การพูดเพื่อโน้มน้าวใจหรือให้เข้าถึงใจผู้ฟัง เป็นวิธีการสื่อสารที่สำคัญอย่างหนึ่งสำหรับหลายๆ สถานการณ์ ทั้งการนำเสนอในที่ประชุม การเสนอขายผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้า การสัมภาษณ์งาน การพูดสร้างแรงบันดาลกับทีม หรือแม้แต่การสนทนาทั่วไปในชีวิตประจำวัน แล้วอะไรคือหัวใจหลักของการพูดโน้มน้าวใจให้เข้าถึงใจผู้ฟัง?
ย้อนกลับไปที่แนวคิดเรื่องการสื่อสารของ อริสโตเติล (Aristotle) นักปราชญ์ชาวกรีก ที่ได้คิดทฤษฎีการสื่อสาร ซึ่งต่อมากลายเป็นรากฐานของทฤษฎีการสื่อสารในยุคหลัง โดย ‘แบบจำลองการสื่อสารของอริสโตเติล’ (The Aristotelian Model) อธิบายการสื่อสารว่า จะเกิดขึ้นเมื่อ ‘ผู้พูด’ สร้างสาร เรียบเรียงความคิดที่ต้องการสื่อในรูปแบบ ‘คำพูด’ เพื่อส่งต่อไปถึง ‘ผู้ฟัง’ โดยให้ความสำคัญกับการพูดในที่สาธารณะอย่างมีวาทศิลป์ (Rhetoric) เพื่อ ‘โน้มน้าวใจ’ หรือจูงใจผู้คน ซึ่งจะเกิดขึ้นได้ด้วย 3 องค์ประกอบ คือ
1.อีธอส (Ethos) ความน่าเชื่อถือของผู้พูด เช่น รู้จริง จริงใจ ปรารถนาดีต่อผู้ฟัง ซึ่งคนฟังมีแนวโน้มจะเห็นด้วยกับคนพูดที่เขานับถือในความสำเร็จ ตำแหน่ง ประสบการณ์ เป็นต้น
2.โลกอส (Logos) วิธีจูงใจผ่านการใช้ข้อเท็จจริง เหตุผล หลักฐาน ข้อมูล หรือตรรกะต่างๆ มาใช้ประกอบการพูด
3.พาธอส (Pathos) การแสดงออกที่เข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึก หรือทัศนคติของผู้ฟัง
ทั้ง 3 องค์ประกอบ เป็นหัวใจสำคัญในการสื่อสารของผู้พูดที่จะสามารถโน้มน้าวใจผู้ฟังได้ แล้วต้องมีสัดส่วนและวิธีการใช้อย่างไร?
คาร์ไมน์ แกลโล (Carmine Gallo) ผู้เขียนหนังสือ Talk Like TED วิเคราะห์การพูดของ ไบรอัน สตีเวนสัน (Bryan Stevenson) ทนายความด้านสิทธิมนุษยชน ผู้ก่อตั้ง Equal Justice Initiative ในสหรัฐอเมริกา ในหัวข้อ ‘We need to talk about an injustice’ บนเวที TED ซึ่งเป็นผู้พูดที่ผู้ฟังยืนปรบมือให้ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ TED
การนำเสนอของไบรอัน มีคำทั้งหมด 4,057 คำ โดยจัดหมวดหมู่ออกได้เป็น อีธอส 10 เปอร์เซ็นต์, โลกอส 25 เปอร์เซ็นต์ และพาธอส 65 เปอร์เซ็นต์ จะเห็นได้ว่า การพูดของไบรอัน เน้นไปที่พาธอส ซึ่งให้ความสำคัญกับการเข้าถึงอารมณ์ ความรู้สึกของผู้ฟังเป็นหลัก การบรรยายดังกล่าวถูกโหวตให้เป็นหนึ่งในการพูดที่โน้มน้าวใจมากที่สุดใน TED.com
หลังจากการบรรยาย นอกจากเสียงปรบมือที่ยาวนาน ไบรอันยังได้รับเงินบริจาคเข้าองค์กรที่เขาก่อตั้งอีก 1 ล้านเหรียญสหรัฐ
ก่อนหน้านี้ คนทั่วไปมักเข้าใจว่าการโน้มน้าวใจให้ใครทำสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ควรหาเหตุผลมาสนับสนุน ซึ่งอารมณ์ความรู้สึกไม่ได้อยู่ในนิยามดังกล่าว แต่สิ่งที่พบจากกรณีของไบรอัน หากปราศจากเรื่องราวที่สร้างอารมณ์ร่วม การบรรยายของเขาคงไม่ส่งอิทธิพลต่อผู้คนมากขนาดนี้
ในการบรรยาย นำเสนอ หรือสนทนาใดๆ ให้ลองนำเนื้อหาที่จะพูดมาจัดแบ่งส่วนให้เข้ากับ 3 องค์ประกอบที่กล่าวมา โดยแบ่งสัดส่วนตามวาระและสถานการณ์ที่เหมาะสม หากต้องการโน้มน้าวใจผู้ฟังให้สำเร็จอย่างที่ ไบรอัน สตีเวนสัน ทำบนเวที TED ให้ลองแบ่งตามสัดส่วนข้างต้น
แต่หากการจูงใจด้านอารมณ์ยังต่ำ ต้องทบทวนเนื้อหาใหม่ก่อนการพูดครั้งต่อไป รวมถึงเพิ่มเรื่องราวและความคิดเห็นส่วนตัวให้มากขึ้น และฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง จะทำให้สามารถพูดได้เข้าถึงใจผู้ฟังมากขึ้น จนสามารถโน้มน้าวใจผู้คนได้อย่างที่ต้องการ
การพูดได้อย่างเข้าถึงใจผู้ฟังจนสามารถโน้มน้าวผู้คนได้ เป็นทักษะที่จำเป็นต้องมี ไม่ใช่แค่บรรดาผู้นำหรือหัวหน้าทีมและองค์กรเท่านั้น แต่ยังจำเป็นสำหรับคนที่ต้องการความก้าวหน้าในทุกตำแหน่ง โดยทักษะนี้จะเป็นตัวช่วยไปสู่ความสำเร็จทั้งในการใช้ชีวิตและการทำงาน
เขียนโดย: Phoothit Arunphoon
Sources: https://bit.ly/3GVLeWC
หนังสือ ‘Talk Like TED’ เขียนโดย Carmine Gallo (คาร์ไมน์ แกลโล) แปลโดย พลอยแสง เอกญาติ สำนักพิมพ์ openworlds