“มนุษย์จดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เพียง 8 วินาทีเท่านั้น!” 7 วิธีรีเซ็ตสมองด้วยเทคนิคตามหลักวิทยาศาสตร์

โลกกำลังอยู่ในยุคที่ทุกอย่างต้องรวดเร็ว แม้แต่ความรู้ต่างๆ ก็มักจะถูกย่อให้อยู่ในฟีดสั้นๆ ที่เลื่อนผ่านไปในไม่กี่วินาที และนี่คือเหตุผลว่าทำไม ‘คอนเทนต์สั้น’ ถึงกำลังครองตลาด 

รู้หรือไม่? โดยเฉลี่ยแล้ว คนเราหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเช็กวันละ 138 ครั้ง และในปีที่ผ่านมา มนุษย์สามารถจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้เพียง 8 วินาที ซึ่งสั้นกว่าปลาทองที่มีสมาธิได้ 9 วินาทีซะอีก! 

อย่างไรก็ตาม สมองของเราไม่ได้เสียหายถาวร และยังฟื้นฟูใหม่ได้ และนี่คือ 7 วิธีตามหลักวิทยาศาสตร์ที่นักประสาทวิทยายืนยันว่าสามารถช่วยเราได้จริง

1. ฝึกสมาธิ (Meditation) ปรับสมองให้มีสมาธิยาวขึ้น

การศึกษาจาก Harvard Medical School พบว่าเพียง 8 สัปดาห์ของการฝึกสมาธิ สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสมองให้ดีขึ้นได้ โดยเฉพาะในส่วนที่ควบคุมสมาธิและอารมณ์

วิธีเริ่มต้นง่ายๆ

– เริ่มต้นวันละ 5 นาที

– ฝึกหายใจเข้า-ออกลึก ๆ

– ใช้แอปอย่าง Headspace ช่วยฝึกสมาธิ

2. ขยับร่างกาย สมองก็แอคทีฟขึ้น

การออกกำลังกายไม่ได้ดีแค่กับร่างกาย แต่ยังช่วยเพิ่มขนาดของฮิปโปแคมปัส ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของสมองที่เกี่ยวข้องกับความจำและการเรียนรู้

ทำได้ตามนี้

– ออกกำลังกายวันละ 30 นาที เช่น เดินเร็ว, โยคะ, หรือเต้น

– งานวิจัยพบว่าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีสมาธิดีกว่าคนที่ไม่ได้ออกกำลังกายถึง 29%

3. นอนให้พอ คุณภาพสำคัญกว่าปริมาณ

สมองทำงานซ่อมแซมตัวเองตอนนอน ดังนั้นการนอนไม่พอส่งผลกระทบโดยตรงต่อการโฟกัส

เคล็ดลับการนอนให้มีคุณภาพ

– นอนเวลาเดิมทุกวัน แม้ในวันหยุด

– ปิดหน้าจอมือถือก่อนนอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมง

– สร้างบรรยากาศการนอนที่ดี เช่น นอนในห้องที่อากาศเย็นและมืดสนิท

4. Digital Detox – ลดสิ่งรบกวนจากหน้าจอ

ทุกการแจ้งเตือนที่เด้งขึ้นมาคือการขโมยโฟกัส งานวิจัยจาก University of California พบว่า การถูกรบกวนเพียงเล็กน้อยทำให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลงถึง 27%

เทคนิคที่ช่วยให้ใช้มือถืออย่างมีสติ

– ปิดแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็น

– ตั้งเวลาการใช้งานโซเชียลมีเดีย (เช่น ใช้ได้วันละ 1 ชั่วโมง)

– มีช่วงเวลา ‘no-phone zone’ เช่น ช่วงทำงาน หรือก่อนนอน

5. กินให้ดี สมองจะทำงานได้ดีขึ้น

อาหารมีผลโดยตรงกับสมาธิและการโฟกัส อาหารบางอย่างสามารถช่วยให้สมองทำงานดีขึ้น เช่น

อาหารที่ช่วยเพิ่มโฟกัส

– ปลาแซลมอน, วอลนัท (อุดมไปด้วย Omega-3 ที่ช่วยเสริมสร้างสมอง)

– บลูเบอร์รี่, ชาเขียว (มีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยบำรุงสมอง)

– ดื่มน้ำให้เพียงพออย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

 6. ใช้เทคนิค Pomodoro – โฟกัสแบบมีระบบ

สมองทำงานได้ดีที่สุดเมื่อมีช่วงพักที่เหมาะสม เทคนิค Pomodoro เป็นการทำงานแบบเป็นรอบ ๆ โดยมีช่วงพักระหว่างรอบเพื่อให้สมองได้พัก

วิธีใช้ Pomodoro

– ทำงาน 25 นาที → พัก 5 นาที

– ทำ 4 รอบ → พักยาว 15-30 นาที

– ลดอาการเหนื่อยล้าและช่วยให้ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น

7. ให้ตัวเองได้ ‘เบื่อ’ บ้าง!

อาจฟังดูแปลก แต่ช่วงเวลาที่ ‘ไม่ได้ทำอะไร’ คือช่วงที่สมองกำลังจัดเรียงข้อมูล และสร้างไอเดียใหม่ๆ งานวิจัยจาก Academy of Management Discoveries พบว่า คนที่มีช่วงเวลาปล่อยให้ตัวเองเบื่อ มีความสามารถแก้ปัญหาได้ดีขึ้นถึง 42%

ลองดูว่าทำสิ่งนี้ได้หรือไม่

– ปิดมือถือแล้วเดินเล่นโดยไม่ต้องคิดอะไร

– ฟังเพลงคลาสสิก หรือเสียงธรรมชาติ

– ปล่อยให้จิตใจล่องลอยโดยไม่ต้องบังคับตัวเอง

ท้ายที่สุด สมองของเราอาจไม่ใช่เครื่องจักรที่ต้องการการเพิ่มประสิทธิภาพอยู่ตลอดเวลา แต่เป็นระบบที่ต้องได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม ดังนั้น วิธีเพิ่มโฟกัสจึงไม่ใช่การฝืน แต่เป็นการเรียนรู้ที่จะเข้าใจและปรับสมดุลให้เข้ากับธรรมชาติของสมอง

ทุกก้าวเล็กๆ ที่ลงมือทำตั้งแต่วันนี้ คือการสร้างระบบความคิดที่แข็งแรงขึ้น และช่วยให้โฟกัสกับสิ่งสำคัญในชีวิตได้ดีขึ้นนั่นเอง

เขียนโดย ชนัญชิดา พลอยพลาย

#FutureTrends #FutureTrendsetter #FutureTrendsWorkAndLife

Source:

Rewire Your Brain to Focus Better (Scientifically)

https://medium.com/practice-in-public/how-to-rewire-your-brain-to-focus-better-23336bfce183#bypass