LOADING

Type to search

เตรียมพร้อมพัฒนาประเทศ สู่ศูนย์กลางด้านเทคฯ แห่งใหม่ของโลก: สรุปเนื้อหาสำคัญจากเซสชัน ‘Thailand Innovation Hub’ โดยศุภชัย เจียรวนนท์

เตรียมพร้อมพัฒนาประเทศ สู่ศูนย์กลางด้านเทคฯ แห่งใหม่ของโลก: สรุปเนื้อหาสำคัญจากเซสชัน ‘Thailand Innovation Hub’ โดยศุภชัย เจียรวนนท์
Share

“เราไม่อาจหลีกเลี่ยงที่จะบอกว่า ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยีคือส่วนสำคัญในการพัฒนาของทุกประเทศ” – ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย

สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA เดินหน้าต่อยอดงาน ‘STARTUP x INNOVATION THAILAND EXPO 2021’ หรือ ‘SITE2021’ ภายใต้แนวคิดการเปล่งประกายแห่งเทคโนโลยีเชิงลึก ‘DeepTech Rising’…The Next Frontier of Innovation ในระหว่างวันที่ 15-18 กันยายนที่ผ่าน

เจาะลึก 5 เทคโนโลยีเชิงลึกที่เข้ามายกระดับความสามารถทางการแข่งขันของประเทศ ได้แก่ 1. ด้านเกษตร (AgTech) 2. ด้านอาหาร (FoodTech) 3. ด้านการแพทย์ (MedTech) 4. ด้านอวกาศ (SpaceTech) 5. ด้านเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หุ่นยนต์ และเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือนสําหรับบุคคล (AI Robotic Immersive IoT: ARI Tech)

โดยทีมงาน Future Trends ได้เป็นส่วนหนึ่งของผู้เข้าร่วมงาน และสรุปเรียบเรียงเนื้อหาจากเซสชันที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้ติดตาม และนี่คือเซสชัน “Thailand Innovation Hub: Center of Excellence for Deep Tech” โดย ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานสภาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งประเทศไทย ที่ได้กล่าวถึงการเตรียมความพร้อม พัฒนาประเทศสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีแห่งใหม่ของโลก

การสร้างความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

จะต้องมีระบบนิเวศน์และโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้นวัตกรรมเติบโต.คุณศุภชัยเริ่มต้นจากการพูดถึงรากฐานอันสำคัญในการพัฒนาของประเทศ ว่าต่อจากนี้ไปหากประเทศไทยจะเดินหน้าต่อไปได้ จำเป็นที่จะต้องมีพัฒนาทางเทคโนโลยี ซึ่งไม่อาจเกิดขึ้นได้เลยโดยปราศจากการสร้างระบบนิเวศน์ และโครงสร้างพื้นฐานที่สนับสนุนให้เทคโนโลยีและนวัตกรรมได้เติบโต

การจะทำเช่นนั้นจำเป็นจะต้องมีการลงทุน และสนับสนุนให้ Tech StartUp ได้เติบโตและช่วยภาคการศึกษาให้ลงทุนกับการเรียนรู้ภาคเทคโนโลยี เพื่อให้ประเทศไทยได้มีนักวิทยาศาสตร์และนักเทคโนโลยีระดับโลก

ระบบนิเวศน์ในพื้นที่คือสิ่งที่จะดึงดูดผู้คน

คุณศุภชัยได้เล่าถึงเหตุผลที่ทำให้เมืองบอสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเมืองหนึ่งที่มีบริษัทด้านเทคโนโลยีตั้งอยู่เป็นจำนวนมาก สาเหตุหลักในเรื่องนี้คือการที่เมืองนี้ตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) และสถาบันเทคโนโลยีเมสซาชูเซตส์ (Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT) บริษัทต่าง ๆ จึงตั้งตัว หรือตั้งสาขาของตนเองไว้ที่เมืองบอสตันเพื่อที่จะเข้าถึงบุคลากรชั้นหัวกะทิจากสถาบันเหล่านี้

อีกหนึ่งตัวอย่างในเรื่องนี้ อยู่ที่รัฐแคลิฟอร์เนีย ในขณะที่บอสตันคือเมืองแห่งการศึกษา ผู้ที่ลาออกจากมหาวิทยาลัยก่อนจะเรียนจบอย่างบิลล์ เกตส์, มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ก เเละคนอื่น ๆ ต่างมุ่งหน้าไปยังซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley) สถานที่อันเป็นจุดเริ่มต้นของบริษัทระดับโลกอีกมากมาย

สาเหตุที่ต้องเป็นซิลิคอน วัลเลย์นั่นก็เพราะที่นั่นมีนักลงทุน และ Venture Capital (VC) อยู่เป็นจำนวนมาก หากเราจะบอกว่านิวยอร์กคือเมืองศูนย์กลางด้านการเงิน ซิลิคอนวัลเลย์คือศูนย์กลางด้านการลงทุน ที่มีโอกาสมากมายรอพวกเขาอยู่

ทั้งบอสตัน และซิลิคอนวัลเลย์ ต่างเป็นพื้นที่ที่มีระบบนิเวศน์ของตนเองที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจ ผู้คน จนถึงเทคโนโลยี สถานที่เหล่านี้จึงดึงดูดผู้คนมหาศาลให้ไปรวมตัวกัน เเละเป็นสถานที่ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนเเปลงครั้งใหญ่มากมายของโลก

ทำไมภาครัฐจึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนานวัตกรรม

เมื่อพูดถึงการพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรม ภาครัฐดูเป็นผู้ที่เข้ามามีส่วนร่วมน้อย และแม้แต่ในบอสตัน หรือซิลิคอนวัลเลย์ ผู้ที่มีบทบาทสำคัญจะเป็นสถาบันการศึกษา นักลงทุน และคนทำงานเสียมากกว่า แต่หากภาครัฐไม่ได้เข้ามาร่วมมีบทบาท และมีเป้าหมายร่วมกันในการสร้างระบบนิเวศน์สำหรับนวัตกรรม การพัฒนาในเรื่องนี้อาจเป็นสิ่งที่แทบทำไม่ได้เลย

คุณศุภชัยได้ยกคำถามขึ้นมาว่า ทำไม VC ถึงชอบที่จะลงทุนในประเทศสิงคโปร์ มีสตาร์ทอัปมากมายเกิดขึ้น เติบโต และประสบความสำเร็จขึ้นจากในประเทศสิงคโปร์ โดยมี VC เป็นผู้ลงทุนอยู่เบื้องหลัง และสาเหตุหลักมาจากการสนับสนุนของภาครัฐ

ในขณะที่ VC ลงทุนไปมหาศาลและแบกรับความเสี่ยงมากมาย เขามองหาพื้นที่ที่ตนเองจะได้รับความเสี่ยงน้อยที่สุด และแม้พวกเขาจะเจอกับสตาร์ทอัปที่อยากร่วมลงทุนด้วยในประเทศอื่น พวกเขาก็อาจสนับสนุนให้สตาร์ทอัปนั้นย้ายไปตั้งธุรกิจที่สิงคโปร์แทน และรัฐบาลสิงคโปร์ก็ดูจะชอบในเรื่องนี้ ทั้งยังลงมาร่วมลงทุนกับสตาร์ทอัปที่เข้ามาเปิดในประเทศ โดยที่พวกเขาแทบไม่จำเป็นต้องศึกาาเพิ่มเติมเลย เพราะสตาร์ทอัปที่ได้รับการสนับสนุนเหล่านี้ถูกเลือกมาโดย VC อันดับต้น ๆ ของโลก และเหตุผลหลักที่ VC ไปจนถึงนักลงทุนต่าง ๆ ชอบการลงทุนในประเทศสิงคโปร์ เพราะนโยบายด้านภาษีที่เอื้อประโยชน์แก่นักลงทุน ทำให้สิงคโปร์กลายเป็นประเทศที่เขามีโอกาสได้ผลตอบเเทนที่มากกว่า ในการลงทุนเท่ากัน

แนวทาง มุมมอง รวมถึงบทบาทของภาครัฐที่มีต่อการพัฒนานวัตกรรม จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการพัฒนาประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยีของโลก

การพัฒนาคนรุ่นใหม่อย่างรอบด้าน

คุณศุภชัยได้เล่าต่อว่า ล่าสุดในประเทศจีนนอกเหนือจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยี และการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน ไปจนถึงการสร้างเมืองที่เป็นศูนย์กลางด้านเทคโนโลยี จีนพัฒนา และปรับเปลี่ยนระบบการศึกษาของตัวเองใหม่ โดยไม่มุ่งเน้นการศึกษาแต่ในด้านวิชาการ แต่ยังพัฒนาความสร้างสรรค์ (Creativity) เพื่อสร้างคนรุ่นใหม่อย่างรอบด้าน

เหตุที่จีนทำเช่นนี้ เพราะหลักการเรียนของวิชาการนั้นเป็นหลักการเรียนพื้นฐานที่มีมาตั้งแต่ยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม หรือยุค 2.0 และมีเพื่อผลิตคนมาทำหน้าที่ตามกระบวนการการผลิต แต่ต่อไปสายพานการผลิตจะกลายไปเป็นระบบอัตโนมัติ (Automation) ทั้งหมด

นั่นหมายความว่าต่อไปคนไม่จำเป็นต้องทำงานแบบ 2.0 กันอีกต่อไป แต่ในยุค 4.0 นี้จีนจะสร้างคนอย่างไรผ่านการปฏิรูปการศึกษาพื้นฐาน และโจทย์ของจีนในวันนี้คือจะทำอย่างไรให้เด็กในชาติมีความคิดสร้างสรรค์ (Creativity)

คุณศุภชัยจึงได้ยกคำพูดของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ขึ้นมากล่าวถึง ในประโยคที่ว่า “จินตนาการสำคัญกว่าความรู้” (Imagination is more important than knowledge) ซึ่งหมายถึงจุดหนึ่งความรู้ของเราจะมาถึงขีดจำกัด และมันก็อาจกลายเป็นข้อจำกัดของเราได้ จากจุดนั้นจินตนาการจึงเป็นสิ่งสำคัญในการหาคำตอบใหม่ ๆ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ และคิดในสิ่งที่โลกนี้ไม่เคยมีมาก่อน

ลองจินตนาการถึงอนาคต

เมื่อถึงจุดนี้จึงได้มาเชิญชวนทุกคนให้ลองจินตนาการถึงอนาคตต่อจากนี้ไป โลกของเราจะเป็นอย่างไร ประเทศของเราจะสามารถเปลี่ยนแปลงไปแบบไหน วันหนึ่งเราอาจไม่ติดอยู่กับพื้นโลกนี้เพียงอย่างเดียว ประเทศของเราอาจสามารถลอยอยู่บนท้องฟ้า หรือแม้กระทั่งในอวกาศ ในวันนั้นการขนส่งจะเป็นอย่างไร เราจะเดินทางกันด้วยวิธีไหน ชีวิตของเราจะเปลี่ยนไปอย่างไร

หรือหากในวันหนึ่งเราจะสามารถใช้เทคโนโลยี ปรับแต่งพันธุกรรมมนุษย์ให้แข็งแรงขึ้น และมีชีวิตยืนยาว โรคภัยที่รู้จักก็อาจไม่มีอีกต่อไป อาหารที่เรารับประทานจะเปลี่ยนไปอย่างไร เราอาจสามารถผลิตอาหารที่อร่อย มีประโยชน์ และเป็นที่ชื่นชอบ โดยที่ไม่ต้องเลี้ยงหรือฆ่าสัตว์ใด ๆ อีกต่อไปเลย

เราสามารถจินตนาการเช่นนี้ได้ในทุกทิศทาง ทุกวิธี กับทุกอุตสาหกรรมที่มี โลกของเรายังจะเดินหน้าต่อไปอีก ด้วยเหตุนี้จินตนาการจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ และยิ่งใหญ่มาก ๆ และมันควรที่จะเริ่มต้นตั้งแต่คนของเรา ตั้งแต่ระบบการศึกษาพื้นฐาน ว่าเราจะทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่มีความสามารถที่จะจินตนาการได้

Tags::

You Might also Like