ผลวิจัยจาก Harvard Business School เผย ฝนไม่ได้ทำให้เรา Productive น้อยลง แต่ช่วยเพิ่มต่างหาก!

‘แค่อยากจะรู้ว่าตรงที่เธอยืนนั้นมีฝนตกไหม สบายดีไหม เธอกลัวฟ้าร้องหรือเปล่า~’ เพลงเศร้าเคล้าอารมณ์อย่าง ‘ฝนตกไหม’ ของวง Three Man Down น่าจะเป็นหนึ่งในเพลงยอดฮิตที่คลื่นวิทยุต่างๆ เปิดให้ผู้ฟังอยู่บ่อยๆ ในช่วงนี้ 

อาจเป็นเพราะประเทศไทยเริ่มเข้าสู่ฤดูฝนมาได้สักระยะหนึ่งแล้ว แน่นอนว่าฤดูนี้คงไม่ได้เป็นที่ชื่นชอบของผู้คนสักเท่าไหร่ เพราะไม่ว่าใครก็คงไม่อยากเดินตัวเปียกเข้าออฟฟิศ 

ฟ้าครึ้ม อากาศชื้นแฉะ รองเท้าที่ชุ่มฉ่ำไปด้วยน้ำขัง ชุดทำงานที่เปียกมะล่อกมะแล่ก รวมไปถึงการจราจรที่ติดขัดมักเชิญชวนให้ผู้คนรู้สึกหม่นหมองไปกับบรรยากาศรอบตัว มองดูแล้วก็ไม่ได้มีอะไรน่าภิรมย์ บางคนอาจจะรู้สึกว่า ‘ทำไมต้องมาทำงานในวันฝนตกด้วยนะ’ ‘อากาศแบบนี้น่านอนอยู่ห้อง’ หรือ ‘เบื่อโว้ยยยยยย’  

แม้ว่าสภาพอากาศที่เลวร้ายจะนำทางเราไปยังอารมณ์ที่ติดลบกับทุกสิ่ง แต่รู้ไหมว่า ‘ฝน’ นี่แหละที่ช่วยให้การทำงานของเรามีประสิทธิภาพมากขึ้น ฟันธงได้ด้วยงานวิจัยจาก Harvard Business School ซึ่งอธิบายเอาไว้ว่า สภาพอากาศที่เลวร้ายไม่ได้ทำให้ Productive น้อยลง แต่กลับทำให้เรา Productive มากขึ้น เพราะความฟุ้งซ่านในหัวจะน้อยกว่าวันที่อากาศสดใส

ขยายความได้ว่าในวันที่อากาศดีหรือเป็นวันที่สดใส สมองของเรามักจะจินตนาการถึงบรรยาศด้านนอกของออฟฟิศ ร้านอาหารแสนอร่อย น้ำหวานแก้วโปรด เครื่องสำอางออกใหม่ เห้อ จะได้เลิกงานตอนไหนกันล่ะเนี่ย! 

และการที่เราโฟกัสสิ่งต่างๆ รอบตัวในวันที่อากาศดีมากขึ้นไปนี่แหละ จะทำให้เราฟุ้งซ่านและทำงานพลาดได้ง่าย เพราะจิตใจมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แต่ไปอยู่ตรงประตูทางออกของออฟฟิศนั่นเอง

ในขณะเดียวกัน วันฝนตกที่หลายๆ คนคิดว่าเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิต กลับมีประโยชน์ต่อเราในแง่ของการสร้างเสริมประสิทธิภาพในการทำงานนะ 

นั่นเป็นเพราะว่าสภาพอากาศที่เลวร้ายจะทำให้เรารู้สึกไม่อยากเดินออกไปข้างนอก ขอนั่งคุ้ดคู้ในออฟฟิศอุ่นๆ จะดีกว่า ซึ่งนี่จะเป็นสิ่งที่ช่วยให้เราโฟกัสกับงานตรงหน้าได้ดี และเมื่อมีสมาธิ เราก็จะสามารถทำงานได้เร็วยิ่งขึ้น

ในวันนี้ Future Trends ขอแนะนำ 3 วิธี ที่จะช่วยกระตุ้นการสร้างพฤติกรรมที่ทำให้เกิดการทำงานแบบ productive ให้เอง

1. จัดระเบียบโต๊ะทำงาน 

ไม่ว่าจะ WFH หรือไปทำงานแบบ Onsite ก็ตาม การจัดโต๊ะก็จะช่วยให้เรา productive มากขึ้น เพราะการจัดเรียงสิ่งของต่างๆ ต้องใช้เวลาและสมาธิ แน่นอนว่ามันสามารถฝึกสมาธิให้เราได้อย่างดี อีกทั้งยังสามารถนำไปปรับใช้กับการทำงานได้ เพราะการจัดโต๊ะก็เหมือนการจัดระเบียบงาน หากเราสามารถจัดเรียงงานได้อย่างมีระบบแล้ว ประสิทธิภาพในการทำงานก็จะเพิ่มขึ้นด้วย

2. ทบทวนตัวเองในวันก่อนและวางแผนการทำงานในวันนี้

การทบทวนตัวเองจะช่วยรีเช็กในความสามารถรวมไปถึงจำนวนงานที่คงเหลือของเราได้ ทั้งยังช่วยทำให้เรามีสมาธิมากขึ้น เพราะได้โฟกัสในสิ่งที่ทำไปแล้ว และต้องวางแผนในการจัดการงานที่คงเหลืออยู่ทำ ในการกระทำทั้ง 2 ข้อนี้จะช่วยให้ชิ้นงานของเรามีการพัฒนาและมีคุณภาพอยู่เสมอ

3. ทำงานให้เสร็จอย่างน้อย 1 ชิ้น

หากวางแผนแต่ไม่ลงมือทำก็คงไม่ได้ประโยชน์อะไร เพราะฉะนั้น มากระตุ้นความ productive ในตัวเราด้วยการทำงานให้เสร็จอย่างน้อย 1 ชิ้น กันเถอะ

อย่างไรก็ตาม ถึงจะบอกว่า ‘ฝน’ ทำให้เรา productive เพิ่มขึ้นกว่าวันที่อากาศสดใส แต่สำหรับด้านอารมณ์ การที่เราต้องอยู่กับบรรยากาศอึมครึมและแทบไม่ได้พบแสงแดดทั้งวันนั้นคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ ลองออกกำลังกายแบบเบาๆ เพื่อปรับอารมณ์และเพิ่มการหลั่งของฮอร์โมนเอ็นโดรฟิน ซึ้งจะทำให้เรามีความกระตือรือร้นมากขึ้น

แต่สำหรับใครที่รู้สึกว่าสุขภาพทางใจนั้นมีความผิดปกติเป็นระยะเวลาหนึ่ง เราอาจจะกำลังประสบปัญหาเกี่ยวกับภาวะซึมเศร้าจากการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล (SAD: Seasonal Affective Disorder) ก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นในช่วงฤดูฝนนี้อย่าลืมที่จะเช็กสุขภาพกายและสุขภาพใจกันอย่างสม่ำเสมอด้วยนะ 

Sources: https://hbswk.hbs.edu/item/blue-skies-distractions-arise-how-weather-affects-productivity