Type to search

กลยุทธ์ ‘Social-First’ ที่ Chamberlain Coffee ใช้สร้างยอดขาย 730 ล้าน

July 10, 2025 By Kim

ในวันที่ ‘มัทฉะ’ ไม่ได้เป็นแค่ ‘วัฒนธรรม’ แต่กลายเป็นไลฟ์สไตล์ของโซเชียลมีเดีย

ยุคที่โซเชียลมีเดียเป็นสนามรบของแบรนด์สินค้า การทำตลาดแบบดั้งเดิมไม่เพียงพออีกต่อไป ‘Emma Chamberlain’ อินฟลูเอนเซอร์ผู้ติดตามกว่า 12 ล้านคน และเจ้าของ Chamberlain Coffee พิสูจน์ให้เห็นว่า “คุณไม่จำเป็นต้องใช้งบโฆษณามหาศาล ถ้าคุณเข้าใจไลฟ์สไตล์และอัลกอริทึมของแพลตฟอร์มโซเชียล”

เธอใช้กลยุทธ์ Social-First Strategy ทำให้แบรนด์มัทฉะของเธอถูกผลักขึ้นหน้า Feed ของผู้ใช้โซเชียลมีเดียแบบ Organic นำไปสู่ FOMO Marketing ที่ทำให้แฟนๆ รีบสั่งซื้อก่อนสินค้าหมด

ในบทความนี้ Future Trends จะเจาะลึกว่า ทำไมมัทฉะถึงกลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย และ Emma Chamberlain ใช้กลยุทธ์อะไรในการสร้างแบรนด์มัทฉะ ที่ใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียได้ดีมาก

[ ทำไมมัทฉะถึงกลายเป็นไวรัล อัลกอริทึมของแพลตฟอร์มชอบอะไร? ]

“Matcha = Aesthetic + Wellness = Content ที่อัลกอริทึมรัก”

📌 มัทฉะมีมักจะถูกยึดโยงกับ Aesthetic และ Wellness ทำให้มันกลายเป็นเนื้อหาที่คนชอบดูและแชร์ ส่งผลให้อัลกอริทึมชอบนำเสนอ

📌 TikTok และ IG Reels ดันคอนเทนต์ที่ดูดีใน 3 วินาทีแรก ซึ่งเป็นสิ่งที่คอนเทนต์เกี่ยวกับมัทฉะทำได้ดี เพราะกระบวนการชงชาและสีเขียวสดดึงดูดสายตา

📌 คอนเทนต์ ASMR วิธีการชงมัทฉะกลายเป็นไวรัลได้ง่าย

“คนอยาก ‘มีไลฟ์สไตล์แบบ Emma’ มากกว่าแค่ดื่มมัทฉะ”

💡 คอนเทนต์ของ Emma ไม่ได้ขายแค่มัทฉะเท่านั้น แต่ขายไลฟ์สไตล์ ‘Soft Girl Aesthetic’ ทำให้ผู้ติดตามอยากเลียนแบบการใช้ชีวิตของเธอ

💡 เทรนด์ ‘Matcha Morning Routine’ กลายเป็นเทรนด์ที่ได้รับความสนใจมากใน Gen Z ซึ่งความนิยมในตอนนี้ส่งผลทำให้มัทฉะในประเทศญี่ปุ่นเองก็กำลังขาดตลาดอยู่ โดยรายงานจาก Bloomberg

“FOMO Marketing มัทฉะของ Emma มีไม่พอขาย รีบซื้อก่อนหมด”

✅ การเปิดขายแบบ Limited Edition ทำให้สินค้าดูหายาก และจำเป็นต้องซื้อยิ่งกว่าเดิม

✅ ผู้คนกลัวความ FOMO มากๆ จึงรีบซื้อ เพราะกลัวว่าถ้าไม่ซื้อวันนี้ อาจไม่มีให้ซื้ออีก ส่งผลให้ความนิยมของแบรนด์สูงมากๆ

[ กลยุทธ์ Social-First Strategy ของ Chamberlain Coffee ส่งผลให้แบรนด์ทำงานกับอัลกอริทึมแทนที่จะทำงานกับโฆษณา ]

“Personal Branding = สร้างตัวเองเป็นแบรนด์ ก่อนขายของ”

📌 แทนที่จะใช้เงินซื้อโฆษณา Emma ใช้วิธีสร้างตัวเองให้เป็นอินฟลูเอนเซอร์ที่มีคนอยากฟังก่อนเปิดแบรนด์

📌 เธอเล่าเรื่องไลฟ์สไตล์ของตัวเองผ่าน YouTube และ TikTok มาหลายปี ก่อนจะขายมัทฉะ

📌 คนที่ติดตามเธออยู่แล้วจะเชื่อใจ และอยากดื่มมัทฉะแบบที่เธอดื่ม

“ใช้คอนเทนต์จากลูกค้า (UGC) แทนโฆษณาแพงๆ”

📌 คนที่ซื้อมัทฉะของเธอ มักจะโพสต์รีวิวบน TikTok และ IG Stories

📌 อัลกอริทึมของโซเชียลมีเดียมักจะดันคอนเทนต์รีวิวจากผู้ใช้มากกว่าโฆษณาที่จ่ายเงิน

“FOMO Marketing + Scarcity Effect = ทำให้สินค้าดูน่าซื้อขึ้น 10 เท่า”

✅ Emma ไม่ได้ทำให้มัทฉะของเธอมีขายตลอดเวลา แต่ปล่อยเป็นล็อตๆ แบบ Limited Edition

✅ เมื่อสินค้าหมด คนจะรู้สึกว่าต้องรอ ทำให้เกิดการพูดถึงและสร้างความต้องการเพิ่มขึ้นเสมอ

“ออกแบบ Packaging ให้เป็นไวรัลตั้งแต่แรก”

📌 แพ็กเกจของมัทฉะ Chamberlain Coffee เน้น Minimal + Aesthetic + ถ่ายรูปลงโซเชียลแล้วดูดี

📌 ทำให้คนอยากโพสต์รีวิวและแชร์ประสบการณ์ที่ได้รับจากแบรนด์

นำไปสู่รายได้กว่า 730 ล้านบาท และการขยายตัวไปยังค้าปลีกรายใหญ่

🎯 Chamberlain Coffee สร้างยอดขายได้มากกว่า 730 ล้านบาท โดยแทบจะไม่ต้องการโฆษณาเลย

🎯 ขยายสินค้าจากออนไลน์ไปยัง Target, Walmart และ Sprouts ทำให้เข้าถึงลูกค้าออฟไลน์ได้มากขึ้น

[ บทเรียนสำหรับเจ้าของแบรนด์ที่อยากใช้กลยุทธ์ Social-First Strategy และสร้าง FOMO Marketing ]

ใช้ Personal Branding สำคัญมาก คุณต้องสร้างตัวตนที่แข็งแรงก่อนขายของ

✅ ถ้าคุณอยากสร้างแบรนด์สินค้า คุณต้องมีคอนเทนต์ที่คนอยากดูก่อน

✅ คนต้องอยากติดตามไลฟ์สไตล์ของคุณ ไม่ใช่แค่สินค้า

ออกแบบสินค้าให้เป็นไวรัลได้ง่าย

✅ แพ็กเกจต้องถ่ายรูปสวยและดูน่าซื้อ

✅ ต้องมีจุดขายที่คนอยากแชร์ เช่น ‘สีเขียวสด’

ใช้ UGC ให้มากที่สุด ลดงบโฆษณาที่ไม่จำเป็นออกไป

✅ กระตุ้นให้ลูกค้าโพสต์รีวิวเอง แล้วดึงคอนเทนต์มาใช้ซ้ำ

✅ คนจะเชื่อรีวิวจากผู้ใช้จริงมากกว่าโฆษณา

ใช้ Scarcity Marketing และ FOMO ให้เป็น

✅ อย่าขายของตลอดเวลา ทำให้สินค้าหายากบ้าง คนจะยิ่งอยากได้

✅ ใช้เทคนิคสินค้าหมดแล้ว รีบสมัคร Waitlist เพื่อสร้างความต้องการ

ดังนั้น สิ่งที่ทำให้ Emma Chamberlain ประสบความสำเร็จจากการใช้ Social-First Strategy

🔥 เธอไม่ได้ขายมัทฉะ แต่ขายไลฟ์สไตล์

🔥 เธอไม่ได้ซื้อโฆษณา แต่ใช้อัลกอริทึมดันสินค้าให้เอง

🔥 เธอใช้โอกาสจากเทรนด์ และเปลี่ยนไวรัลให้กลายเป็นธุรกิจ

นี่คือพลังของ Social-First Strategy, Algorithm ของโซเชียลมีเดีย และ FOMO Marketing ที่ทำให้ Chamberlain Coffee ประสบความสำเร็จ ซึ่งคุณเองก็สามารถใช้กลยุทธ์นี้กับแบรนด์ของคุณได้เช่นกัน!

เขียนโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์