LOADING

Type to search

Ready Player One อาจไม่ใช่อนาคตที่ห่างไกล – Metaverse จักรวาลเสมือน ก้าวต่อไปของ Internet

Ready Player One อาจไม่ใช่อนาคตที่ห่างไกล – Metaverse จักรวาลเสมือน ก้าวต่อไปของ Internet
Share

ในปี 2018 สตีเวน สปีลเบิร์ก ได้พาผู้คนมากมายไปเห็นภาพของโลกอนาคตอันน่าตื่นตาตื่นใจ ด้วยการดัดแปลงนิยาย ‘Ready Player One’ ของ เออร์เนส ไคลน์ มาโลดแล่นบนจอภาพยนตร์

เราได้เห็นภาพของโลกที่ผู้คนใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ในโลกเสมือนจริง ที่ไม่ใช่แค่เกม แต่เป็นสถานที่ที่ผู้คนพบปะเข้าสังคม ทำงาน เรียนหนังสือ เดินช๊อปปิ้ง ท่องเที่ยว และอื่น ๆ ที่เราเคยทำได้แต่ในโลกความเป็นจริง

โลกในภาพยนตร์ และนิยายนี้ดูเหมือนจะเป็นอนาคตอันห่างไกล ที่วันหนึ่งเราอาจจะได้ใช้ชีวิตบนโลกเสมือนจริงได้บ้าง

แต่กลับกลายเป็นว่าอนาคตนั้นอาจไม่ได้ไกลออกไปอย่างที่เราคิด แต่กำลังจะกลายเป็นก้าวถัดไปของเทคโนโลยีที่จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราไป

เทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญ และส่งผลกระทบต่อชีวิตของเรามากที่สุดสิ่งหนึ่งในวันนี้คงหนีไม่พ้น ‘อินเตอร์เน็ต’ โลกออนไลน์ที่ทำลายขีดจำกัดของพื้นที่ ระยะทาง และพรมแดน ทำให้โลกทั้งใบเชื่อมโยงถึงกัน และทำให้เราทำในสิ่งที่อาจไม่เคยสามารถทำได้มาก่อน

ในวันนี้เราสามารถสั่งสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศ ประชุมคนในอีกซีกโลก และรับรู้เรื่องราวจากที่ใดก็ตามที่เราอยากรู้ได้ สิ่งเหล่านี้แทบจะเป็นพลังอำนาจเหนือจินตนาการ สำหรับคนในยุคก่อนหน้าการมาถึงของอินเตอร์เน็ต

แต่อะไรคือความเปลี่ยนแปลงอันยิ่งใหญ่ต่อไป เพราะนับตั้งแต่อินเตอร์เน็ตเกิดขึ้นเทคโนโลยี และบริการใหม่ ๆ ล้วนเกิดจากการใช้ประโยชน์ หรือพัฒนาอินเตอร์เน็ตให้ดีขึ้นไป เช่นสมาร์ทโฟนที่กลายมาเป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้ของแทบทุกคน ก็คือเครื่องมือที่ทำให้เราเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ง่ายขึ้นอยู่ดีและในตอนนี้ ก็มีสิ่งที่ถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะสามารถเข้ามาแทนที่อินเตอร์เน็ตที่เราใช้ในปัจจุบันได้อยู่ และสิ่งนั้นคือ Metaverse

https://theconversation.com/what-is-the-metaverse-a-high-tech-plan-to-facebookify-the-world-165326

Metaverse – โลกเสมือนแห่งอนาคต

Metaverse คือแนวคิดจากนิยายวิทยาศาสตร์ชื่อดัง Snow Crash ของ นีล สตีเวนสัน ซึ่งเขียนไว้ตตั้งแต่ปี 1992 ถึงโลกที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่ในโลกเสมือนสามมิติ และมีตัวตนในรูปแบบของอวตาร์ (Avatar) แต่หากให้นึกถึงตัวย่างที่เราคุ้นชินกัน ภาพยนตร์ Ready Player One คือตัวอย่างที่วาดภาพไว้ได้ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง

Metaverse คือแนวคิดของการมีพื้นที่เสมือนที่เราจะสามารถปฏิสัมพันธ์กันได้ในรูปแบบสามมิติ ซึ่งเหมือนกับ VR ในความคิดของเรา และในพื้นที่นี้จะเป็นพื้นที่ที่รวบรวมข้อมูล และบริการต่าง ๆ ไว้ด้วยกันในพื้นที่เสมือน กล่าวคือเราสามารถปฏิสัมพันธ์กับพื้นที่เสมือนนี้ได้เหมือนกับการอยู่ในสถานที่จริง และมีสถานที่ที่หลากหลายอยู่ในพื้นที่เดียวกัน เหมือนย่านแห่งหนึ่งที่สามารถมีได้ทั้งห้างสรรพสินค้า โรงเรียน และออฟฟิศ

จาก Internet 2 มิติ สู่ Metaverse 3 มิติ

หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ เราอาจบอกได้ว่า ‘อินเตอร์เน็ต’ ที่เราใช้อยู่ในปัจจุบันนั้น คือโลกเสมือนในรูปแบบ 2 มิติ คือเนื้อหาต่าง ๆ ที่เราพบเห็นได้ในอินเตอร์เน็ตนั้นปรากฏขึ้นใน 2 มิติเท่านั้น เช่นร้านค้าที่เราคุ้นเคย ก็ไม่สามารถวางของเป็นเชลฟ์ จัดเรียงสินค้าได้เหมือนอย่างหน้าร้านทั่วไป แต่จะต้องจัดแสดงสินค้าต่าง ๆ ในหน้าต่างผู้ใช้ (User Interface) แทน

แต่หากเป็น Metaverse เราอาจไม่ต้องจัดหน้าร้านไว้ในหน้าต่างผู้ใช้อีกต่อไป แต่สามารถสร้างร้านจำลองขึ้นมาจริง ๆ บนพื้นที่เสมือนเลย และให้ผู้ใช้ซึ่งเป็นอวตาร์ สามารถเดินดูและเลือกซื้อสินค้าในร้านได้ในพื้นที่อันเป็น 3 มิติ

https://venturebeat.com/2021/04/01/the-metaverse-needs-responsible-stewardship-not-greedy-predators/

Metaverse โลกเสมือนที่เชื่อมต่อกัน

สิ่งหนึ่งที่ทำให้ Metaverse แตกต่างไปจาก VR ที่เรารู้จักกันอยู่ คือการเป็นโลกที่เชื่อมต่อกัน ในวันนี้เรามี VR ที่ใช้งานได้จริงอยู่แล้วมากมาย แต่สิ่งเหล่านั้นก็ยังไม่อาจเป็น Metaverse ได้ เพราะ VR ที่ถูกใช้ในวันนี้มีจุดประสงค์เฉพาะทาง และไม่ได้เชื่อมโยงถึงกันแต่อย่างใด

เรามี VR เกม VR สำหรับการเรียนการสอน VR สำหรับการฝึกอบรม และ VR สำหรับการขายสินค้า แต่ VR เหล่านั้นต่างทำงานแยกออกจากกัน แต่ Metaverse คือการที่ VR ต่าง ๆ นั้นเชื่อมโยงถึงกัน เป็น VR ที่เราสามารถเล่นเกม ทำงาน ช๊อปปิ้ง เดินเที่ยว หรือพูดคุยกับเพื่อน ได้ในโลกเสมือนใบเดียวกัน

Facebook เดิมพันอนาคตกับ Metaverse

มุมมองที่เชื่อว่า Metaverse คืออนาคตของอินเตอร์เน็ตเป้นแนวคิดที่ผู้คนมากมายเริ่มหันมาเชื่อกันในสิ่งนี้ ไม้เว้นแม้แต่มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้ง และ CEO ของแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดเจ้าหนึ่งของโลก อย่าง มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ก็ยังเคยกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ The Verge ว่าเขาเชื่อว่า Metaverse จะเป็นอนาคตของโซเชียลมีเดีย และในตอนนี้ Facebook เองก็กำลังเดินหน้าโลกเสมือนของตัวเอง ที่จะให้ผู้คนสามารถพบปะพูดคุย ซื้อขายสินค้า ทำงาน เล่นเกม ไปจนถึงจัดแสดงงานศิลปะบนพื้นที่เสมือนของพวกเขาในโปรเจ็กต์อย่าง Facebook Horizon

ล่าสุด Facebook เองก็ยังไปจับมือออกเเว่นตาอัจฉริยะกับแบรนด์ดัง ออกมาเป็น Ray ban Stories แว่นตาอัจฉริยะที่ทำงานด้วยระบบของ Facebook และไม่ได้มีแค่ Facebook เท่านั้นที่ให้ความสนใจกับ Metaverse แต่ในซิลิคอน วัลเลย์ (Silicon Valley) ก็มีบริษัทเทคโนโลยีมากมาย ที่กำลังพยายามแข่งขันกันเพื่อเป็นเจ้าแรกในการสร้างแพลตฟอร์ม Metaverse ให้ผู้ใช้งานอย่างแพร่หลาย

Metaverse จะเปลี่ยนวิถีชีวิตของเราไปตลอดกาล

เหมือนที่ในวันนี้อินเตอร์เน็ตได้เปลี่ยนวิธีการที่เราใช้ชีวิตประจำวันไป Metaverse คือเทคโนโลยีที่มีความเป็นไปได้ในการสร้างผลกระทบอันยิ่งใหญ่เช่นนั้น

ลองนึกภาพอนาคตที่เราอาจไม่จำเป็นต้องก้าวเท้าออกจากบ้าน แต่มีจักรวาลอันกว้างใหญ่ให้เราได้สัมผัส อินเตอร์เน็ตได้ทำให้โลกทั้งใบเชื่อมโยงถึงกัน สร้างโอกาสและความเป็นไปได้มากมายมหาศาล

Metaverse โลกเสมือนที่เชื่อมโยงสิ่งต่าง ๆ ไว้ด้วยกัน พื้นที่จำลองที่เราสามารถปฏิสัมพันธ์กันได้อย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น โอกาสและความเป็นไปได้อีกมากมายกำลังจะถูกเปิดกว้างออกอีกครั้ง


sources: Forbes, The Verge