ความเป็นมนุษย์ ความปรารถนา และความไม่สบายใจ ในงานศิลปะของ จุนจิ อิโตะ
“Engaging Detailed Gory Memorable Unique Unsettling Nuanced”
กลุ่มคำด้านบนนี้น่าจะเป็นการอธิบายภาพจำของผลงานศิลปะจาก จุนจิ อิโตะ ได้เป็นอย่างดี ความน่าจดจำ ไม่เหมือนใคร สยองขวัญ เป็นการรวมกันที่ลงตัวอย่างไม่น่าเชื่อ
หากพูดถึงผลงานของ จุนจิ อิโตะ ที่ยอดเยี่ยม คงไม่พ้นการเยินยอสไตล์และเนื้อหาของเขาที่ฝากร่องรอยที่ลบไม่ออกบนใบหน้าของความสยองขวัญร่วมสมัยได้ อย่างไรก็ตาม มีองค์ประกอบหลายประการในการเล่าเรื่องของอิโตะ ที่ทำให้ผลงานมังงะของเขาเป็นงานที่ต้องพิจารณาอย่างใกล้ชิด อิโตะสนุกสนานกับเรื่องราวที่น่าขนลุกและไร้ที่มาที่ไปของเขา
“แต่งานของอิโตะคือแก่นแท้ความหมาย ของความเป็นมนุษย์”
ในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบเรื่องราวสยองขวัญเมื่อพูดถึง อิโตะ จะถูกแบ่งเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ฝั่งผู้ที่รักผลงานของเขา และ ฝั่งที่ยังไม่เข้าถึงผลงาน โดยในกลุ่มใหญ่นี้จะเจอข้อความจำพวก “ฉันไม่ได้สนใจในมังงะเท่าไหร่นัก แต่ฉันรักจุนจิ อิโตะ” ได้มากมาย เหตุผลนั้นง่ายมาก เพราะงานของเขามีความสามารถที่จะทะลวงเข้าถึงภายในตัวเรา และสัมผัสถึงส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์
วันนี้ Future Trends จะพาทุกคนไปตามหาองค์ประกอบของเรื่องราวที่ร้อยเรียงขึ้นมาเป็นผลงานศิลปะของจุนจิ อิโตะ ที่ประกอบไปด้วยความเป็นมนุษย์ ความปรารถนา และความไม่สบายใจ
[ 1.Humanity ความเป็นมนุษย์ ]
องค์ประกอบแรกที่ทำให้งานของอิโตะมีพลังมาก คือ ความหลงใหลในสิ่งที่ทำให้เราเป็นมนุษย์ หรือ ความเป็นมนุษย์นั้นเอง ถึงแม้เรื่องราวของเขาจะเต็มไปด้วยสัตว์ประหลาด สิ่งที่อธิบายไม่ได้ และในหลายกรณี สัตว์ประหลาดก็เกิดจากคนที่สูญเสียความเป็นมนุษย์ไป ยกตัวอย่าง อุซึมากิ หนึ่งในเรื่องราวที่โด่งดังของเขา ในภาษาญี่ปุ่น อุซึมากิ แปลว่าเกลียว
เป็นมังงะสยองขวัญแนวเซเนน (แปลว่ามันถูกสร้างขึ้นสำหรับชายหนุ่ม) บอกเล่าเรื่องราวของชาวเมือง ในเมืองเล็กๆ ที่ถูกสาปด้วยเกลียวคลื่น ในขณะที่คำสาปดำเนินไปและโลกของพวกเขากลายเป็นความสับสนวุ่นวาย มีตัวละครรองชื่อคาตะยามะที่กลายมาเป็นหอยทาก
มีความน่าสะพรึงกลัวมากมายจากการกลายเป็นอื่นของมนุษย์ในเรื่อง อุซึมากิ อิโตะ ใช้การเปลี่ยนแปลงที่กลายเป็นหอยทากเพื่อแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนแปลงและการสูญเสียความเป็นมนุษย์มีลักษณะเป็นอย่างไร?
คาตะยามะที่กลายมาเป็นหอยทากได้ถูกอันธพาลในเมืองบูลลี่ ผู้คนต่างบอกให้เขาหยุด แต่สิ่งที่แสดงออกมาคือคำตอบของเขาที่บอกอย่างเต็มปากว่า “ตอนนี้มันเป็นเพียงทาก ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไปแล้ว!”
ดังนั้น องค์ประกอบแรกที่อิโตะใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานคือ สิ่งที่ดูเหมือนไกลตัวแต่เข้าถึงจิตใจผู้อ่านได้ คือการเปลี่ยนเป็นสิ่งอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์อีกต่อไป เป็นการเล่นกับความรู้สึกของความเป็นมนุษย์ได้อย่างดีเยี่ยม หรือจะเป็นเรื่อง Gyo ที่เป็นเรื่องราวของมนุษย์กับสิ่งที่เหมือนกับปลา ก็เป็นการเล่นกับความรู้สึกของการกลายเป็นอื่น
สำหรับอิโตะ ความน่าสะพรึงกลัวล้วนเป็นสิ่งที่ส่งผลต่อตัวตนและสิ่งที่เราเป็น สิ่งที่เลวร้ายที่สุดในผลงานของเขา คือ ทำให้เห็นว่ามีสิ่งที่สามารถทำให้เราสูญเสียความเป็นมนุษย์ไปได้ ความรู้สึกนี้ปรากฏครั้งแล้วครั้งเล่า และมันคือความกลัวของมนุษย์ในการกลายเป็นอื่น
[ 2.Desire ความปรารถนา ]
องค์ประกอบที่สองอันเหนียวแน่นในงานของอิโตะคือพลังแห่งความปรารถนา ฟังดูแปลกโดยเฉพาะอย่างยิงในผลงานที่ประหลาดและนองเลือด แต่อิโตะรู้ดีว่าความปรารถนาในบางสิ่งมักจะเป็นแรงผลักดันที่ทรงพลัง ตัวอย่างที่สมบูรณ์แบบคือ โทมิเอะ หญิงสาวลึกลับที่มีความงามเหนือธรรมชาติ การปรากฏตัวของเธอ ทำให้ผู้ชายคลั่งไคล้ ด้วยการล่อลวงทางจิตใจ เธอทำให้ผู้ชายต้องก่อเหตุฆาตกรรมโดยที่เธอเองที่เป็นเหยื่อ
โทมิเอะเป็นศูนย์รวมของความปรารถนา ในการพยายามสุดขั้วเพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่เราโหยหา ถึงแม้ว่ามันจะเกินจริงไปสักหน่อย แต่มันสะท้อนให้เห็นถึงคำพูดที่ว่า “เราจะทำสิ่งเลวร้ายเพื่อให้ได้สิ่งที่เราต้องการ”
ความปรารถนาถูกใช้งานบ่อยพอๆ กับความสยองขวัญในผลงานอื่นๆ ของอิโตะ
“ความรักและความปรารถนา เป็นแรงผลักดันที่ส่งเราไปข้างหน้า บางครั้งเพื่อช่วยคนที่เรารัก และบางครั้งก็เป็นสิ่งที่พรากพวกเขาไป”
[ 3.Unease ความไม่สบายใจ ]
องค์ประกอบสุดท้ายของงานของอิโตะมีความเข้าใจเกี่ยวกับจิตใจมนุษย์อย่างมาก ผลงานของเขามอบความไม่สบายใจให้แก่ผู้รับได้เป็นอย่างดี และดูเหมือนว่าความไม่สบายใจที่ว่านี้จะเป็นของคู่กันกับผลงานสยองขวัญอย่างแท้จริง
ในองค์ประกอบนี้เราไม่จำเป็นที่จะต้องยกตัวอย่างมาให้เห็นภาพเลยด้วยซ้ำ เพราะทุกผลงานของอิโตะแทบจะตะโกนออกมาเป็นความไม่สบายใจอย่างเห็นได้ชัด ประกอบกับความเข้าใจในจุดนี้ของอิโตะที่ใช้เล่นงานผู้อ่านได้อย่างอยู่หมัด ทำให้เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่บ่งบอกตัวตนของผลงานได้อย่างดีเยี่ยม
อย่างไรก็ดีเรามากระตุ้นความไม่สบายใจด้วยการเล่าตัวอย่างของผลงานกันดีกว่า “The Enigma of Amigara Fault” เป็นฝันร้ายสำหรับคนที่เป็นโรคกลัวที่แคบ และทำให้พวกเราที่ผู้อ่านรู้สึกไม่สบายใจอย่างยิ่ง โดยเรื่องราวของมันจะเป็นการกล่าวถึง ‘รู’ ปริศนาที่ปรากฏขึ้น แต่ละรูเริ่มดึงดูดมนุษย์ที่มีรูปร่างใกล้เคียงให้เข้าไปอย่างไม่มีสาเหตุ
การันตีได้เลยว่าการอ่านเรื่องนี้ ทำให้หวาดกลัวรู้สึกไม่สบายใจอย่างต่อเนื่องแน่นอนถึงแม้มันจะเป็นเรื่องสั้น แต่พลังที่มันส่งออกมาจากเนื้อเรื่องและงานศิลปะ ทำเอาเสียวสันหลังและไม่สามารถรับมือได้เลย ทำให้เห็นเลยว่าความไม่สบายใจเป็นองค์ประกอบหนึ่งที่ทำให้งานของอิโตะ น่าจดจำและฝังลึกไปในจิตใจของเราอย่างมาก
[ ส่งท้ายเรื่องราว ]
จุนจิ อิโตะ เป็นศิลปินที่สามารถใช้ผลงานสร้างจุดที่โลกแห่งความฝันร้ายและความเป็นจริงอยู่ร่วมกันได้ องค์ประกอบที่กล่าวถึงไป 3 อย่างนั้นเพียงพอต่อการการันตีความดีงามของผลงานเขาได้เป็นอย่างดี หากคุณยังอยู่ฝั่งที่ไม่เคยเข้าถึงจักรวาลของอิโตะ คุณควรลองดูสักครั้ง แล้วจะค้นพบว่าโดดเด่นของเรื่องราวที่ฝังลึกในความทรงจำ แต่ขอเตือนในก่อนว่าการฝังลึกในที่นี้ ไม่ได้หมายถึงความรู้สึกที่ดีเท่าไหร่นักหรอก
เขียนโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
Source: https://tornightfire.com/humanity-desire-and-unease-in-the-work-of-junji-ito/