วิเคราะห์เทรนด์ AI 2025 โอกาสพลิกเกมธุรกิจเกษตรและค้าปลีก โดยชาว AXONS ผู้นำด้าน AgriTech

ในปี 2025 นี้ AI จะเข้ามามีบทบาทในหลากหลายมิติของชีวิตจนอาจกลายเป็นตัวเร่งที่เปลี่ยนแปลงธุรกิจและวิถีชีวิตอย่างแท้จริง จากการทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ข้อมูล การประมวลผลที่แม่นยำ ไปจนถึงการสร้างประสบการณ์เฉพาะบุคคล
Future Trends อยากชวนทุกท่านไปร่วมสำรวจแนวคิดและมุมมองของชาว AXONS ผู้นำด้านเทคโนโลยี AgriTech เพื่อค้นหาว่า AI ในปี 2025 จะนำพาเราไปสู่การเปลี่ยนแปลงและโอกาสใหม่ ๆ ได้อย่างไรบ้าง

ดร.พรเทพ สาระคนธ์ (Lead AI/ML : AXONS) มอง AI ในภาพรวมว่า ปี 2025 Agentic AI จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ
“AI ที่ใช้อยู่ในธุรกิจอุตสาหกรรมเกษตรตอนนี้หลักๆ จะมีอยู่ 3 แบบ แบ่งตามการเลียนแบบความสามารถของมนุษย์นะครับ คือ หนึ่ง #ComputerVision ที่เลียนแบบการมองเห็นของมนุษย์ โดยการวิเคราะห์ภาพและวิดีโอ ถ้าใช้ในฟาร์มส่วนใหญ่ก็จะเป็นการประเมินน้ำหนัก ไม่ว่าจะเป็นน้ำหนักไก่ ปลา หรือประเมินอาหารที่เหลืออยู่ในบ่อกุ้ง เพื่อปรับปริมาณการให้อาหาร หรือแม้กระทั่งประเมินอัตรารอดของกุ้ง เป็นต้น”
“ตัวที่สองคือ #MachineLearning ที่เปรียบเหมือนกับสมองของมนุษย์ ตัวอย่างการนำ AI ชนิดนี้มาใช้งาน
เช่น การคาดการณ์ราคาวัตถุดิบ เพื่อวางแผนการจัดซื้อ หรือคาดการณ์ความต้องการสินค้า เพื่อวางแผนจัดเตรียมสต็อก ทําให้เราได้เปรียบคู่แข่งมากขึ้น”
“กลุ่มสุดท้าย คือ Natural Language Processing หรือ #NLP ที่เราใช้งานกันทุกวัน ก็จะเป็นพวก Chatbot ต่างๆ เช่น HR chatbot ที่ตอบคำถาม Policy ของบริษัท รวมถึงวันลาที่เหลือหรือวงเงินรักษาพยาบาลด้วย ทำให้พนักงานสะดวกในการตรวจสอบมากขึ้น”
“เทรนด์การใช้ AI ในอุตสาหกรรมเกษตรในปี 2025 คือ Precision Agriculture คือการทําฟาร์มและปศุสัตว์ให้ได้ประสิทธิภาพสูงที่สุดโดยใช้ทรัพยากรน้อยที่สุด ควบคู่ไปกับการทำ Sustainable Agriculture หรือการทำเกษตรแบบยั่งยืน ซึ่งทั้ง 2 ส่วนนี้ที่เป็นหัวใจของอุตสาหกรรมเกษตร แต่ว่ารูปแบบการใช้งานของ user จะเปลี่ยนไป”
“ตอนนี้คนใช้มือถือมากกว่าคอมพิวเตอร์ ทำให้การแสดงผลแบบเดิมที่เป็น dashboard อาจไม่เหมาะบนจอมือถือ ดังนั้นการออกแบบ User Experience / User Interface ของ AI จะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ user ได้รับประสบการณ์ในการใช้ AI ที่ดีที่สุด โดยเราให้ความสำคัญกับ 4 อย่าง ความแม่นยำ, ใช้งานง่าย, ความเร็ว, และความปลอดภัย เพราะ AI จะฉลาดที่สุดเมื่อตอบถูกในเวลาที่เหมาะสมและต้องใช้ง่ายด้วย”
“ปี 2025 Agentic AI จะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ ด้วยระบบ Multi Agents ที่รวมความสามารถจากทั้ง 3 โดเมน ช่วยให้ผู้ใช้สั่งการง่ายในคลิกเดียว พื่อลดความซับซ้อนและเพิ่มประสิทธิภาพ การพัฒนาเหล่านี้จะช่วยผลักดันเกษตรให้ยั่งยืน”

จิดาภา เมืองพูล (Product Owner : FarmOne by AXONS) มองในมุมการนำ AI มาใช้ในอุตสาหกรรมเกษตรว่า AI จะช่วยให้เกษตรกรเข้าถึงข้อมูลที่ลึกขึ้น
“ตอนนี้ใน #FarmOne ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันสำหรับเกษตรกร มี AI ที่เราใช้อยู่แล้ว 2 ตัว คือ AI #ImageProcessing ที่ใช้การประมวลผลจากภาพถ่ายเพื่อสร้างแบบจำลองในการ #วิเคราะห์โรคพืช โดยมาจาก pain point ของเกษตรกรที่ไม่รู้ว่าการที่ผลผลิตในแปลงของเขาตกต่ำลงมีสาเหตุมาจากอะไร เกิดจากโรคอะไร ทำให้แก้ปัญหาไม่ทัน ที่ผ่านมาเขาจะใช้วิธีถือใบที่เป็นโรคไปถามตามร้านขายยา ซึ่งขั้นตอนตรงนี้มันใช้เวลา และข้อมูลที่ได้อาจจะไม่ถูกต้อง แต่พอเราเอา AI เข้ามาช่วย เขาก็จะรู้ที่มาของปัญหาได้เร็วขึ้น และแก้ปัญหาได้ทันท่วงที”
“อีกตัวหนึ่งคือการนำ AI มาใช้ในการสร้างโมเดล #พยากรณ์อากาศล่วงหน้า ถึงแม้ว่าตอนนั้นตัวเขาเองอาจจะไม่ได้อยู่ที่แปลงปลูกของเขา ก็ยังเข้าแอปฯ มาดูข้อมูลอากาศที่แปลงได้”
“สิ่งที่จะได้เห็นในปี 2025 คือการนำ AI มาใช้ร่วมกับภาพถ่ายดาวเทียม NDVI เพื่อ #บอกความสมบูรณ์ของแปลงได้ละเอียดขึ้น สามารถชี้จุดได้เลยว่าพืชในบริเวณไหนของแปลงที่สุขภาพแย่หรือน่าเป็นห่วง และให้คำแนะนำเกษตรกรได้ว่าเขาควรจะต้องไปดูแลตรงจุดนั้นหน่อย มันอาจจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องโรค แต่อาจจะเป็นวิธีการดูแลแปลงของเขาด้วย เช่น อาจจะรดน้ำมากเกินไป หรือไม่ได้ใส่ปุ๋ยบริเวณนั้นให้ทั่วถึง”
“มองโดยภาพรวม ปี 2025 เกษตรกรมีโอกาสจะรวยขึ้น คุณภาพชีวิตดีขึ้น เพราะ AI ช่วยให้พวกเขาเข้าถึงข้อมูลที่ลึกขึ้น ผลผลิตจึงเสียหายน้อยลง และมีคุณภาพมากขึ้น”

นรเทพ สุระแสง (Product Owner : AXONS Eyes) ให้ความเห็นในฐานะที่ดูแลระบบให้กับลูกค้าในกลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Retail) ว่า ปี 2025 เราอาจจะได้เห็นธุรกิจรายย่อยเข้าถึงเทคโนโลยี AI ได้มากขึ้น
“ธุรกิจรีเทล Pain Point อย่างแรกคือเขาอยากจะขายของให้ได้มากที่สุด เพราะฉะนั้นเขาต้องการรู้ Customer Insight ให้ได้เยอะที่สุด”
“อีกเรื่องหนึ่งคือ เขาอยากรู้ว่าพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ที่ร้านค้า ทำงานได้ตามมาตรฐานหรือเปล่า โดยเฉพาะพวกร้านค้าที่เป็น Chain Store มีหลายสาขา เขาจะก็ไม่มีเวลาดูทั้งหมด รวมถึงเรื่องความปลอดภัย เรื่องการขโมยของ ซึ่งกว่าเขาจะรู้ก็หลังจากที่เกิดเหตุการณ์ไปแล้ว”
“ปัจจุบัน AI จะมีมุมมองหนึ่งที่เรียกว่า Computer Vision ซึ่งจะใช้ข้อมูลจากภาพและวิดีโอจากกล้อง CCTV มาประมวลผลและวิเคราะห์ด้วย AI ช่วยธุรกิจรีเทลในการบริหารร้านค้าปลีก วิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้บริการ และพนักงานในร้าน”
“แทนที่จะต้องเข้าไปที่หน้าร้าน เราจะรู้ได้เลยว่าวันหนึ่งๆ มีลูกค้าเข้าสาขากี่คน เป็นเพศชายหรือเพศหญิงกี่คน อายุประมาณเท่าไหร่ และรู้ได้ว่าพนักงานทำมาตรฐานที่วางไว้หรือเปล่า ด้วยการสอนให้ AI รู้ว่าพนักงานจะต้องเข้ามาเปิดร้านช่วงประมาณกี่โมง พนักงานอยู่ประจำจุดหรือเปล่า ถ้ายังไม่มา AI ก็จะตรวจจับได้ว่ายังไม่เห็นพนักงาน และแจ้งเตือนไปยังเจ้าของร้าน โดยที่เราไม่ต้องคอยมานั่งดูกล้องเอง”
“หรือถ้ามีสินค้าพร่องไป แต่พนักงานยังไม่มาเติม มันก็แจ้งเตือนไปได้ว่าของใกล้หมดแล้วนะ ต้องมาเติมแล้วนะ”
“ตอนนี้ธุรกิจรีเทลใหญ่ๆ เริ่มเอา AI มาใช้แล้ว เทรนด์ในปี 2025 ผมคิดว่า การใช้งานจะเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น คนจะเข้าถึงเทคโนโลยีนี้ได้ง่ายขึ้น ระบบที่ธุรกิจรายใหญ่ทำอยู่ จะเข้าถึงรายย่อยมากขึ้น ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้น AI จะเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจรีเทลในการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน สร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และเพิ่มยอดขาย ธุรกิจที่สามารถนำ AI ไปประยุกต์ใช้ได้อย่างเหมาะสมจะมีความได้เปรียบในการแข่งขันในตลาด”