พาดูบทบาท ‘AI/Data Consultant’ ต่อธุรกิจยุค Digital Transformation ในวันที่ความท้าทายรายล้อม ธุรกิจไม่จำเป็นต้องเดินคนเดียว
‘ในศตวรรษที่ 21 นี้ ข้อมูลก็เปรียบเสมือนน้ำมัน’ – Peter Sondergaard รองประธานอาวุโส Gartner
แต่ไม่ใช่ทุกองค์กรที่จะใช้น้ำมันนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะในยุคที่เกินครึ่ง (64.4%) ของประชากรโลกสามารถท่องโลกอินเทอร์เน็ต และ (59.4%) เล่นโซเชียลมีเดียอย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์ม ลองนึกภาพดูว่าข้อมูลที่ได้มาจะมีปริมาณมหาศาลมากขนาดไหน
ย้อนกลับไปในช่วงปี 1998 Amazon ได้จดสิทธิบัตรระบบ ‘Amazon Collaborative Filtering System’ หรือระบบคัดกรองสิ่งที่ลูกค้าอาจสนใจ เป็นเจ้าแรกๆ ของโลก โดยรายงานการศึกษาจาก Gartner ระบุว่า 15-20% ของรายได้ผู้ที่นำสินค้ามาวางขายมาจากระบบตัวนี้เลยทีเดียว โดยจะเห็นได้ว่าปัจจุบันเราเห็นระบบนี้มีอยู่ตามแพลตฟอร์มที่เราใช้กันในชีวิตประจำวันมากมาย ที่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในหลายๆ ครั้งมันสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้จริงๆ
ต้องบอกว่านี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างการนำข้อมูล (Data) เข้ามาเสริมความแข็งแกร่งในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งบทบาทของการขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูล ยังคงเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบัน โดยข้อมูลจาก Statista ระบุว่า ในปี 2021 ที่ผ่านมา ตลาด Big Data Analytics ทั่วโลกมีมูลค่าสูงถึง 240,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ และคาดว่าจะสูงถึง 650,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2029
วันนี้ Future Trends จึงอยากชวนทุกคนมาเจาะลึกกันว่า ในวันนี้ที่ธุรกิจต้องก้าวสู่การเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data-Driven Organization) ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญของการขับเคลื่อนองค์กรเข้าสู่ยุดิจิทัล มันมีอุปสรรค และความท้าทายอย่างไรบ้าง และ ‘ใคร’ จะเป็นผู้ช่วยให้ธุรกิจผ่านพ้นมันไปได้ มาติดตามกันได้เลย!
โจทย์ความหิน ของ Digital Transformation ที่ไม่ใช่ทุกธุรกิจจะรับมือไหว
แม้การขับเคลื่อนธุรกิจด้วยข้อมูลจะไม่ใช่เรื่องใหม่ และธุรกิจมากมายต่างให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่การสำรวจจาก NewVantage Partners ทำให้เราพบข้อมูลที่น่าสนใจว่า ในปี 2022 มีเพียง 26.5% ของกลุ่มตัวอย่างบริษัทที่สามารถพัฒนาเป็นบริษัทที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลได้สำเร็จ และ 19.3% ขององค์กรธุรกิจกลุ่มตัวอย่างเท่านั้นที่มีกลยุทธ์การจัดการข้อมูลที่กําหนดไว้อย่างชัดเจน
โดยหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ธุรกิจยังไม่สามารถนำข้อมูลมาใช้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะข้อมูลสำคัญมัก ‘กระจุกตัวอยู่ที่เดียว’ (Functional Silos) ยกตัวอย่างเช่น ทีมการตลาดที่มีข้อมูลความชอบ และพฤติกรรมของกลุ่มลูกค้าอยู่ในมือ แต่ทีมเซลล์ที่ต้องนำสินค้าไปขาย ไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้ จึงไม่สามารถส่งเสริมการขายได้เต็มประสิทธิภาพ
เพราะโครงสร้างองค์กรส่วนใหญ่ในปัจจุบันยังเป็นแบบดั้งเดิมกันอยู่ คือแบ่งแผนกต่างๆ ออกตาม Function การทำงานอย่างชัดเจน และขาดการสื่อสารกัน โดยรายงานจาก Zendesk CX Trends 2023 พบว่ากว่า 78% ของผู้บริหารธุรกิจกล่าวว่าองค์กรของพวกเขายังไม่มีการแชร์ข้อมูลระหว่างทีมที่ดีพอ จนเกิดการติดขัดในการดำเนินธุรกิจ และผู้บริหารส่วนใหญ่มองว่าการรวมหน้าที่บางอย่างของทีมเข้าด้วยกัน โดยมีประสบการณ์ของลูกค้าเป็นศูนย์กลางจะช่วยยกระดับการดำเนินธุรกิจ และสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อลูกค้าให้มากขึ้นได้
บทบาทของที่ปรึกษาทางธุรกิจ จึงเป็นการเข้าไปช่วยสร้างระบบตัวกลาง (Collaboration Across Team) เพื่อให้ทุกภาคส่วนในองค์กรสามารถแชร์ข้อมูลสำคัญถึงกันได้ และวางรากฐานการปรับใช้ AI ที่ทำงานในแต่ละส่วนให้สามารถทำงานช่วยเหลือพนักงานได้จริง ซึ่งจะช่วยลดการทำงานที่ไม่จำเป็นลง เพิ่มความแม่นยำในการเข้าหาลูกค้า ไปจนถึงการเพิ่มรายได้ขององค์กร พร้อมลดค่าใช้จ่ายส่วนเกินลง
‘ปล่อยให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการ’ สรุป 6 โปรดักต์จาก ‘Data Wow’ ให้ธุรกิจโฟกัสที่การเติบโต โดยไม่ต้องห่วงเรื่องเทคโนโลยี
หากจะสรุปว่า สุดท้ายแล้วองค์ธุรกิจประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนองค์กรสู่ยุคดิจิทัลมากน้อยแค่ไหน รายงานจาก Mckinsey แสดงให้เราเห็นว่า มีเพียง 16% เท่านั้นที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จในการขับเคลื่อนองค์กร แม้แต่กลุ่มธุรกิจไฮเทค หรือโทรคมนาคม ที่ใกล้ชิดกับเทคโนโลยีก็พบว่ามีเพียง 26% เท่านั้นที่ประสบความสำเร็จ โดยรายงานอีกฉบับของ Mckinsey ได้สรุปสาเหตุสำคัญอยู่สามประการ คือ โครงสร้างพื้นฐานขององค์กรที่ไม่เอื้ออำนวย ตามมาด้วยพนักงานในองค์ไม่สามารถตามเทคโนโลยียุคใหม่ได้ทัน และสุดท้ายคือการพัฒนาโครงสร้างด้าน IT ยังไม่ต่อเนื่อง และแยกส่วนกันอยู่
ที่ปรึกษาทางธุรกิจ จึงไม่ใช่แค่คนแนะนำ หรือส่งข้อมูลให้ลูกค้าดำเนินการต่อเอง สำหรับที่ Data Wow ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการให้คำปรึกษา และขับเคลื่อนธุรกิจด้วย AI & Data Solution ได้มองว่า แม้ธุรกิจลูกค้าจะไม่มีความพร้อมสู่ยุคดิจิทัลเลยแม้แต่น้อย ที่ปรึกษาทางธุรกิจจะต้องสามารถพาธุรกิจลูกค้าเดินจากจุดนั้นขึ้นไปสู่เป้าหมายความสำเร็จในยุค Digital Transformation ได้จริง ผ่านคอร์เซอร์วิส ทั้ง 3 ตัว ที่ครอบคลุมด้าน AI และข้อมูล ดังนี้
1. Data / AI Consultation & Training: รับทราบถึงเป้าหมายการดำเนินธุรกิจของลูกค้า พร้อมแนะนำการต่อยอดข้อมูลที่มีในมือว่าจะใช้อย่างไรให้ธุรกิจเดินหน้าเติบโตไปสู่เป้าหมายได้ นอกจากนี้ยังมีคอร์สสอนเกี่ยวกับการใช้ AI ที่จะปรับเปลี่ยนหลักสูตรให้เหมาะกับแต่ละองค์กร เพื่อให้ธุรกิจสามารถนำไปใช้ได้จริง ตั้งแต่ระดับผู้บริหารไปจนถึงระดับทีมทำงานทุกคน
2. Custom AI Development: ทำความเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นในการดำเนินธุรกิจว่าทำไมยังไปไม่ถึงเป้าหมาย โดย Data Wow จะพัฒนาปรับแต่ง AI ให้สามารถเข้ามาแก้ไขจุดอ่อนขององค์กร พร้อมเสริมจุดแกร่งขึ้นไปได้
3. Data Analytics: สร้างระบบรวบรวม และวิเคราะห์ข้อมูล ก่อนจะจัดเก็บเป็นสถิติ เพื่อเปรียบเทียบ และทำนายถึงรูปแบบต่อไปที่อาจจะเกิดขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ระบบแนะนำสินค้าที่ลูกค้าอาจสนใจโดยใช้ข้อมูลสินค้าที่ลูกค้าเคยซื้อ หรือค้นหาบ่อยๆ
นอกจากเซอร์วิสหลักทั้ง 3 ตัว ที่ได้กล่าวไป ทาง Data Wow ยังมีเซอร์วิสอีก 3 ตัว ที่จะสนับสนุนการดำเนินธุรกิจในโลกยุคดิจิทัลให้มีประสิทธิภาพพร้อมตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น เช่น
1. Web & App Development: จะเห็นได้ว่าธุรกิจมากมายต่างมีเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันเป็นของตัวเองซึ่งสะดวกในการเก็บข้อมูลจากลูกค้า และสร้างประสบการณ์ที่ดีในการใช้งาน โดย Data Wow จะรับความต้องการของลูกค้า โดยเริ่มจาก 0 ก่อนจะนำมาออกแบบ พร้อมกับสร้างขึ้นมาเป็นเว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชัน
2. PDPA Suite & PDPA Core: ในช่วงที่ผ่านมาประเทศไทยได้ประกาศใช้ พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ขึ้น ธุรกิจไม่น้อยต่างต้องปรับตัวกัน โดย Data Wow จะมีโปรดักต์อยู่หลายตัวที่ช่วยปรับการดำเนินธุรกิจให้เข้ากับ PDPA ได้อย่างง่ายดาย และ Data Wow ยังมีทีมนักกฎหมายที่จะคอยให้คำปรึกษา ตรวจสอบรูปแบบการทำงานของธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมาย พร้อมมีคอร์สสัมมนา PDPA เพื่อให้ธุรกิจได้เข้าใจทุกจุดของข้อกฎหมายตัวนี้ได้อย่างครบถ้วน
3. Data Labeling: ด้วยความสามารถในการเรียนรู้ของ AI ทำให้มันสามารถเรียนรู้เพื่อทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขึ้นได้ แต่หากเราต้องการจะ ‘สอน’ มันให้ฉลาดขึ้น จะต้องใช้ ‘ข้อมูล’ จำนวนหนึ่งเพื่อให้ AI สามารถตรวจจับรูปแบบ และใช้เป็นตัวเปรียบเทียบในการทำงานครั้งต่อๆ ไปได้ โดยการทำ Data Labeling คือการสร้างชุดข้อมูลบางอย่างขึ้นมาเพื่อใช้ทำ AI Training โดยเฉพาะนั่นเอง ซึ่งทาง Data Wow มีทีม Workforce ที่ร่วมงานกับ Data Scientist โดยตรง จึงเชี่ยวชาญด้านการ Label ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า
เพิ่มโอกาส และความได้เปรียบให้เหนือคู่แข่ง สู่การพัฒนาธุรกิจให้เป็นที่หนึ่งในสนาม
ในวันที่โลกกำลังเดินหน้าสู่ความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การตัดสินใจที่ล่าช้า หรือความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจนสร้างความเสียหายแม้เพียงเล็กน้อย อาจทำให้ธุรกิจต้องเสียโอกาสไปอย่างไม่สามารถกู้คืนได้ การมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยจะเพิ่มโอกาสให้องค์กร Transform สู่ยุค Digital ได้ตามเป้าหมาย
สำหรับในวันนี้ Data Wow มีความพิเศษมามอบให้ด้วย นั่นคือหากธุรกิจสนใจรับการ Consultation จากทีมผู้เชี่ยวชาญด้านข้อมูล (Data Wow Data Expert) ไม่ว่าจะเป็นด้าน AI หรือ Data เป็นรายชั่วโมง โดยธุรกิจที่สมัครเข้ารับการปรึกษาตอนนี้ สามารถรับการปรึกษาฟรีได้ทันที 30 นาที ซึ่งจะครอบคลุมการให้คำปรึกษา ดังนี้
Data and AI Assessment: จัดทำ Assessment เพื่อวิเคราะห์ Data and AI Landscape ของลูกค้า
Opportunity Identification: ค้นหาศักยภาพของธุรกิจเพื่อทรานส์ฟอร์มธุรกิจด้วย Data และ AI
Solution Design: ออกแบบ Customized Solutions โดยมีการนำ Data และ AI เข้ามาเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจ
สามารถติดต่อรับการ Consultation ได้ที่ https://bit.ly/41yHfX3
หรือติดต่อ ติดต่อ 02-024-5560 / [email protected]
Sources:
https://bit.ly/3oO75cb
https://bit.ly/44b2ssX
https://bit.ly/3Vfc69U
https://bit.ly/3HADgT0
https://bit.ly/3n69Vso
https://bit.ly/3oQ0LRb
https://mck.co/3VcTuad
https://mck.co/3NyL8Iy