LOADING

Type to search

สร้างคนให้แกร่ง แบบบุญรอดฯ ด้วย 4 แกน จาก SINGHA WAY

สร้างคนให้แกร่ง แบบบุญรอดฯ ด้วย 4 แกน จาก SINGHA WAY
Share

ความยากขององค์กรยุคนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของการพัฒนาคนให้ ‘เก่ง’ เพียงอย่างเดียว แต่คือเรื่องของการ ‘ดูแลรักษา’ เพื่อดึงศักยภาพของพนักงานให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความสุข เป็นเรื่องที่ต้องหันมาให้ความสนใจในยุคนี้ด้วย

จากข้อมูลของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ (U.S. Department of Labor) ในช่วงเวลาของเดือนเมษายน-มิถุนายน 2563 ที่ผ่านมานี้ มีคนทำงานกว่า 11.5 ล้านคน ลาออกจากงาน และจากการศึกษาต่อเนื่องปรากฏการณ์นี้จะยังไม่สิ้นสุดลง และจะมีคนลาออกจากงานอีกเป็นจำนวนมาก หรือที่หลายคนบอกว่าเรากำลังจะเจอกับปรากฎการณ์ ‘การลาออกครั้งใหญ่’ (Great Resignation) นั่นเอง 

ด้าน PwC ประเทศไทย ได้เผยผลสำรวจคนทำงานทั่วโลกกว่า 3,200 คน ระบุว่าการรักษาคนเก่งไว้กับองค์กรเป็นความกังวลอันดับ 1 ของนายจ้าง เพราะมีแนวโน้มว่าในประเทศไทยแม้จะยังไม่เจอวิกฤตเรื่องการลาออกครั้งใหญ่ แต่ก็มีแนวโน้มว่ากลุ่มคนทาเลนต์อาจถูกดึงหรือย้ายออกถ้าวัฒนธรรมองค์กรไม่ตอบโจทย์มากพอ

นอกจากคนทำงานต้องปรับตัวแล้ว องค์กรเองก็ต้องปรับตามด้วยเช่นเดียวกัน เพราะท้ายที่สุดแล้วองค์กรจะขยับต่อไม่ได้เลยถ้าขาด ‘คน’ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนไปสู่เป้าหมาย และความสำเร็จ

แล้วตอนนี้ ‘คนทำงาน’ เปลี่ยนไปอย่างไรบ้างตั้งแต่มีโควิด-19?

  • คนเริ่มหมดไฟ (burnout) จากการทำงาน เกิดความเครียดมากขึ้น ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปริมาณงานที่เพิ่มขึ้น และการขาดการติดต่อกับสังคม (Microsoft)
  • 38% ของพนักงานกล่าวว่าการล็อกดาวน์ส่งผลกระทบที่ไม่ค่อยดีต่อความเป็นอยู่ของพวกเขา (deloitte)
  • 25% ของคนทำงานรู้สึกขาดแรงจูงใจในการทำงาน และ 85% ของพนักงานไม่ประทับใจกับการซัพพอร์ตของนายจ้างในด้านอาชีพการงาน และต้องการให้พวกเขารับฟังความต้องการของพนักงานมากขึ้น (Oracle)
  • คนทำงานเริ่มหันมาให้ความสนใจเรื่องค่าตอบแทนมากกว่าเรื่อง Work Life Balance (JobsDB)

ทั้งหมดนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งของอินไซต์ที่น่าสนใจของคนทำงานตั้งแต่เกิดการระบาดครั้งใหญ่มา จะเห็นได้ว่าพฤติกรรมและความต้องการของคนทำงานค่อยๆ เปลี่ยนไปจากเดิม แล้วอะไรจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้องค์กรสามารถพัฒนาคนให้เก่ง สร้างคนให้แข็งแกร่งจากภายใน ไปพร้อมกับการดูแลพนักงานให้มีความสุขในสถานการณ์แบบนี้ด้วย

วันนี้ก็เลยอยากจะลองชวนทุกคนมาถอดบทเรียนกับวิธีดูแลคนแบบ ‘บุญรอด’ ที่ทำให้องค์กรเติบโตมากว่า 89 ปี และในปีนี้ก็สามารถคว้ารางวัลจากนิตยสาร HR ASIA ได้เป็นหนึ่งในองค์กรที่น่าร่วมงานมากที่สุด 

ก้าวสู่ 89 ปี ‘บุญรอด’ สู่หนึ่งในบริษัทที่น่าทำงานที่สุดในประเทศไทย

บุญรอดฯ หรือบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด เป็นบริษัทของคนไทยที่ดำเนินธุรกิจด้านอาหารและเครื่องดื่ม ก่อตั้งในปี พ.ศ. 2476 ซึ่งปัจจุบันเป็นผู้ผลิตเบียร์และเครื่องดื่มรายแรก และได้ขยายไปสู่ธุรกิจอื่นๆ อีกมากมาย

บุญรอดฯ ทำธุรกิจภายใต้วิสัยทัศน์ที่ว่า “Bringing Joy To Life” หรือ เติมความสุขให้ชีวิต ที่ให้ความสำคัญกับการ สร้างความสุขให้กับทั้งคนในองค์กรและคนในชุมชนสังคม เพื่อเป็นพื้นฐานการเติบโตอย่างยั่งยืนขององค์กร และมุ่งสร้างกลุ่มบริษัทที่เป็นมากกว่าบริษัทอาหารและเครื่องดื่ม

เพราะเชื่อว่า การทำสิ่งใดก็ตามบนพื้นฐานของความสุข จะเป็นพลังขับเคลื่อนให้เกิดผลลัพธ์ที่ดี หากพนักงานมีความสุขก็จะสามารถส่งต่อความสุขนั้นออกไปสู่สังคมและชุมชนรอบข้าง ให้อยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขและยั่งยืน 

บุญรอดฯ จึงมุ่งมั่นที่จะยกระดับความเป็นอยู่และสร้างโอกาสพัฒนาตนเองให้กับพนักงานทุกคนเติบโตไปพร้อมกันได้

จากวิสัยทัศน์นี้ได้ถูกส่งต่อออกไปผ่านทั้งผลิตภัณฑ์ บริการ และกิจกรรมเพื่อสังคมต่างๆ รวมไปถึงการจัดการภายในองค์กรด้วย ที่บุญรอดฯ ทุกคนจะมีวัฒนธรรมองค์กรหนึ่งที่เรียกว่า “วิถีของสิงห์” (SINGHA WAY) ซึ่งเป็นวัฒนธรรมองค์กรที่บุญรอดฯ ได้สร้างขึ้นมา และใช้มาตลอด 89 ปีนี้ทั้งในการทำธุรกิจ และการดูแลพนักงาน

รู้จัก 4 แกนของ SINGHA WAY ความสำเร็จของบุญรอด

SINGHA WAY เปรียบเสมือน DNA ของบริษัทที่ถูกส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปถึงพนักงานทุกระดับ ซึ่งประกอบด้วยคุณค่า 4 แกนหลัก ได้แก่

1. Family: ทุกคนเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันทั้งพนักงาน คู่ค้า ตัวแทนจำหน่าย และผู้บริโภค ที่พร้อมจะช่วยเหลือซึ่งกันและกัน 

ยกตัวอย่างเช่น ในเรื่องอาชีพการงาน ที่บุญรอดฯ พนักงานจะถูกผลักดันให้พัฒนาความสามารถของตัวเองผ่านโปรแกรมการเรียนรู้อยู่เสมอ พร้อมซัพพอร์ตความสนุก สุขภาพดีหลังเลิกงาน รวมไปถึงเสริมความรู้ และสวัสดิการด้านอื่นๆ ที่จะช่วยให้พนักงานมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น หรือแม้แต่ช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 ก็ได้มีการสร้างแอปฯ “Carechek” ช่วยสำรวจและดูแลสุขภาพของพนักงานไปด้วย

2. Courage: เปิดโอกาสให้ทุกคนได้กล้าคิด กล้าทำ กล้าตัดสินใจด้วยตัวเอง 

ปัจจุบันที่บุญรอดฯ ก็จะมีกิจกรรมอย่าง CEO Round Table, Gen Y Talk, และ Pulse Survey เพื่อรับฟังความคิดเห็นของพนักงานเพื่อช่วยซัพพอร์ต และแก้ไขปัญหาต่างๆ นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรม ‘Singha Way Got Talent’ ให้พนักงานได้โชว์ความสามารถกัน ผู้ชนะจะปล่อยเพลงของตัวเองผ่านค่ายเพลงของบุญรอดฯ อีกด้วย 

3. Premium Quality: สร้างมาตรฐานการส่งมอบสินค้าและบริการที่มีคุณภาพที่ดีที่สุด ให้กับผู้บริโภคเพื่อสร้างความพึงพอใจให้ได้มากที่สุด

ที่บุญรอดฯ จะมี Smart Workplaces ที่ประกอบไปด้วย Smart Factories (โรงงานอัจฉริยะ), Smart People (พนักงานที่มีความรู้ความสามารถ), Safe Working conditions. (สภาพการทำงานที่ปลอดภัย), Health & Well-being (สุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี) และ Environmental Management (การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมที่ดี) อีกทั้งยังมีโปรแกรมสำหรับการพัฒนาทั้งหมด 5 หมวดหมู่ด้วยกัน Get Together, Business Acumen, Leadership Development Program, Situation and Trend และ Job skill –Technical/Functional 

นอกจากนี้ยังมีทุนการศึกษาและโปรแกรมอื่นๆ คอยซัพพอร์ตให้กับพนักงาน เพื่อนำไปสู่การส่งมอบสินค้าและบริการที่ดีที่สุดในอนาคตอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการส่ง Brewmaster ไปเรียนที่โรงเรียนด้านการหมักบ่มเบียร์ชั้นนำในประเทศเยอรมัน และยังมีทุนการศึกษาในระดับปริญญาโทให้กับพนักงานอีกด้วย

4. Happiness: ความสุข คือหัวใจสำคัญของพนักงาน เพราะทุกคนเปรียบเสมือนครอบครัวที่คอยดูแลซึ่งกันและกันเสมอ

อย่างที่กล่าวไปตั้งแต่ข้างต้นว่าที่บุญรอดฯ ให้ความสำคัญกับทรัพยากรคนอย่างมาก เพราะบุญรอดมองว่าพนักงานทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน ใส่ใจทุกความสุขของพนักงานไม่ว่าจะเป็นเรื่องชีวิตในที่ทำงาน หรือชีวิตส่วนตัวก็ตาม หากพนักงานใช้ชีวิตอย่างแฮปปี้ก็จะเป็นหนึ่งในแรงผลักดันดีๆ ที่จะทำให้สามารถสร้างสรรค์สินค้าละบริการที่ดีได้ด้วยเช่นกัน ทุกๆ ปีบุญรอดจะมีวันเฉลิมฉลองวัฒนธรรมองค์กรและพนักงานที่มีชื่อว่า “Singha Way Day” ที่พนักงานทุกคนจะได้มาแชร์ไอเดียและโชว์ความสามารถของตัวเอง เป็นต้น

ตอกย้ำความสำเร็จจาก 2 รางวัลของ HR ASIA 

ล่าสุดกลุ่มบุญรอดฯ ก็ได้รับรางวัลระดับเอเชีย ทั้ง HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2021 และ We Care : HR Asia Most Caring Companies Awards 2021 จากนิตยสาร HR Asia หนึ่งในนิตยสารด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางในเอเชีย

โดยรางวัล Best Companies to Work for in Asia 2021 มอบให้กับองค์กรดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย ส่วนรางวัล We Care: HR Asia Most Caring Companies Awards 2021 เป็นรางวัลพิเศษด้านการดูแลใส่ใจพนักงานดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้บุญรอดฯ ขึ้นแท่นเป็นหนึ่งในองค์กรที่น่าร่วมงานมากที่สุดในเอเชีย

“โดยหนี่งในกุญแจความสำเร็จที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อขับเคลื่อนองค์กร นั่นก็คือการพัฒนาและดูแลบุคลากร ทั้งในด้านของการทำงานและชีวิตความเป็นอยู่ เพราะ “คน” ถือเป็นฟันเฟืองที่จะขับเคลื่อนองค์กรให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมให้พนักงานเป็นหนึ่งเป็นพลังสำคัญ มีส่วนช่วยเหลือดูแลคนในชุมชนและสังคม ด้วยความเชื่อที่ว่า ความแข็งแกร่งของบริษัทจะเกิดขึ้นได้ด้วย ‘สังคมที่เข้มแข็ง’ ดังนั้น หากสังคมแข็งแกร่งมากขึ้นเพียงใด บริษัทฯก็จะแข็งแรงขึ้นด้วยเช่นกัน” –
สุนิษฐ์ สก๊อต Head of Organization Capability ผู้บริหารฝ่ายพัฒนาองค์กรและส่งเสริมการเรียนรู้ บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด 

สรุปแล้วการที่องค์กรในยุคนี้จะเติบโตผ่านพ้นวิกฤต สร้างโอกาสไปพร้อมกับการสร้างคนแกร่งได้นั้น ไม่ได้มีแค่เรื่องของการพัฒนาตัวเองเพียงอย่างเดียว แต่การใส่ใจ และเข้าใจพนักงานทุกคนก็คือเป็นสิ่งสำคัญ อย่างบุญรอดที่ยังคงเติบโตมาตลอดกว่า 88 ปี ได้ขับเคลื่อนมาพร้อมกับ DNA ที่แข็งแกร่งและมั่นคงเสมอ

Tags::