LOADING

Type to search

ค้าปลีกไทยไปไกลเวทีโลก! ‘โลตัส’ กวาด 3 รางวัล จาก Retail Asia Awards 2022

ค้าปลีกไทยไปไกลเวทีโลก! ‘โลตัส’ กวาด 3 รางวัล จาก Retail Asia Awards 2022
Share

ถึงแม้ว่า ‘โลตัส’ จะเป็นชื่อสุดคุ้นหูคุ้นใจสำหรับคนไทย ในฐานะห้างค้าปลีกใกล้บ้านที่มีสินค้าทุกอย่างให้เลือกสรรครอบคลุมกว่า 2,100 สาขาทั่วประเทศไทยและยังเป็นผู้นำในธุรกิจรีเทลด้วย

โดยถ้าถามว่า โลตัส ยืนหนึ่งในเวทีรีเทลตรงไหน ก็คงต้องเริ่มจากพูดถึงเวที Retail Asia Awards ก่อนที่เป็นเวทีวงการค้าปลีกเอเชียที่จัดขึ้นโดยนิตยสาร RETAIL ASIA จากประเทศสิงคโปร์นี้เป็นเวทีระดับภูมิภาคที่เป็นบทพิสูจน์ตำแหน่งผู้นำของเหล่าค้าปลีกในเอเชียอย่างแท้จริง

และล่าสุดใน Retail Asia Awards 2022 ที่ผ่านมา ‘โลตัส’ ก็สามารถยืนยันบทบาทผู้นำธุรกิจค้าปลีกไทยที่ประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติได้อีกครั้ง เพราะสามารถกวาดมาได้ถึง 3 รางวัล เป็นความสำเร็จปีที่ 2 ติดต่อกันแล้ว! ส่วนที่ว่าได้รางวัลอะไรบ้าง และน่าสนใจยังไง Future Trends จะเล่าให้ฟัง

รางวัลแรก Brand Transformation of the Year 

ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า Brand Transformation แน่นอนว่าต้องเป็นรางวัลที่พูดถึงการเปลี่ยนแปลงของแบรนด์ในการสร้างประสบการณ์ค้าปลีกที่ดีขึ้นให้กับลูกค้าและสามารถตอบโจทย์พฤติกรรมชอปปิ้งในยุคดิจิทัล โดย ‘โลตัส’ ได้รางวัลนี้จากแอปพลิเคชันใหม่อย่าง Lotus’s SMART App แพลตฟอร์มสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่มีโปรแกรมรีวอร์ดภายในตัวอย่าง my Lotus’s 

Lotus’s SMART App ยังมีเทคโนโลยี AI ที่ช่วยให้การชอปปิ้งสมาร์ทมากขึ้นและตรงใจลูกค้าเฉพาะเจาะจงมากขึ้นด้วย  โดยสามารถเสนอโปรโมชันและส่วนลดที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะราย (Personalization)  ทำให้แอปฯ ใช้งานง่ายและสะดวกขึ้นด้วย

รางวัลที่สอง Marketing Initiative of the Year

ถ้าพูดถึงความคิดริเริ่มทางการตลาดในวงการค้าปลีกที่ประสบความสำเร็จที่สุดแห่งปี แล้วยังสามารถสร้างประโยชน์กลับคืนสู่สังคมได้ด้วย แน่นอนว่าต้องมีแคมเปญ ‘รวมพลังลดครั้งใหญ่ พาไทยฝ่าวิกฤต’ ที่โลตัสได้จับมือกับ 40 ซีอีโอ จากหลายแบรนด์ดังในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค ลดราคาสินค้าในโลตัสสูงสุดมากกว่า 50% ยาวนานถึง 2 เดือน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพของประชาชนในยุคโควิด-19

ความน่าสนใจของแคมเปญนี้ คือ นอกจากคืนกำไรให้ลูกค้าแล้ว ยังเป็นไวรัลด้วย เพราะแคมเปญใช้กลยุทธ์การตลาดแบบ Co-creation ร่วมกับแบรนด์สินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของไทย ตั้งรูปหน้าปกแฟนเพจและตั้งสถานะเป็น in a relationship with Lotus’s บนแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก ทำให้เกิดกระแสบนโลกออนไลน์ในวงกว้าง สะท้อนความสำเร็จในการออกแบบแคมเปญที่ตรงจุดตรงใจลูกค้า เหมาะสมกับสถานการณ์และยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลางอย่างแท้จริง

รางวัลที่สาม Sustainability Initiative of the Year

มาถึงรางวัลสุดท้ายหนึ่งในเทรนด์แห่งยุคที่ทุกเวทีให้ความสำคัญจะขาด ‘ความยั่งยืน’ ไปไม่ได้ โดยรางวัล Sustainability Initiative of the Year หรือรางวัลความคิดริเริ่มทางด้านความยั่งยืนแห่งปีนี้ทางโลตัสได้มาจาก ‘โครงการรับซื้อผลผลิตตรงจากเกษตรกร’(Direct Sourcing) ทั่วประเทศโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง เพราะโครงการยึดหลักการตลาดนำการผลิต ช่วยเกษตรกรวางแผนการเพาะปลูกให้มีประสิทธิภาพ ได้พัฒนาความรู้ความสามารถ เพื่อยกระดับคุณภาพผลผลิต เพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันในตลาด และเติบโตในช่องทางอื่นๆ เพิ่มเติมได้อีกด้วย

ความสำเร็จของโครงการ คือ โลตัสสามารถช่วยเหลือเกษตรกรท้องถิ่นให้มีรายได้ที่เป็นธรรมและยั่งยืน รวมถึงสามารถให้คำแนะนำเกษตรกร พร้อมดูแลควบคุมคุณภาพผลผลิต โดยเฉพาะอาหารสดให้เป็นไปตามมาตรฐาน ส่งมอบสินค้าที่มีคุณภาพสูงส่งตรงถึงมือลูกค้า ทั้งในสาขาและช่องทางออนไลน์

โดย ‘สมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย’ ประธานคณะผู้บริหาร ธุรกิจโลตัส ประเทศไทย บอกว่า ความตั้งใจนี้เป็นหนึ่งในพันธกิจของโลตัสและเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการจะเป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาส  ช่วยเหลือเกษตรกรและ SME ไทยให้เติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน นอกจากนั้น การได้รับรางวัลครั้งนี้สะท้อนความสำเร็จในการทำงานของโลตัส ที่สร้างความภาคภูมิใจให้ผู้บริหารและพนักงานของโลตัส รวมไปถึงหน่วยงานภายนอกที่เป็นพันธมิตรที่สนับสนุนโครงการเหล่านี้ เพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงให้ประสบความสำเร็จไปด้วยกัน

เรียกว่า ยืนหนึ่งในเวทีรีเทลจริงๆ สำหรับปีนี้ที่ ‘โลตัส’ สามารถกวาด 3 รางวัลบนเวที Retail Asia Awards 2022 ประสบความสำเร็จในเวทีระดับนานาชาติ 2 ปีซ้อน ทั้งด้านการสร้างแบรนด์ การตลาด และความยั่งยืน ด้วยการปรับใช้เทคโนโลยีมาตอบโจทย์ลูกค้ายุคใหม่ที่ความต้องการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วและแตกต่าง

รวมถึงสามารถดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียตลอดห่วงโซ่อุปทาน สร้างการเติบโตที่ยั่งยืนให้กับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม จนชวนให้จับตาว่า ก้าวต่อไปของโลตัสจะสร้างแรงกระเพื่อมอะไรให้วงการค้าปลีกและสังคมไทยอีกบ้างในอนาคต

Tags::

You Might also Like