Type to search

ค้าปลีกโตแน่ แต่ลูกค้ายังคาดหวังประสบการณ์แบบไร้รอยต่อ  ‘Seamless Commerce คืออนาคต’ 25 Retail trends ที่แบรนด์ควรรู้ เพื่อปรับตัวสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลง

January 31, 2025 By chananchida.p

ปี 2025 เป็นปีที่น่าจับตามองสำหรับอุตสาหกรรมค้าปลีก ด้วยแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สะท้อนความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และความท้าทายจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและนโยบายรัฐ การคาดการณ์เหล่านี้ถูกรวบรวมจากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงค้าปลีกระดับโลก และนี่คือ 25 แนวโน้มสำคัญที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในปี 2025 

1. ปีแห่ง AI Shopping Assistant

ปี 2025 จะเป็นปีของ AI Shopping Assistant ที่เข้ามามีบทบาทสำคัญในอุตสาหกรรมค้าปลีก ด้วยความสามารถในการปรับแต่งคำแนะนำสินค้า การเติมสินค้าตามความต้องการ และการช่วยตัดสินใจของผู้บริโภค โดย Jason Goldberg จาก Publicis กล่าวไว้ว่า AI จะเปลี่ยนโฉมการชอปปิงอย่างสิ้นเชิง แม้จะมีความท้าทายเรื่องต้นทุนและความกังวลเกี่ยวกับข้อมูล แต่การเติบโตในด้านนี้ยังคงสดใส

2. Generative AI จะเปลี่ยนวงการค้าปลีก

AI จะเข้ามาสร้างประสบการณ์ชอปปิงที่เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น การสร้างเนื้อหาแบบไดนามิก การปรับแต่งสินค้าเฉพาะบุคคล และการใช้ผู้ช่วยเสมือนที่ตอบสนองได้แบบเรียลไทม์ AI ยังช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภคและทำนายแนวโน้มล่วงหน้า ซึ่งช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความภักดีต่อแบรนด์

3. ความก้าวหน้าของ AI ต้องเผชิญกับความท้าทาย

แม้ AI จะยังคงเป็นหัวใจของนวัตกรรมในปี 2025 แต่การพัฒนาจะต้องเผชิญกับอุปสรรค เช่น การรวมระบบที่ซับซ้อนและปัญหาด้านความเป็นส่วนตัว การใช้ข้อมูลที่ถูกต้องและมีคุณภาพเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับการพัฒนา AI อย่างยั่งยืน

4. Live Shopping จะกลายเป็นเทรนด์สำคัญ

การชอปปิงแบบสด หรือ Live Shopping จะผสานการขายสินค้ากับความบันเทิง สร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภคอย่างมีประสิทธิภาพ แม้การนำไปใช้งานในวงกว้างยังมีความท้าทายด้านโลจิสติกส์ แต่การสร้างความเร่งด่วนและความพิเศษในประสบการณ์ชอปปิงทำให้แนวโน้มนี้เติบโต

5. Marketplace จะยังครองตลาด

แพลตฟอร์ม Marketplace เช่น Shein, TikTok และ Amazon ยังคงเป็นผู้เปลี่ยนเกมในอุตสาหกรรมค้าปลีก ด้วยความสะดวกและความหลากหลายของสินค้า แบรนด์ใหม่ๆ จะเข้าสู่ตลาดมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโต

6. Just Walk Out Technology จะขยายตัว

เทคโนโลยีไร้แคชเชียร์และการดำเนินการค้าปลีกอัตโนมัติ เช่น ร้านค้าไร้พนักงาน หุ่นยนต์จัดการคลังสินค้า และโดรนส่งสินค้า จะกลายเป็นเรื่องปกติในปี 2025 โดยช่วยตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกและรวดเร็ว

7. การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อพนักงาน

ธุรกิจค้าปลีกจะมุ่งเน้นการสร้างเครื่องมือที่ช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์และเพิ่มประสิทธิภาพของพนักงาน โดยเน้นการพัฒนาทักษะและลดอัตราการลาออก

8. ร้านค้าปลีกแบบดั้งเดิมจะฟื้นคืน

ร้านค้าปลีกจะมุ่งเน้นการสร้างประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากออนไลน์ เช่น การจัดกิจกรรมในร้านค้าและการนำเสนอสินค้าพิเศษ สร้างความภักดีและความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับผู้บริโภค

9. การลงทุนในบริการภายในร้านค้า

แบรนด์ขนาดใหญ่จะลงทุนในบริการในร้าน เช่น การให้คำปรึกษาและการจัดกิจกรรม ซึ่งช่วยสร้างรายได้และเป็นจุดแตกต่างระหว่างออนไลน์และออฟไลน์

10. สื่อในค้าปลีกจะพัฒนาและซับซ้อนขึ้น

การสื่อสารในร้านค้าปลีกจะพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า แต่ยังคงมีความท้าทายในการสร้างเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจและการรับรู้ของผู้บริโภค

11. Gen Z และ Millennials ยังคงเป็นกำลังซื้อสำคัญ

สองกลุ่มนี้จะขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมค้าปลีก พวกเขาคาดหวังประสบการณ์ชอปปิงแบบออนไลน์สู่ออฟไลน์ที่ไร้รอยต่อ และต้องการแบรนด์ที่มีความโปร่งใสในกระบวนการผลิตและการจัดหา

12. Generation Alpha จะเป็นความท้าทายใหม่

Generation Alpha ซึ่งเติบโตในยุคดิจิทัล จะมีความต้องการที่แตกต่างจากรุ่นก่อนหน้า แม้จะชื่นชอบประสบการณ์ในร้านค้า แต่ความต้องการทางอีคอมเมิร์ซของพวกเขายังไม่เด่นชัด การตลาดสำหรับกลุ่มนี้ต้องสร้างสมดุลระหว่างการเข้าถึงเด็กและผู้ปกครอง

13. การตลาดที่ตอบโจทย์ทุกวัย

นักการตลาดต้องพัฒนากลยุทธ์ที่ตอบสนองต่อความต้องการที่หลากหลายของแต่ละรุ่น ตั้งแต่ Gen Z ที่เน้นความโปร่งใสและความรับผิดชอบต่อสังคม ไปจนถึง Baby Boomers ที่มองหาความน่าเชื่อถือและความชัดเจน

14. การตลาดต้องเผชิญความท้าทายมากขึ้น

การตลาดจะเผชิญความยากลำบากมากขึ้น เนื่องจากความไม่ไว้วางใจในโฆษณา และจำนวนสินค้าในตลาดที่เพิ่มขึ้น นักการตลาดต้องสร้างจุดเชื่อมโยงกับผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด

15. Seamless Commerce คืออนาคต

การค้าปลีกแบบไร้รอยต่อที่รวมประสบการณ์ออนไลน์และออฟไลน์จะเป็นที่ต้องการ ลูกค้าคาดหวังความรวดเร็ว ความสะดวก และการส่งมอบที่ยืดหยุ่น ซึ่งจะช่วยเพิ่มความพึงพอใจและความภักดี

16. Social Commerce จะรุ่งเรือง

การค้าปลีกผ่านโซเชียลมีเดียจะเติบโตต่อไป โดยเฉพาะในกลุ่ม Gen Z และ Millennials ที่ใช้แพลตฟอร์มอย่าง TikTok เพื่อค้นหาสินค้าใหม่ การร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์และการใช้ AI เพื่อแนะนำสินค้าจะเป็นกุญแจสำคัญ

17. การชำระเงินแบบไร้เงินสดจะขยายตัว

การชำระเงินผ่านมือถือ และการชำระเงินแบบแตะครั้งเดียวจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แม้จะมีความท้าทายเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล

18. การวัดผลทางการเงินแบบใหม่

การวัดผลสำเร็จของค้าปลีกจะเปลี่ยนไป โดยเพิ่มการประเมินจากประสบการณ์ของลูกค้า ความภักดีต่อแบรนด์ และการมีส่วนร่วมทางโซเชียลมีเดีย

19. การจัดการปัญหาอาชญากรรมในค้าปลีก

การป้องกันการโจรกรรมและอาชญากรรมในร้านค้าจะต้องใช้เทคโนโลยี เช่น RFID และความร่วมมือกับชุมชนและหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย

20. นโยบายอาหารใหม่จะส่งผลต่อพฤติกรรมผู้บริโภค

การเปลี่ยนแปลงนโยบาย เช่น การลดการใช้สารเติมแต่งในอาหาร และการส่งเสริมอาหารที่ดีต่อสุขภาพ จะมีผลกระทบต่อการเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภค

21. ตลาดสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีจะเติบโต

สินค้าและบริการด้านสุขภาพที่มีฐานข้อมูลวิทยาศาสตร์สนับสนุน เช่น อุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพและอาหารเสริม จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น

22. การเติบโตของร้านขายของชำออนไลน์

ยอดขายออนไลน์ในหมวดของชำจะเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าประเภทฟังก์ชันนอลฟู้ด เช่น ขนมโปรตีนสูงและอาหารเพื่อสุขภาพ

23. ซัพพลายเชนที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพ

การใช้ AI และ Blockchain จะช่วยให้ซัพพลายเชนปรับตัวต่อการหยุดชะงักได้อย่างรวดเร็ว และเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดส่งสินค้า

24. เศรษฐกิจหมุนเวียนคืออนาคตของค้าปลีก

แนวทางธุรกิจที่มุ่งเน้นความยั่งยืนและการนำทรัพยากรกลับมาใช้ใหม่จะได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริโภคที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แม้จะยังมีความท้าทายในการปรับใช้ในระดับกว้าง แต่แบรนด์ที่สามารถดำเนินกลยุทธ์นี้ได้สำเร็จจะสร้างความภักดีและผลกระทบที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

25. ไซเบอร์ซิเคียวริตี้และความโปร่งใสใน AI จะมีความสำคัญสูงสุด

การรักษาความปลอดภัยในระบบ AI จะเป็นประเด็นสำคัญในปี 2025 โดยเฉพาะกับการใช้งานในอุตสาหกรรมค้าปลีก กฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวและการควบคุมข้อมูลจะช่วยให้ผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นเพิ่มขึ้น กลยุทธ์ที่เน้นความปลอดภัย ความโปร่งใส และการใช้ข้อมูลอย่างมีจริยธรรมจะเป็นหัวใจของความสำเร็จ

ปี 2025 ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ธุรกิจค้าปลีกต้องปรับตัวและนำนวัตกรรมมาใช้เพื่อสร้างความได้เปรียบในตลาด แนวโน้มต่างๆ ตั้งแต่การใช้ AI ไปจนถึงเศรษฐกิจหมุนเวียน ไม่เพียงช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้ผู้บริโภค แต่ยังเสริมสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรมนี้ การมองไปข้างหน้าพร้อมปรับตัวอย่างรวดเร็วจะเป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จในอนาคต

เขียนโดย ชนัญชิดา พลอยพลาย

#FutureTrends #FutureTrendsetter #FutureTrendsBusiness

Source:25 predictions for the retail industry in 2025https://nrf.com/blog/25-predictions-for-the-retail-industry-in-2025