‘กระดาษ ดินสอ ยางลบ กบเหลา’ เมื่อการวาดภาพสามารถเล่าอารมณ์และความรู้สึกได้ดีไม่แพ้การเล่าให้คนอื่นฟัง
Julia Balchin อาจารย์จาก Royal Drawing School London ได้กล่าวไว้ว่า “ตอนที่เรายังเป็นเด็ก เราสามารถวาดภาพได้ก่อนการพูดคุย เดิน หรืออ่านได้เสียอีก ดังนั้น การวาดภาพจึงเป็นวิธีแรกในการแสดงออก”
‘การวาดภาพ’ เป็นหนึ่งในรูปแบบของศิลปะที่เก่าแก่ที่สุดและเป็นจุดเริ่มต้นของศิลปะในตัวของเราทุกคน
เป็นที่รู้กันว่าศิลปะนั้นคือสิ่งสวยงามที่จรรโลงจิตใจมนุษย์ แต่นอกจากความจรรโลงใจแล้ว ศิลปะยังเป็นสิ่งที่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ ความคิด และความรู้สึกของผู้สร้างสรรค์ได้เช่นเดียวกัน
ศิลปะถือกำเนิดขึ้นตั้งแต่ 2.6 ล้านปีก่อน โดยเริ่มจากการใช้หิน กระดูก เปลือกหอย ขีดเขียนผนังถ้ำเพื่อทำสัญลักษณ์ที่ใช้สื่อสารกับคนในชนเผ่า และบางครั้งก็ใช้ในแง่ของการบันทึกประวัติศาสตร์ภาพรูปภาพนั้น
ในแง่ของความหมาย ศิลปะมีคำจำกัดความที่หลากหลายและแตกต่างกันออกไป อย่างเช่น ‘ศิลปะ หมายถึง ผลแห่งพลังความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ที่แสดงออกมาในรูปลักษณ์ต่างๆ’ หรือจะเป็น ‘ศิลปะ คือ งานอันเป็นความพากเพียรของมนุษย์ ที่ต้องใช้ความพยายามด้วยมือและความคิดของศิลปิน’ อย่างไรก็ตาม การจำกัดความหมายของคำว่าศิลปะนั้นไม่มีผิดหรือถูกและไม่มีที่สิ้นสุด โดยเราอาจถือได้ว่าศิลปะคืองานอันเกิดจากพลังความคิดสร้างสรรค์ของมนุษย์ก็ย่อมได้
การวาดภาพนั้นได้รับความนิยมแบบผันผวนมาโดยเสมอ ก่อนจะลดลงอย่างเห็นได้ชัดในปีค.ศ. 1970 โดยมีความเห็นจากสังคมว่าการวาดภาพนั้นไม่ทันสมัย แต่เมื่อไม่นานมานี้ การวาดภาพก็พลิกกลับมาได้รับความนิยมอีกครั้งในระหว่างรวมไปถึงหลังการแพร่ระบาดของโรค Covid-19
ซึ่งการกลับมาในครั้งนี้ การวาดภาพได้รับการยอมรับว่าเป็นสิ่งที่สามารถทำให้ผู้คนรู้สึกได้ถึงความลื่นไหลของการสัมพันธ์กันระหว่างทักษะการสัมผัสกับความคิด รวมไปถึงทำให้เราได้ผ่อนคลายจากความเครียดในการใช้เทคโนโลยี และยังส่งผลดีต่อสุขภาพจิตอีกด้วย
ศิลปินหลายๆ คนเห็นพ้องกันว่าการวาดภาพสามารถยึดเหนี่ยวจิตใจ ช่วยลดความวิตกกังวลลงและทำให้รู้สึกถึงความเป็นจริงได้มากขึ้น ทั้งยังมีประโยชน์ในการรักษาบุคคลที่มีความทุกข์ทางจิตใจ มันช่วยให้พวกเขาสามารถแสดงความรู้สึกและบรรเทาอารมณ์ได้คล้ายกับการบำบัดแบบอื่นๆ เช่น โยคะหรือการทำสมาธิ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยเพิ่มอารมณ์และช่วยให้เราหลีกหนีจากความกังวลในชีวิตประจำวันได้เช่นกัน
Emily Haworth-Booth เจ้าของผลงาน ต้นไม้ต้นสุดท้าย (The Last Tree) ได้เปิดเผยว่าระหว่างที่เธอมีอาการปวดกล้ามเนื้อเหตุสมองและไขสันหลังอักเสบ (Myalgic Encephalomyelitis: ME) นั้น การวาดภาพเป็นสิ่งที่ช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจเธอเอาไว้ได้ มันช่วยสร้างความมั่นใจ และลดความวิตกกังวลให้กับเธอได้ดีเลยทีเดียว
Gilman และ Roger Malbert ภัณฑารักษ์และนักเขียนเกี่ยวกับศิลปะร่วมสมัยได้จับมือกันผลิต ‘Drawing in the Present’ Tense หนังสือที่รวบรวมผลงานศิลปะของศิลปินกว่า 74 คน โดยคัดเลือกผลงานภายใต้คอนเสปต์ที่ว่า ‘บทบาทของภาพวาดอันเป็นวิธีการจัดการกับบาดแผลและความวุ่นวายทางสังคม’
โดย Malbert ได้อธิบายจุดประสงค์ของการวาดภาพไว้ว่า ‘มันสอนให้คุณมองโลกในอีกมุมที่ต่างไปจากเดิม และเมื่อเข้าถึงมัน คุณจะด่ำดิ่งสู่จิตสำนึกของตัวเอง’ นอกจากนี้ Gilman ก็เชื่อว่าการวาดภาพยังช่วยให้ผู้คนลดการใช้เทคโนโลยีไม่ว่าจะเป็นการใช้เพื่อการศึกษา หรือความบันเทิงก็ตาม
จะเห็นได้ว่ามีทั้งศิลปิน รวมไปถึงภัณฑารักษ์และนักเขียนมองเห็นประโยชน์จากการวาดภาพ ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของการบำบัดสุขภาพจิต หรือจะเป็นการนำมาปรับใช้เพื่อลดการใช้เทคโนโลยีในช่วงของการแพร่ระบาดก็ตาม
ซึ่งเป็นที่ยืนยันได้ว่าการวาดภาพนั้นเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการบำบัดจิตใจ ค้นหาตัวเอง รวมไปถึงเชื่อมโลกของความคิดกับการแสดงความรู้สึกได้เป็นอย่างดี
เพราะฉะนั้น เมื่อเรามีปัญหาหรือเกิดความไม่สบายใจในสิ่งใด อย่าลืมที่จะหยิบ ‘กระดาษ ดินสอ ยางลบ กบเหลา’ ออกมาและบอกเล่าอารมณ์และความรู้สึกนั้นผ่านการวาดภาพล่ะ เพราะมันมีประสิทธิภาพจริงๆ !
เขียนโดย ชนัญชิดา พลอยพลาย
Source: https://www.bbc.com/culture/article/20230630-how-drawing-can-make-you-happier-and-calmer