LOADING

Type to search

ทำงาน 4 วัน หยุด 3 วัน เมื่อโมเดล ‘4 Day Working Week’ ที่ใครๆ ก็ว่าดี อาจใช้ไม่ได้จริง

ทำงาน 4 วัน หยุด 3 วัน เมื่อโมเดล ‘4 Day Working Week’ ที่ใครๆ ก็ว่าดี อาจใช้ไม่ได้จริง
Share

‘Future Trends: Forward’ ซีรีส์บทความรับปีใหม่ มองไปข้างหน้าในปี 2023 ทั้งทางธุรกิจ เทคโนโลยี การทำงาน และเหตุการณ์รอบโลก เพื่อคาดการณ์เทรนด์สำคัญที่รออยู่ในอนาคต

ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของโควิด-19 ดูเหมือนช่วงที่ผ่านมา สังคมจะหันมาสนใจ ‘เทรนด์ 4 Day Working Week’ มากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นหลายบริษัทที่เพิ่มความยืดหยุ่น ทดลองลดจำนวนวันทำงานเหลือเพียง 4 วัน อีกทั้ง ยังมีกลุ่มคนบางส่วนออกมาแสดงความคิดเห็นว่า การทำเช่นนี้จะช่วยให้คนทำงานสุขภาพจิตดีขึ้นจริง เพิ่ม Productivity และตอบโจทย์นายจ้างเรื่องค่าแรงที่ลดลง

อย่างไรก็ตาม แม้จะเป็นที่พูดถึงกันหนาหูสักเท่าไร หรือสิ่งต่างๆ ทำให้เรารู้สึกว่า มันอาจจะกลายเป็นมาตรฐานการทำงานใหม่ของโลกในไม่ช้า แต่ลึกๆ แล้ว อาจไม่เกิดขึ้นจริงในเร็วๆ นี้

แล้วเรื่องมันเป็นอย่างไร เพราะอะไรถึงไม่น่าเกิดในอนาคตอันใกล้? บทความนี้ Future Trends จะพาไปดูกัน

ตัวแปร และขนาดเป็นเหตุ สังเกตได้

4-day-working-week 1

โอมาร์ อัล-ยูเบย์ดี (Omar Al-Ubaydii) ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยของบาห์เรนเซ็นเตอร์ (Bahrain Center) และจอห์น เอ ลิสต์ (John A. List) นักเศรษฐศาสตร์ และศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยชิคาโก (University of Chicago) พูดถึงประเด็นดังกล่าวในนิตยสาร The WIRED World in 2023 ว่า ต่อให้ปีนี้ ผลการศึกษาทางวิทยาศาสตร์หลายชิ้นบ่งชี้ว่า การทำงานเพียง 4 วัน หยุด 3 วัน นั้นเป็นไอเดียที่ดี และรัฐบาลบางประเทศก็เริ่มนำมาใช้แล้วก็ตาม แต่มันจะล้มเหลวเพราะผลการศึกษาทดลองที่ไม่ดี

เช่น การทดลองในห้องปฏิบัติการที่มีขอบเขตความซับซ้อนน้อยกว่าโลกความเป็นจริงหรือในทางปฏิบัติ และขนาดของกลุ่มตัวอย่างที่เล็กเกินไป ซึ่งล้วนแต่เป็นตัวแปรที่ส่งผลต่อผลลัพธ์ของการศึกษาไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และแน่นอนว่า อาจก่อให้เกิดความเข้าใจแบบผิดๆ กับผลกระทบเชิงลบได้

อนาคตเป็นจริงได้ ถ้าปรับปรุงให้เข้มข้น

4-day-working-week 2

นอกจากนี้ โอมาร์ และจอห์น ยังเล่าว่า การทดลองหยุด 3 วัน ที่นำมาใช้กับสภาเมืองเรคยาวิก (Reykjavik) ของไอซ์แลนด์ ได้ข้อสรุปว่า การทำงานสัปดาห์ละ 4 วัน ทำให้คนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการปรับวิธีการทำงานเล็กน้อย เช่น เปลี่ยนระบบการสั่งงานและติดตามผลเป็นระบบดิจิทัล แค่นั้นก็ทำให้ได้ Productivity สูงขึ้นด้วย

ตอนนี้พวกเขายังคงได้รับประโยชน์จากการทำงาน 4 วัน เพราะส่วนต่างๆ ที่เหลือของประเทศ ทั้งโรงเรียน ธนาคาร และโรงพยาบาล ยังคงเปิด 5 วันต่อสัปดาห์ แต่มันจะไม่เกิดขึ้นอีก หากมีการใช้นโยบายนี้กับทุกคนในประเทศ

ในทางกลับกัน หากมีการศึกษาที่เข้มข้นมากขึ้น นักวิชาการ และผู้กำหนดนโยบายคิดหามาตรการรับมือจากผลลัพธ์ที่อาจคลาดเคลื่อนดังกล่าวได้ดีก็จะทำให้ในปี 2023 นี้ เทรนด์ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์ จะถูกนำไปใช้ได้มีประสิทธิภาพกว่าเดิมอย่างแน่นอน

และทั้งหมดนี้ก็คือ ความเป็นไปได้ล่าสุดของเทรนด์ 4 Day Working Week ก็คงต้องรอดูกันว่า ต่อไป มันจะถูกยอมรับมากขึ้น และนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายหรือไม่? นั่นเอง

Source: นิตยสาร The WIRED World In 2023

Tags::
Chompoonut Suwannochin

อดีตเด็กฝึกงาน และ Content Creator ประจำเพจ Future Trends จบเอก Creative และการจัดการวัฒนธรรมจากรั้วเหลืองแดง ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ มี ‘Sarah Salola กับ Jixgo’ เป็นศิลปินคนโปรด เวลาว่างชอบชุบชูใจด้วยการกิน และการไปติ่ง

  • 1