STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2021’ สแกนอนาคต “สตาร์ทอัพ” ขับเคลื่อนธุรกิจอย่างไร ให้ไปรอดในยุควิกฤต

เป็นเรื่องจริงที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ว่า วิกฤตโควิด-19 กลายมาเป็นบทพิสูจน์สำคัญในสนามธุรกิจปัจจุบัน แน่นอนว่านี่ถือเป็นงานหินสุดๆ สำหรับบรรดาผู้ประกอบการสตาร์ทอัพไทย ที่เชื่อว่าคงมีไม่น้อยที่ถอดใจเพราะไปต่อไม่ไหว ซึ่งนั่นก็อาจส่งผลให้การขับเคลื่อนและการแข่งขันทางธุรกิจหยุดชะงัก จนความหลากหลายทางธุรกิจลดลงไปตามๆ กัน

วันนี้เราเลยมาอัปเดทเทรนด์เทคโนโลยีและเรื่องน่ารู้สำหรับเส้นทางธุรกิจสตาร์ทอัพ ก่อนจะไปจัดเต็มความรู้ในงาน ‘STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2021’ หรือ ‘SITE 2021’ งานที่รวบรวมด้านสตาร์ทอัพและนวัตกรรมเข้าด้วยกัน ผ่านบทสัมภาษณ์กับดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ(องค์การมหาชน) โดยงานนี้จัดขึ้นโดย สำนักนวัตกรรมแห่งชาติ หรือ NIA ที่จะมาในธีม ‘DEEP TECH RISING: The Next Frontier of Innovation’ โดยจะพาเราไปรู้จักกับเทคโนโลยีเชิงลึก นวัตกรรมขับเคลื่อนประเทศในอนาคต ที่จะมาช่วยให้เราได้เห็นช่องทางและลับคมไอเดียเพื่อสร้างหรือต่อยอดธุรกิจสตาร์ทอัพของผู้ที่สนใจนั่นเอง

และเรื่องน่ารู้สำหรับวงการสตาร์ทอัพและนวัตกรรมที่เราได้นำมาฝากจะมีอะไรกันบ้าง ก็มาเรียนรู้ไปพร้อมๆ กันก่อนชมงานจริงกันดีกว่า

สตาร์ทอัพแบบไหนที่จะถูกใจนักลงทุนในยุคใหม่

ยุควิกฤตแบบนี้จะมีทั้งธุรกิจที่ไม่ได้รับผลกระทบอย่างธุรกิจเดลิเวอรี่ ที่ดูจะมีแต่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ในขณะเดียวกันธุรกิจ MICE ที่สร้างสรรค์งานอีเวนต์ต่างๆ ก็ต้องรับผลกระทบกับวิถี New Normal จนต้องปรับตัวหลายๆ อย่างเพื่ออยู่รอด แน่นอนว่า ธุรกิจแพลตฟอร์มที่เราเกริ่นไปถือเป็นสตาร์ทอัพยอดฮิตในไทย ด้วยความที่มันทำให้เกิดได้ง่าย และยังมีแบบอย่างรุ่นพี่ที่ยังคงดำรงอยู่ได้แม้ช่วงวิกฤต แต่ในอนาคตต่อจากนี้ แนวทางธุรกิจดังกล่าวอาจไม่เตะตาต้องใจนักลงทุนอีกต่อไป

อันที่จริง ที่มาของการเกิดงาน SITE 2021 ส่วนหนึ่งก็มาจาก ปัญหาสตาร์ทอัพไทยที่ผ่านๆ มา ยังสร้างนวัตกรรมที่ยังไม่ตอบโจทย์ และไม่ได้แก้ปัญหาที่เป็น global pain point ที่จะสามารถขยายตลาดให้เติบโตได้ นั่นส่งผลให้ไอเดียในหลายๆ สตาร์ทอัพของไทยไม่เป็นที่โดนใจนักลงทุน และไม่มีเงินทุนเข้ามาซัพพอร์ต เพราะไม่สามารถสร้างจุดเปลี่ยนที่แตกต่าง

มุมมองที่ควรจะมองตลาดที่มากกว่าแค่ในประเทศถือเป็นจุดสำคัญ ที่จะช่วยสตาร์ทอัพอยู่รอดได้ในยุคใหม่ ทำให้โมเดลธุรกิจที่จะตอบโจทย์ในยุคนี้จึงไม่ใช่เพียงแค่การมุ่งไปที่การทำธุรกิจแพลตฟอร์ม เพราะถึงแม้จะเกิดได้ง่าย แต่จะโตได้ก็ต้องต้องการฐานลูกค้าจำนวนมาก ซึ่งจำเป็นต้องใช้เงินเยอะแถมยังเป็นโมเดลธุรกิจที่ก็อปปี้และถูกทุ่มตลาดได้ง่าย

เพื่อการอยู่รอดของสตาร์ทอัพยุคนี้จึงไม่ใช่การริเริ่มสร้างแพลตฟอร์มตัวกลางแบบเดิมๆ อีกต่อไป นั่นทำให้การมาถึงของเทรนด์สร้างนวัตกรรมที่ใช้ ‘Deep Tech’ เพื่อการวิจัยและพัฒนาและสร้างทรัพย์สินทางปัญญาของตนเอง จึงได้กลายเป็นสิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจ เพราะถึงมันจะไม่ได้ก้าวเป็นธุรกิจสตาร์ทอัพที่มูลค่าสูงหรือยูนิคอร์นได้ง่ายๆ แต่ก็มันมีความมั่นคงที่มากกว่า

ทำความรู้จัก ‘Deep Tech’ สตาร์ทอัพยุคใหม่ที่แก้ไขปัญหาระดับชาติ

ในยุคนี้หากสตาร์ทอัพใช้แค่เทคโนโลยีขับเคลื่อนธุรกิจเพียงอย่างเดียวอาจจะไม่เพียงพอต่อการเติบโต ‘Deep Tech’ เทคโนโลยียุคใหม่ จึงมีส่วนสำคัญที่จะติดจรวดธุรกิจที่อาจทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

‘Deep Tech’ หรือ ‘Deep Technology’ คือ เทคโนโลยีชั้นสูงที่ถูกสร้างขึ้นมาแก้ปัญหาเฉพาะด้าน ซึ่งจะเกิดจากการนำเทคโนโลยีเดิมมาประยุกต์ใช้ในเชิงลึก หรือการสร้างเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมใหม่ๆ ขึ้นมา โดยหากจะยกตัวอย่างให้เห็นภาพ ก็เช่น ระบบแปลภาษาจากตัวอักษร ที่เป็นเทคโนโลยี AI สำหรับแปลภาษาจากคำพูดแบบ Real-Time โดยใช้หลักการวิเคราะห์ข้อมูลแบบใหม่ให้ใกล้เคียงการแปลของมนุษย์มากขึ้น

ด้วยความที่ Deep Tech เป็นสิ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะด้าน แน่นอนว่ายังคงมีปัญหามากมายอยู่ในทั่วทุกมุมโลกที่รอรับการแก้ไข จุดแข็งของ Deep Tech จึงเป็นการสร้างนวัตกรรมด้วยเทคโนโลยีใหม่ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเชิงลึกที่เลียนแบบได้ยาก จึงไม่แปลกที่ผลิตภัณฑ์และบริการที่ใช้ Deep Tech จะมีความเฉพาะตัวสูง คู่แข่งทางธุรกิจจึงมีน้อย และสามารถแข่งขันกันได้อย่างเป็นธรรม

ความน่าสนใจของ Deep Tech คือการจับตามีเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่จะเข้ามาแก้ปัญหานั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเกษตร สุขภาพ พลังงาน หรือด้านอื่นๆ ทุกความสำเร็จของ Deep Tech อาจถือว่าเป็นการสั่นสะเทือนวงการ ระดับเปลี่ยนแปลงโลกเลยก็ว่าได้ แนวคิดที่มาในชื่อ ‘DEEP TECH RISING: The Next Frontier of Innovation’ ในงาน SITE2021 ครั้งนี้ จึงเป็นสิ่งที่ไม่ได้ห่างไกลความเป็นจริงแต่อย่างใดเลยล่ะ

5 เทรนด์สตาร์ทอัพสาย Deep Tech ที่จะเข้ามายกระดับความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ

ในงาน SITE 2021 ภายใต้แนวคิด ‘DEEP TECH RISING: The Next Frontier of Innovation’ นั้นจะมีการนำเสนอโอกาสการยกระดับเทคโนโลยีเชิงลึกที่ถือเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคตสำหรับการขับเคลื่อนประเทศใน 5 สาขา งั้นเราลองไปดูเทรนด์ที่กล่าวมาดีกว่าว่า มีอะไรกันบ้าง

1. AgTech เทคโนโลยีการเกษตรสมัยใหม่
AgTech ถือเป็นส่วนสำคัญ เพราะการเกษตรถือเป็นอุตสาหกรรมหลักของประเทศไทยเพื่อก้าวสู่โลกอนาคต การทำงานโดยใช้เทคโนโลยีอัตโนมัตินั้นทำให้เกษตรกรมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องพืชง่ายขึ้น อีกทั้งยังสามารถทำให้ประชาชนทั่วไปสามารถปลูกพืชผักรับประทานได้เอง ทั้งนี้เกษตรกรในสหรัฐอเมริกาและยุโรปต่างก็ประยุกต์ใช้ซอฟต์แวร์เพื่อยกระดับการเพาะปลูกแล้ว ส่วนสิงคโปร์เองก็มีสตาร์ทอัพชื่อ Garuda Robotics ที่เข้ามาทำการตลาดผ่าการสร้างซอฟต์แวร์ให้กับโดรน ซึ่งทางประเทศไทยเองก็มีนโยบายเกษตรอัจฉริยะออกมาเช่นกัน

2. FoodTech เทคโนโลยีอาหาร
FoodTech คือการประยุกต์และสรรสร้างเทคโนโลยีเข้ากับอุตสาหกรรมอาหาร ตั้งแต่กระบวนการเลือกวัตถุดิบ การทำอาหาร การขนส่งอาหาร เพื่อให้การผลิตแต่ละครั้งมีประสิทธิภาพมากที่สุด อย่างอาหารกระป๋องที่เรารู้จักกันอย่างดี ก็เริ่มด้วยแนวคิดการสร้างความสะดวกในการรับประทานและเก็บอาหารได้นาน ซึ่งปัจจุบัน Food Tech ถูกให้ความสำคัญด้านของการผลิตอาหารจำนวนมากและการควบคุมคุณภาพ โดยการปรับเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและการตลาด รวมถึงการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เช่น เนื้อเทียม และการใช้ Data เข้าร่วมกับการผลิต

3. MedTech เทคโนโลยีเพื่อการแพทย์
MedTech คือเทคโนโลยี หรือวิทยาศาสตร์ประยุกต์มาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการทางการแพทย์แก่ผู้ป่วย ทั้งในแง่ของการวินิจฉัยโรค การติดตามการรักษา การพยากรณ์โรค และประเมินภาวะสุขภาพ ได้อย่างแม่นยำและจำเพาะต่อตัวบุคคล เพื่อกำหนดแนวทางการรักษา และส่งเสริมสุขภาพที่ดีและเหมาะสมที่สุดแก่ผู้ป่วย

4. SpaceTech เทคโนโลยีอวกาศ
พอพูดถึงเรื่องอวกาศ เป็นธรรมดาที่เราจะไปนึกถึง NASA ดาวเทียม การปล่อยจรวด นวัตกรรมไร้แรงโน้มถ่วง จนเรารู้สึกว่ามันเป็นเรื่องเรื่องไกลตัว แต่ความจริงแล้วนวัตกรรมและเทคโนโลยีอวกาศ ก็เป็นเทคโนโลยีที่ถูกนำมาต่อยอด เพื่อใช้บนพื้นโลกที่เราคุ้นหูคุ้นตา เช่นเครื่องดูดฝุ่น เครื่องฟอกอากาศ อาหารแช่แข็ง หรือแม้แต่ Wi-Fi การต่อยอดจาก SpaceTech ที่จะนำมาประกยุกต์ใช้ในวิถีชีวิต จึงถือเป็นอีกหนึ่งสตาร์ทอัพที่น่าสนใจและเหมาะกับโลกอนาคตเป็นอย่างมาก โดยทาง NIA เองก็มีโครงการที่เกี่ยวข้องกับ SpaceTech ไม่ว่าจะเป็นเพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพหรือในด้านงานวิจัยต่างๆ

5. ARITech (AI Robotic Immersive IoT)
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนสําหรับบุคคล หรือ ARITech ถือเทคโนโลยีขั้นสูงที่เป็นเป็นอีกหนึ่งเทรนด์ธุรกิจที่ช่วยสร้างมูลค่าให้แก่สตาร์ทอัพในประเทศไทย โดยเทคโนโลยีในกลุ่มนี้วนเวียนอยู่รอบตัวเรามากมายตั้งแต่ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น หุ่นยนต์เสิร์ฟอาหาร ไปจนถึงแว่นตา AR โดยมีการคาดการณ์กันอีกว่าในอนาคตเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมในกลุ่ม ARITech จะเป็นอีกหนึ่งเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามหาศาลและน่าจับตาในอนาคต

ในกลุ่มเกษตร อาหารและการแพทย์ ยังสอดคล้องกับโมเดล BCG Economy หรือเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว โดยอาศัยกลไกวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม เพื่อผลิตสินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง และเปลี่ยนระบบเศรษฐกิจจาก “ทำมากแต่ได้น้อย” ไปสู่ “ทำน้อยแต่ได้มาก” ความน่าสนใจในงาน SITE 2021 จึงไม่ใช่แค่การพัฒนาด้านธุรกิจ แต่ยังเป็นการพัฒนาสู่การแข่งขันในระดับประเทศอีกด้วย

ชวนชมงาน ‘STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2021’ ปลุกระดมความคิดแห่งอนาคต ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าร่วม

งาน ‘STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2021’ ที่มาในธีม ‘DEEP TECH RISING: The Next Frontier of Innovation’ จะพาเราไปพาเหรดเพื่อเจาะลึกกับเทรนด์ Deep Tech และแนวทางการอยู่รอดของธุรกิจสตาร์ทอัพในยุคใหม่ ซึ่งภายในงานประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก ได้แก่

1. Virtual Forum เวทีรวบรวมสุดยอดสตาร์ทอัพ นวัตกรชั้นนำของเมืองไทย และวิทยากรชื่อดังจากต่างประเทศ กว่า 60 ท่านมาแชร์ความรู้และประสบการณ์แบบจัดเต็มให้เราได้ไปศึกษา กว่า 50 หัวข้อ กันเลยทีเดียว

2. Opportunity ยื่นมือหาโอกสในการหาคู่ค้าทางธุรกิจ ผ่านกิจกรรมที่จัดขึ้น ทั้ง Marketplace ตลาดจำหน่ายสินค้าในรูปแบบเสมือนกว่า 200 บูธ, Online Business Matching การจับคู่ธุรกิจกับหน่วยงานธุรกิจกว่า 30 บริษัท และ Online Business Consulting ที่บริการให้คำปรึกษาออนไลน์จากสุดยอดเมนเทอร์ ผู้เชี่ยวชาญกว่า 30 ท่าน ใน 10 สาขาธุรกิจ

3. SHOW การแสดงสดผ่านทางออนไลน์ที่นำเรื่องราวที่น่าสนใจด้าน Deep Tech ให้เราได้ไปเรียนรู้เพิ่มเติมจากสาระน่ารู้ที่เรามอบให้

4. AWARD พิธีประกาศผลรางวัลอันทรงเกียรติ Prime Minister Award ให้แก่ผู้มีส่วนร่วมในการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพของประเทศ และเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจให้แก่สตาร์ทอัพไทยให้ก้าวสู่ตลาดต่างประเทศ

ด้านการพรีเซนต์ ด้วยสถานการณ์โควิดแบบนี้ งานจึงจัดออกมาในรูปแบบอีเวนท์ที่ถูกปรับให้เป็นรูปแบบออนไลน์ ผ่านแพลตฟอร์มอีเว้นท์ออนไลน์ของรูปแบบ Virtual World สุดทันสมัย ที่จัดทำโดยฝีมือคนไทยซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี นั่นทำให้แม้จะไม่ได้พบปะกันด้วยสถานการณ์โควิด-19 แต่งานนี้จะมอบประสบการณ์สุดพิเศษและแปลกใหม่อย่างแน่นอน

ความพิเศษสุดของงาน SITE 2021 นั่นคือ การจัดงาน “ฟรี” ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าร่วมเพื่อเรียนรู้ ร่วมแชร์ไอเดีย เพื่อร่วมเรียนรู้แลกเปลี่ยนแนวคิดในการก้าวข้ามวิกฤตไปด้วยกัน โดยหากใครสนใจก็มาร่วมงาน STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2021 ได้ในวันที่ 15-18 กันยายน ผ่านออนไลน์ ทางเว็บไซต์ https://site.nia.or.th นั่นเอง

Tags::

You Might also Like