ทำงานจนหัวหมุน vs. ทำงานแบบมีประสิทธิภาพ แตกต่างกันตรงไหน?
ในหนึ่งวันเราเคยนึกบ้างไหม? ว่าเรามีวิธีจัดระบบในการทำงานได้อย่างไร งานในแต่ละวันมีมากแค่ไหน และเราสามารถจะโฟกัสกับงานได้ทุกงานได้หรือไม่
การทำงานในองค์กรแต่ละองค์กรนั้น ไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือใหญ่ ย่อมต้องพบเจอกับเพื่อนร่วมงานที่แตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่เราสังเกตเห็นได้ชัดเลยจากเพื่อนร่วมงานของเราก็คือ คนที่ทำงานแล้วได้งาน กับคนที่ดูยุ่งอยู่งานตลอดเวลา แต่งานที่ได้รับมอบหมายกลับไม่เสร็จสักอย่าง
อะไรคือความแตกต่างระหว่างคนที่ทำงานยุ่งตลอดเวลากับคนที่ทำงานออกมาแล้วมีคุณภาพ?
# เป้าหมายที่หลากหลาย กับ เป้าหมายที่ชัดเจน
คนที่ทำงานยุ่งตลอดเวลา มักมีความสงสัยเกี่ยวกับเป้าหมายปลายทางในชีวิต ด้วยการแสดงออกซึ่งความมั่นใจในก้าวเล็กๆ ของตนเอง ส่วนคนทำงานมีประสิทธิภาพ จะเปิดใจยอมรับให้คนอื่นเห็นความสงสัยในแต่ละก้าวของตนเอง เพราะมีเป้าหมาย ปลายทางที่ชัดเจนอยู่แล้ว
# ให้ความสำคัญกับทุกอย่าง กับ จัดลำดับความสำคัญ
คนที่ยุ่งจนเกินไปนั้นจะให้ความสำคัญกับทุกอย่าง โดยไม่มีการจัดลำดับความสำคัญ ซึ่งกฎของพาเรโตบอกไว้ว่า ‘สิ่งที่สำคัญจะมีอยู่เป็นจำนวนน้อยกว่าสิ่งที่ไม่สำคัญ’ เท่ากับ การทำน้อยแต่ได้มา ซึ่งมันเป็นการหาจุดสำคัญที่จะทำให้เราได้ผลลัพธ์เพิ่มขึ้นหรือดีขึ้นนั่นเอง
# ลงมือทำอย่างรวดเร็ว กับ ทำความเข้าใจก่อนลงมือ
การเป็นคนที่ทำงานยุ่งอยู่ตลอดเวลามีแนวโน้มที่จะพลาดดได้ง่ายมาก เนื่องจากเมื่อทำงานหลายๆ อย่างก็อาจทำให้เสียสมาธิ พลาดส่วนสำคัญบางส่วนได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกันผู้ที่ทำงานเก่งจะค่อนข้างมีความละเอียดถี่ถ้วนมาก ล้วนทำความเข้าใจในขั้นตอนก่อนลงมือทำเสมอ แม้ว่าจะทำงานได้น้อยกว่าแต่ก็มีประสิทธิภาพมากกว่า
# เปิดรับทุกอย่าง กับ เปิดรับบางอย่าง
การเปิดโอกาสให้กับทุกสิ่ง ทั้งการเดินทาง เรียนภาษา ทำงานด้านเทคโนโลยี เป็นสิงที่ดี แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่เราต้องโฟกัสในบางอย่างก็ต้องทำเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นเป็นไปตามเป้าหมาย เช่น หากเป้าหมายในปีนี้คือการ เรียนภาษาสเปน ถ้าให้ความสนใจในเรื่องนี้เพียงอย่างเดียว สิ้นปีเราพูดภาษาสเปนได้อย่างแน่นอน แต่หากเป้าหมายคือ เรียนภาษาสเปน หาเงินให้ได้มากขึ้น 30% เที่ยวต่างประเทศ ไปคอนเสิร์ต หรือหาคู่ชีวิต แน่นอนว่าเมื่อถึงปลายปี ไม่มีทางที่จะพูดภาษาสเปนได้
# อยากให้คนอื่นยุ่ง กับ อยากให้คนอื่นมีประสิทธิภาพ
คนที่ทำงานยุ่ง อยากให้คนอื่นทำงานให้ยุ่งๆ เหมือนกับตนเอง ในขณะที่คนทำงานมีประสิทธิภาพ อยากให้คนอื่นทำงานให้มีประสิทธิภาพ เช่น หัวหน้าที่ยุ่งอยู่กับการทำงานตลอดเวลา มักหัวเสียเมื่อลูกน้องมีเวลาว่าง จึงพยายามให้งานเยอะขึ้น หรือให้มีการแก้งานอยู่บ่อยๆ
# ถามถึงความเปลี่ยนแปลง กับ สร้างความเปลี่ยนแปลง
การพูดแต่ไม่ลงมือทำนั้น ไม่ได้ทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในเรื่องไหนเลย การจะสร้างสิ่งใหม่ๆ เพื่อการเปลี่ยนแปลงในแต่ละเรื่องนั้น ต้องเริ่มลงมือทำ ถึงแม้จะสำเร็จ หรือผิดพลาด ล้วนแล้วแต่เป็นการเปลี่ยนแปลงทั้งนั้น อย่าให้อะไรมาปิดโอกาสของตนเอง
# ตอบรับทุกคำขอ กับ รู้จักปฏิเสธ
ไม่จำเป็นที่จะต้องตอบรับกับทุกคำขอ ลองใช้เวลาไตร่ตรองว่าคำขอนั้นมันเร่งด่วนและจำเป็นหรือไม่ ถ้าหากว่าไม่ การรู้จักปฏิเสธไม่ใช่เรื่องที่ผิด การรู้จักให้เป็นเรื่องที่ดี แต่การรู้จักปฏิเสธอย่างเหมาะสมก็เป็นเรื่องจําเป็นสําหรับชีวิตเช่นเดียวกัน
ในสภาพแวดล้อมของการทำงาน ถ้าหากอยากเป็นคนที่ประสบความสำเร็จ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ “การตัดสินใจของตัวคุณเอง” ลองถามตัวเองว่า อยากเป็นคนแบบไหนระหว่างคนที่ยุ่งอยู่กับงานตลอดเวลากับคนที่ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ
Source : Lifehack.org / Wealthmeup.com