LOADING

Type to search

EMG Input อนาคตที่เราจะควบคุมหุ่นยนต์ ตัวละคร และคอมพิวเตอร์ได้เหมือนส่วนหนึ่งของร่างกาย

EMG Input อนาคตที่เราจะควบคุมหุ่นยนต์ ตัวละคร และคอมพิวเตอร์ได้เหมือนส่วนหนึ่งของร่างกาย
Share

ทุกครั้งที่มีการพูดถึงเทคโนโลยี VR หรือแม้กระทั่ง Metaverse หลายคนมักจะคิดกันถึงโลกความจริงเสมือนอย่างในภาพยนตร์ หรือการตูนอย่าง Tron หรือ Sword Art Online

เทคโนโลยี VR ที่เราสามารถควบคุม Avatar หรือตัวละครของเราได้เหมือนกับการขยับร่างกายจริง แต่ความจริงแล้วเทคโนโลยี VR ในปัจจุบันไม่ได้มีความสามารถที่จะทำเช่นนั้นได้เลย และกลับกันในการทำเช่นนั้นจะต้องพึ่งเทคโนโลยีที่แตกต่างออกไปโดยสิ้นเชิง

Electromyography หรือ การอ่านค่าประสาทด้วยระบบไฟฟ้า คือเทคโนโลยีที่ใกล้เคียงกับแนวคิดนั้น มากกว่า VR ที่เราคุ้นหูกัน

Electromyography คือเทคโนโลยีที่ถูกใช้ทางการแพทย์เพื่ออ่านการสื่อสารของประสาทที่แล่นไปสู่กล้ามเนื้อ ซึ่งปัจจุบันถูกใช้อย่างแพร่หลายเพื่อวินิจฉัยผู้ป่วยในโรคที่เกี่ยวกับกล้ามเนื้อ แต่ยังมีแนวคิดที่เหนือล้ำขึ้นไปในการนำ Electromyography มาใช้ แนวคิดนั้นคือ EMG Input แนวคิดที่ว่าเราอาจอาศัยเทคโนโลยีอ่านค่าประสาท และใช้ความคิดควบคุมคอมพิวเตอร์ เครื่องจักร หรือโปรแกรมได้เหมือนที่เราขยับกล้ามเนื้อในร่างกาย

EMG Input นี้เป็นแนวคิดที่น่าสนใจเป็นอย่างมากในทางการแพทย์เพื่อรักษาผู้พิการทางร่างกาย หากนึกให้เห็นภาพสิ่งที่เทคโนโลยีนี้จะทำได้ ก็เหมือนแขนไวเบรเนียมของ บัคกี้ บาร์น หรือวินเทอร์โซลเยอร์ ในแฟรนไชส์ Marvel หรือเทคโนโลยีอวัยวะเทียม ออโตเมล ในการ์ตูนชุด Fullmetal Alchemist

ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ เทคโนโลยีนี้ไม่ใช่ไอเดียที่อยู่เพียงบนหน้ากระดาษ

https://cdn-s-www.bienpublic.com/images/D0BB043C-3CF2-4E15-97A2-FCC34D1A04F5/NW_detail_M/title-1576680650.jpg

ในปี 2016 เกรกอรี คอร์ไทน์ (Grégoire Courtine) นักประสาทวิทยา และทีมวิจัยได้ทำให้ลิงที่พิการท่อนล่างจากการที่ประสาทไขสันหลังไม่เชื่อมต่อกัน สามารถกลับมาเดินได้ด้วยการฝังชิปเพื่ออ่านคลื่นสมอง โดยในการวิจัยนั้น ชิปได้ถูกฝังในสมองของลิง เพื่อจับคลื่นสัญญาณที่บ่งบอกว่ามันกำลังพยายามขยับขาที่เป็นอัมพาตของตัวเองอยู่ และใช้โปรแกรมถอดและแปลงโค้ดนั้น เพื่อส่งไปยังตัวรับสัญญาณซึ่งอยู่ในเส้นประสาทท่อนล่างของร่างกาย

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น คือการทำให้ลิงที่พิการจากการที่ประสาทไขสันหลังขาดสามารถเดินได้อีกครั้ง จากการเชื่อมประสาททั้งสองเข้าหากันใหม่แบบไร้สาย ผ่านการอ่านคลื่นสมอง และส่งสัญญาณกลับไปยังท่อนล่างที่เชื่อมกับขา นี่เป็นการวิจัยที่น่าสนใจ และน่าตื่นเต้นในแง่ความหวังสำหรับการรักษาผู้ป่วย แต่แน่นอนว่าด้วยจินตนาการของมนุษย์ เราสามารถนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ได้ไกลกว่านั้น

https://heidi-17455.kxcdn.com/photos/d5f8526b-5c66-4731-afba-da1cf69642db/large
https://pbs.twimg.com/media/D9U3GNmXoAAThHV.jpg

ปัจจุบันก็มีงานวิจัยที่พูดถึงเทคโนโลยีอ่านคลื่นสมอง และ Electromyograph เกิดขึ้นมาอีกมากมายเพื่อหวังจะสร้างเจเนอเรชันถัดไปในการควบคุมคอมพิวเตอร์ และเครื่องมือต่างๆ ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน และสิ่งนั้นคือ Brain Interface หรือการควบคุมด้วยสมอง

แม้ว่าเทคโนโลยี VR ในวันนี้จะไม่สามารถทำให้เราได้ควบคุมร่างกายของเราในโลกเสมือนได้อย่างสมจริง แต่ยังควบคุมผ่านคอนโทรลเลอร์ อนาคตข้างหน้าก็ยังมีสิ่งที่น่าสนใจรอเราอยู่

ในงาน Connect 2021 ซึ่งจัดโดย Oculus และ Facebook งานเดียวกับที่ มาร์ ซัคเคอร์เบิร์ก ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น Meta ก็ได้มีการพูดถึงการพัฒนาเทคโนโลยี EMG Input เพื่อใช้ร่วมกับเทคโนโลยี VR โดย Facebook ซึ่งปัจจุบันคือ Meta มุ่งหวังที่จะให้การพัฒนาเทคโนโลยี EMG Input จะเข้ามาช่วยทำให้อนาคตการใช้ VR จะสามารถให้ความรู้สึกเหมือนจริงได้เหมือนที่เราควบคุมร่างกายของตัวเอง

แต่อนาคตที่ว่านั้นจะอยู่ไกลอีกแค่ไหน จะกลายเป็นจริงเมื่อไหร่ ก็ยังคงเป็นสิ่งที่เราต้องติดตามกันต่อไป


sources: nature, theguardian, theverge

Tags::