เขียนโดย P.supaporn
เวลาเกือบ 20 ปีแล้วที่รถไฟฟ้า BTS เปิดให้ใช้บริการ อีกหนึ่งระบบขนส่งมวลชนที่สำคัญของกรุงเทพ โดยมีผู้ใช้บริการโดยเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคน ในแต่ละวัน BTS เป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการสัญจรของคนกรุงเทพ
ข้อดีของการเดินทางด้วย BTS ว่าทำไมถึงเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆในการเดินทางเนื่องจาก BTS บริหารตามแนวคิด City Solutions ที่ช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการเดินทางให้แก่ผู้ใช้บริการ ไม่ต้องทนอยู่กับปัญหาจราจรติดขัด ช่วยประหยัดเวลา ลดระยะการเดินทางในกรุงเทพ แม้จะอยู่ชานเมืองก็สามารถเดินทางไปทำงานในเมืองได้อย่างรวดเร็วกว่าระบบขนส่งสาธารณะอื่นๆ
นอกจากจะเป็นระบบขนส่งมวลชน ที่ตอบสนองรูปแบบการใช้ชีวิตของคนเมืองได้อย่างแท้จริงแล้ว BTS ยังมีพื้นที่ให้บริการในด้านอื่นๆ ที่นอกเหนือจากระบบขนส่งมวลชนอีกด้วย เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ
4 บริการที่ตอบโจทย์คนใช้ BTS
1. BMA Express Service จุดบริการด่วน
ไม่มีเวลาว่างไปสำนักงานเขตไม่ใช่ปัญหา บริการนี้จะช่วยให้การทำเอกสารราชการไม่ใช่เรื่องยุ่งยากอีกต่อไป ทั้งยังสะดวกและง่ายต่อการเดินทาง ตอบสนองผู้ที่ต้องการติดต่อราชการในเรื่อง
- ทำบัตรประชาชน
- เปลี่ยนชื่อ-นามสกุล
- คัดสำเนาทะเบียนบ้าน
- นิติกรรมด้านสินเชื่อ
- re-service เตรียมข้อมูลเอกสารก่อนไปใช้บริการที่สำนักงานเขต
จุดบริการด่วนนี้อยู่บนสถานี BTS ถึง 4 สถานี คือ สถานีหมอชิต สถานีสยาม สถานีอุดมสุข สถานีวงเวียนใหญ่ ระยะเวลาปิดก็ยืดกว่าเวลาราชการ ปิด 19.00 น. เป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับคนที่ใช้บริการบีทีเอส สะดวก ฉับไว และไม่เปลืองเวลา
2. SKYBOX บริการรับส่งพัสดุภายในสถานีรถไฟฟ้า
ทางเลือกใหม่การขนส่งออนไลน์ โดยให้บริการรับ-ส่งพัสดุที่มีความรวดเร็ว สามารถฝากส่งพัสดุให้กับเพื่อนหรือลูกค้าได้ง่าย ๆ ด้วยการฝากไว้ที่จุดรับในเส้นทางที่ใช้งานเป็นประจำตามแนวสถานีระยะเวลาในการขนส่งภายใน 40 นาที สามารถติดตามสถานะพัสดุได้เป็นระบบ real-time นับเป็นการส่งมอบสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพ SKYBOX ตั้งจุดให้บริการบน 7 สถานี ได้แก่ สถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อโศก ทองหล่อ สนามกีฬาแห่งชาติ ช่องนนทรี หมอชิต และอารีย์ การให้บริการที่ใช้เวลาในการส่งน้อยกว่าการส่งพัสดุปกติ ปลอดภัยไม่ต้องกลัวสินค้าเสียหาย ช่วยให้การวางแผนชีวิตในแต่ละวันง่ายขึ้น
3. Lock Box บริการตู้ล็อกเกอร์รับฝากสัมภาระ
ให้บริการตู้ล็อกเกอร์รับฝากสัมภาระในระบบการขนส่งมวลชน ที่ช่วยให้ไม่ต้องแบกของหนักอีกต่อไป มีทั้งรายวันและรายชั่วโมง สามารถเลือกขนาดตู้ตามขนาดสัมภาระได้ มีให้บริการหลากหลายจุดในรอบเมือง เช่นทางเชื่อม BTS หมอชิต ศาลาแดง อโศก เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงด้วย ฝากของไว้ ไปไหนก็ได้ อีกทั้งยังมีระบบความปลอดภัยที่ดี รอบๆ ตู้จะมีกล้อง CCTV ติดตั้งไว้เพื่อคอยดูแลความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ บริการนี้ถือเป็นทางออกที่ดีของคนที่ของเยอะ หรืออยากจะช้อปปิ้ง แล้วไม่อยากหิ้วของให้พะรุงพะรัง Lock Box ถือว่าตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดี
4. WERK Lifestyle Space
เปลี่ยนจาก working space เป็น Experiential Store เปิดพื้นที่ให้ร้านค้าออนไลน์ได้มีเป็นPop-up ร้านของตนเองขึ้นมา เพื่อให้คนซื้อสามารถเข้ามาลอง เข้ามาจับสินค้าได้เลย เป็นการช่วยลดช่องว่างระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย ทั้งยังเพิ่มความน่าเชื่อถือให้กับร้านค้า ร้านที่มาแล้ว เช่น Mustard , Something Apparels , Chou, Violetta เป็นต้น นอกจากนี้ ยังมี Event Space ตรงกลางที่เหล่าร้านค้ารอบ ๆ สามารถมาจัดกิจกรรมได้ตามเทศกาลต่าง ๆ ได้ เป็นเวลา 2-3 อาทิตย์ ทำให้พื้นที่บน BTS มีมิติมากขึ้น ถือเป็นอีกสถานที่ดีๆที่ช่วยให้คนที่ใช้บริการมีทางเลือกในการซื้อสินค้า หากมีงานกระทันหันที่ต้องเปลี่ยนสไตล์การแต่งตัวก็สามารถแวะมาดูหรือลองได้ที่ WERK Lifestyle สถานีราชดำริ และอารีย์
คาดไม่ถึงเลยใช่ไหมว่า BTS ก็มีพื้นที่ให้บริการด้านอื่นที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้บริการนอกจากระบบขนส่งมวลชน
การพัฒนาองค์กรด้วยการใส่ใจ มองเห็นถึงความต้องการของผู้ใช้บริการ ก็ถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์ในการบริหารองค์กรที่น่าสนใจและควรนำไปปรับใช้ตาม
ที่มา : BTS / soimilk