Type to search

Deepseek-R1 โอเพ่นซอร์ส AI ฟรีที่ทรงพลัง พร้อม 5 ขั้นตอนในการใช้งาน เพื่อสร้าง AI Agent ของตัวเอง

January 31, 2025 By Pakanut Tariyawong

DeepSeek-R1 – AI โอเพ่นซอร์สที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เข้าถึงเทคโนโลยีขั้นสูงของ LLM (Large Language Model) เพื่อนำไปใช้งานในด้านต่างๆ ตั้งแต่การพัฒนาแอปพลิเคชัน ไปจนถึงการสร้างโซลูชัน AI เชิงลึกแบบมืออาชีพ

ปัจจุบันเทคโนโลยี AI ก้าวหน้าไปไกลจนกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในทุกอุตสาหกรรม แต่สำหรับหลายๆ คน การเข้าถึงเครื่องมือเหล่านี้อาจเป็นเรื่องยาก ทั้งเรื่องของค่าใช้จ่ายและข้อจำกัดในการพัฒนา

นี่คือเหตุผลที่ DeepSeek-R1 ถูกพัฒนาและเปิดตัว เพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึง โมเดลภาษาอัจฉริยะ (LLM) ที่เปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ แบบฟรีและเปิดกว้าง ไม่ว่าคุณจะเป็นนักพัฒนา นักวิจัย หรือธุรกิจขนาดเล็กก็สามารถนำไปต่อยอดได้ง่ายขึ้น

DeepSeek-R1 คืออะไร? 🤔

DeepSeek-R1 เป็นโมเดล Large Language Model (LLM) แบบโอเพ่นซอร์ส ที่ถูกออกแบบมาให้รองรับงานด้านการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) ได้อย่างครอบคลุม รองรับการทำงานตั้งแต่การสรุปข้อมูล การตอบคำถามอัตโนมัติ การแปลภาษา และอื่นๆ อีกมากมาย

โดยตัวโมเดลมีความสามารถที่โดดเด่น ไม่แพ้เครื่องมือระดับพรีเมียม แต่เปิดให้ใช้งานได้ฟรี พร้อมให้ทุกคนสามารถนำไปพัฒนาและปรับแต่งให้เหมาะสมกับความต้องการได้อย่างอิสระ

คุณสมบัติเด่นของ DeepSeek-R1 🔍

⭐ โอเพ่นซอร์ส และใช้งานได้ฟรี ให้ทุกคนสามารถนำไปใช้งานได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย เหมาะสำหรับนักพัฒนา สตาร์ทอัพ หรือองค์กรที่ต้องการทดสอบการใช้งาน AI

⭐ รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นงานด้านการแปลภาษา การสรุปเนื้อหา การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก การตอบคำถามอัตโนมัติ หรือจะเป็นการสร้างโซลูชันขั้นสูงก็ได้เช่นกัน

⭐ สามารถนำไปพัฒนาต่อยอดเพื่อปรับให้เข้ากับงานเฉพาะทาง ประสิทธิภาพสูง เทียบเท่าโมเดลระดับโลก ได้รับการพัฒนาให้มีความสามารถในการเข้าใจภาษาได้ดีเทียบเท่ากับเครื่องมือเชิงพาณิชย์

⭐ ใช้งานง่าย รองรับหลายแพลตฟอร์ม ติดตั้งและนำไปใช้งานได้ง่ายผ่าน API หรือฝังลงในแอปพลิเคชันของคุณ

DeepSeek-R1 เหมาะกับใคร? 👩‍💻👨‍💻

1. นักพัฒนา (Developers) ที่ต้องการนำโมเดล AI ไปใช้ในแอปพลิเคชันของตนเอง

2. สตาร์ทอัพ (Startups) ที่ต้องการประหยัดต้นทุนในการใช้งานโมเดล AI แต่ยังได้คุณภาพระดับสูง

3. นักวิจัย (Researchers) ที่ต้องการทดสอบและพัฒนาโซลูชัน AI ด้วยโมเดลที่สามารถเข้าถึงได้ง่าย

วิธีเริ่มต้นใช้งาน DeepSeek-R1 🚀

สามารถเข้าไปหน้าเว็บไซต์ของ DeepSeek และเริ่มต้นการใช้งานได้เลยทันที

ตัวอย่างการใช้งานจริง 🛠️

– การพัฒนา Chatbot อัจฉริยะ เพื่อให้บริการลูกค้าแบบอัตโนมัติ

– เครื่องมือช่วยสรุปข้อมูลเอกสารจำนวนมาก ให้ทำงานได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

– การสร้างระบบแปลภาษาในองค์กร เพื่อรองรับการสื่อสารข้ามประเทศ

เป็นต้น

โดย DeepSeek-R1 เป็นเครื่องมือ AI ที่เปิดโอกาสให้ทุกคนเข้าถึงโมเดลภาษาขั้นสูงแบบฟรี พร้อมรองรับการนำไปใช้งานในหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าคุณจะต้องการเพิ่มประสิทธิภาพให้ธุรกิจ หรือทดลองเทคโนโลยีใหม่ๆ นี่คือโอกาสที่คุณไม่ควรพลาด!

ซึ่ง Future Trends ได้เตรียม 5 ขั้นตอนในการใช้งาน DeepSeek-R1 เพื่อสร้าง Agent AI มาใช้เป็นของตัวเอง

หนึ่งในจุดเด่นของ DeepSeek R1 คือการที่มันสามารถทำงานเป็น AI Agent อัจฉริยะ ได้แบบฟรีๆ โดยไม่ต้องเสียเงินแพงๆ ไปกับ ChatGPT Operator ที่มีค่าใช้จ่ายสูงถึง $200 ต่อเดือน 💰 วันนี้ Future Trends จะมาแนะนำวิธีการตั้งค่า DeepSeek R1 และเชื่อมต่อกับ Browser Use เพื่อให้ AI ของคุณสามารถทำงานแทนคุณบนเว็บไซต์ต่างๆ ได้ เช่น การค้นหาข้อมูล จองโรงแรม หรือการกรอกฟอร์มออนไลน์ แบบอัตโนมัติ 🎯 เปรียบเสมือนการสร้าง AI Agent เป็นของตัวเอง

ถ้าพร้อมแล้ว มาเริ่มกันเลย! 🚀

[ ขั้นตอนที่ 1: เตรียมเครื่องมือและติดตั้งสิ่งที่จำเป็น 🛠️ ]

ก่อนจะเริ่มใช้งาน เราต้องแน่ใจว่าคอมพิวเตอร์ของเรามีอุปกรณ์พร้อมใช้งาน โดยสิ่งที่ต้องเตรียมมีดังนี้

1.1 ฮาร์ดแวร์ที่เหมาะสม

หากใช้ DeepSeek R1 รุ่นเล็ก (1.5B parameters) คอมพิวเตอร์ที่มี CPU หรือการ์ดจอระดับกลาง (8GB VRAM) ก็เพียงพอ แต่หากต้องการใช้ รุ่นใหญ่ (7B หรือ 70B parameters) แนะนำให้ใช้การ์ดจอระดับสูง เช่น RTX 4090 หรือ NVIDIA A100

1.2 ระบบปฏิบัติการที่รองรับ

ใช้ Linux หรือ macOS จะติดตั้งได้ง่ายที่สุด ส่วนผู้ใช้ Windows สามารถติดตั้งผ่าน WSL (Windows Subsystem for Linux)

1.3 เตรียมสภาพแวดล้อมการทำงาน Python

เปิด Terminal แล้วพิมพ์คำสั่งต่อไปนี้ทีละขั้นตอน (ให้คิดเสียว่าคุณกำลังทำตามสูตรอาหารเลย 😉)

# สร้างพื้นที่การทำงานแยกเฉพาะ AI ของเรา 

ด้วย python -m venv venv

# เริ่มต้นใช้งานสภาพแวดล้อม (สำหรับ macOS/Linux) 

ด้วย source venv/bin/activate  

หรือ # ถ้าใช้ Windows ให้ใช้คำสั่งนี้แทน venv\Scripts\activate

1.4 หลังจากเปิดใช้งานแล้วให้ติดตั้งไลบรารีที่จำเป็น

pip install torch torchvision transformers sentencepiece

[ ขั้นตอนที่ 2: เรียกใช้งาน DeepSeek R1 ผ่าน API หรือบนเครื่องของคุณ 🧠 ]

คุณสามารถใช้งาน DeepSeek R1 ได้ 2 วิธี ขึ้นอยู่กับว่าคุณต้องการความสะดวกหรือความเป็นส่วนตัว

✅ ตัวเลือกที่ 1: ใช้งานผ่าน API (ง่ายและรวดเร็ว)

เหมาะสำหรับคนที่ต้องการใช้งานโดยไม่ต้องตั้งค่าเยอะ เพียงแค่สมัครและขอ API Key จากเว็บไซต์ของ DeepSeek นำคีย์มาใช้เพื่อเรียกใช้งาน AI ผ่านโค้ดง่ายๆ เช่น:

from openai import OpenAI

client = OpenAI(api_key=”YOUR_DEEPSEEK_API_KEY”, base_url=”https://api.deepseek.com”)

response = client.chat.completions.create(

    model=”deepseek-reasoner”,

    messages=[{“role”: “user”, “content”: “Explain quantum computing in simple terms”}]

)

print(response.choices[0].message.content)

✅ ตัวเลือกที่ 2: ติดตั้ง DeepSeek R1 บนเครื่อง (ควบคุมได้เต็มที่)

ถ้าคุณต้องการความเป็นส่วนตัวสูงสุด สามารถติดตั้งบนเครื่องของคุณเองโดยใช้ Ollama ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้รันโมเดล AI ได้ง่ายขึ้น เพียงแค่ดาวน์โหลดและติดตั้ง Ollama จากเว็บไซต์ทางการ หลังจากนั้นใช้คำสั่งต่อไปนี้เพื่อติดตั้ง DeepSeek R1 บนเครื่องของคุณ:

ollama pull deepseek-r1:7b  # ดาวน์โหลดเวอร์ชัน 7B

ollama run deepseek-r1:7b   # เริ่มต้นใช้งาน

[ ขั้นตอนที่ 3: ติดตั้งและตั้งค่า Browser Use เพื่อให้ AI ทำงานบนเว็บ 🌐 ]

เมื่อเราได้ AI แล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการทำให้ AI สามารถทำงานอัตโนมัติบนเว็บไซต์ต่างๆ ได้ โดยใช้ Browser Use ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยให้ AI คลิกปุ่ม กรอกฟอร์ม หรือค้นหาข้อมูลบนเว็บได้เอง เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว! โดยทำตามขั้นตอนง่ายๆ เหล่านี้

3.1 ดาวน์โหลด Browser Use จาก GitHub:

git clone https://github.com/browser-use/browser-use.git

cd browser-use

pip install -r requirements.txt

3.2 ตั้งค่าเบื้องต้นโดยรัน Web UI ด้วยคำสั่งนี้:

python webui.py

3.3 เปิดเบราว์เซอร์และเข้าไปที่ Web UI เพื่อกำหนดการตั้งค่าต่างๆ เช่น ขนาดหน้าต่างเบราว์เซอร์ และรูปแบบของ AI Agent

[ ขั้นตอนที่ 4: เชื่อมต่อ DeepSeek R1 กับ Browser Use เพื่อทำงานอัตโนมัติ 🤝 ]

เมื่อติดตั้งทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ก็ถึงเวลาทำให้ AI สามารถโต้ตอบกับเว็บไซต์ได้จริง โดยให้ AI มีความสามารถเช่น เข้าเว็บไซต์และค้นหาข้อมูล กรอกแบบฟอร์มลงทะเบียน ตรวจสอบราคาและเปรียบเทียบสินค้าบนเว็บอีคอมเมิร์ซ ด้วยการตั้งค่าไฟล์การทำงาน เช่น

{

  “model”: “deepseek-r1”,

  “base_url”: “http://localhost:5000”,

  “browser_settings”: {

    “window_height”: 1080,

    “window_width”: 1920

  }

}

[ ขั้นตอนที่ 5: การปรับแต่งให้ AI ฉลาดขึ้นด้วย Prompt Engineering 🛠️ ]

หากต้องการให้ AI ทำงานได้แม่นยำขึ้น คุณสามารถใช้เทคนิคการเขียนคำสั่ง (Prompt Engineering) เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ตรงความต้องการ เช่น:

<instructions>

You are an AI assistant tasked with automating web tasks using Browser Use.

Follow these steps:

1. Navigate to [website].

2. Perform [specific task].

3. Return results in a structured format.

</instructions>

<example>

Navigate to https://example.com and extract all hyperlinks.

</example>

หรือ จะด้วยคำสั่งง่ายๆ เช่น “ค้นหาโรงแรมราคาถูกในโตเกียวและแสดงตัวเลือกที่ดีที่สุด” และ “สรุปข่าวเทคโนโลยีสำคัญประจำวัน แล้วส่งรายงานเข้าอีเมลทุกเช้า” ก็สามารถทำให้ชีวิตคุณดีขึ้นได้


ด้วย DeepSeek R1 และ Browser Use คุณสามารถสร้าง AI Agent ได้ง่ายๆ โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายสูง พร้อมทั้งปรับแต่งได้ตามความต้องการของคุณเอง ลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ แล้วคุณจะพบว่า AI ไม่ได้ซับซ้อนอย่างที่คิด 😉

#AIoftheDay #DeepSeekR1 #OpenSourceAI #FutureTrends #FutureTrendsetter

Source: 

.

APIDOG – How to Use DeepSeek R1 to Build an Open Source ChatGPT Operator Alternative : https://apidog.com/blog/how-to-use-deepseek-r1-to-build-an-open-source-chatgpt-operator-alternative/

.เข้าไปทดลองใช้งานได้ที่ https://www.deepseek.com/