Type to search

ทำไม ‘ธุรกิจอาหารสัตว์’ ของไทยถึงสร้างรายได้มากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์?

November 24, 2022 By Witchayaporn Wongsa
pet-food-trends

ในปี 2022 ธุรกิจอาหารสัตว์ของไทยสามารถสร้างรายได้กว่า 1.27 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 4.5 หมื่นล้านบาท และที่สำคัญ ยังมีการคาดการณ์จาก Statista ด้วยว่า ตลาดอาหารสัตว์จะเติบโตถึงปีละ 11.17 เปอร์เซ็นต์ ถือเป็นอัตราการเติบโตที่สูงมากเมื่อเทียบกลุ่มธุรกิจอื่น

สิ่งที่ทำให้ธุรกิจอาหารสัตว์ของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่องคืออะไร? และเทรนด์ที่น่าจับตามองของธุรกิจอาหารสัตว์มีอะไรบ้าง? Future Trends จะพาทุกคนไปหาคำตอบพร้อมๆ กัน

ปัจจัยที่ทำให้ธุรกิจอาหารสัตว์ของไทยเติบโต

จริงๆ แล้ว ความสำเร็จและการเติบโตของธุรกิจอาหารสัตว์มีปัจจัยรายล้อมอยู่มากมาย แต่วันนี้เราจะมาพูดถึง 3 ปัจจัยหลัก ที่เป็นส่วนสำคัญในการผลักดันให้ธุรกิจอาหารสัตว์เติบโตอย่างต่อเนื่อง ได้แก่

Pet Humanization
Image by gpointstudio on Freepik

1. แนวคิดการเลี้ยงสัตว์ที่ต่างจากในอดีต

ช่วงต้นปี 2022 ที่ผ่านมา หลายๆ คนคงได้ยินคำว่า ‘Pet Humanization’ กันอยู่บ้าง ซึ่งคำนี้สะท้อนถึงแนวคิดการเลี้ยงสัตว์ที่เปลี่ยนไปได้เป็นอย่างดี เพราะในปัจจุบัน ความสัมพันธ์ระหว่าง ‘คน’ กับ ‘สัตว์เลี้ยง’ ไม่ได้อยู่ในสถานะ ‘เจ้าของ’ กับ ‘สิ่งมีชีวิตเฝ้าบ้าน’ อีกต่อไป แต่อยู่ในสถานะ ‘สมาชิกของครอบครัว’ ที่คอยมอบความรักและความอบอุ่นให้แก่กัน

การที่สัตว์เลี้ยงมีบทบาทเป็นหนึ่งในสมาชิกของครอบครัว ทำให้เจ้าของเกิดความรักและความผูกพัน รวมถึงใส่ใจความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นด้านอาหาร การรักษาโรค หรือแม้แต่ความปลอดภัยทางร่างกายและจิตใจก็ตาม ต่างจากในอดีตที่เจ้าของบางคนจะเลี้ยงสัตว์แบบ ‘ตามมีตามเกิด’ เพราะไม่ได้มีความผูกพันต่อกัน

2. วิถีชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนไป

ต้องยอมรับว่า การใช้ชีวิตอยู่กับโควิด-19 มาเป็นเวลานาน ทำให้วิถีชีวิตต่างจากเดิมอย่างชัดเจน หลายๆ คนเริ่มรู้สึกเบื่อที่ต้องอยู่บ้านนานๆ จึงตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เป็นเพื่อนคลายเหงา และที่สำคัญ สัตว์เลี้ยงยังสามารถสื่อสารและแสดงอารมณ์ได้ไม่ต่างจากคน ทำให้การส่งผ่านความรู้สึกถึงกันและกันเกิดขึ้นได้ง่าย และกลายเป็นความผูกพันที่แยกจากกันไม่ขาด

นอกจากนี้ กระแสของ ‘DINKs’ (Double Income No Kids) หรือคู่แต่งงานยุคใหม่ที่ตัดสินใจไม่มีลูกเริ่มมีอิทธิพลต่อคนรุ่นใหม่มากขึ้น เพราะพวกเขามองว่า การเลี้ยงเด็ก 1 คน ให้เติบโตอย่างมีคุณภาพต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อสร้างต้นทุนชีวิตที่ดี ทำให้คู่รักยุคใหม่เลือกที่จะชะลอแผนการมีลูก และตัดสินใจเลี้ยงสัตว์เสมือนลูกคนหนึ่งแทน

3. ความแข็งแกร่งของฐานการผลิตในไทย

สิ่งแรกที่หลายคนน่าจะนึกถึงเมื่อพูดถึงไทย คงหนีไม่พ้นการเป็น ‘อู่ข้าวอู่น้ำ’ เพราะนอกจากไทยจะเป็นประเทศเกษตรกรรมที่มีการส่งออก ‘ข้าว’ เป็นสินค้าหลัก ยังมีการส่งออกอาหารแปรรูปที่สร้างเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศมูลค่าหลายล้านบาทอีกด้วย

ด้วยองค์ความรู้และความชำนาญในการผลิตอาหารแปรรูปที่มีอยู่ ประกอบกับโอกาสทางธุรกิจที่เข้ามา ทำให้เกิดการต่อยอดจนกลายเป็นธุรกิจในน่านน้ำใหม่อย่าง ‘การผลิตและส่งออกอาหารสัตว์’ ที่สร้างรายได้ไม่แพ้สินค้าประเภทอื่น

ยิ่งไปกว่านั้น การที่ในไทยมีโรงงานผลิตอาหารสัตว์ภายใต้การบริหารงานของผู้เล่นแต่ละรายมากกว่า 80 แห่ง รวมถึงสร้างมูลค่าการส่งออกมากกว่า 6 หมื่นล้านบาท ยิ่งสะท้อนถึงการเติบโตของกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์ และขีดความสามารถในการแข่งขันที่ไม่ได้จำกัดแค่ในประเทศเท่านั้น

3 เทรนด์ธุรกิจอาหารสัตว์น่าจับตามองในปี 2023

Pet Food
Image by Freepik

เมื่อธุรกิจอาหารสัตว์เป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาชิมลางในตลาด และขอแบ่งชิ้นเค้กจากผู้เล่นรายเดิมด้วยการพัฒนาสินค้าเกี่ยวกับอาหารสัตว์ในรูปแบบใหม่ จนกลายเป็นเทรนด์ที่มีโอกาสเข้ามาดิสรัปต์ตลาดอาหารสัตว์แบบดั้งเดิม

แล้วเทรนด์ธุรกิจอาหารสัตว์น่าจับตามองในปี 2023 มีอะไรบ้าง?

1. อาหารสัตว์แบบ ‘ไฟน์ ไดนิง’ (Fine Dining)

ไฟน์ ไดนิง คือรูปแบบการรับประทานอาหารที่เชฟจะปรุงอาหารแต่ละจานอย่างประณีต โดยที่แต่ละเมนูจะผ่านการคิดมาอย่างดี จนทำให้เกิดความรู้สึก ‘พรีเมียม’ เวลาที่รับประทาน ซึ่งในปัจจุบัน ไฟน์ ไดนิงสำหรับสัตว์เลี้ยงเป็นที่นิยมในต่างประเทศมาก และกำลังเป็นที่พูดถึงในไทยเช่นกัน ถึงแม้กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจแบบไฟน์ ไดนิง จะไม่ได้มีจำนวนมาก แต่ก็เป็นเทรนด์ที่น่าสนใจมากทีเดียว

2. อาหารสัตว์แบบออร์แกนิก (Organic)

ผลสำรวจจากงานวิจัยที่เผยแพร่บน The Canadian Veterinary Journal ระบุว่า คนกว่า 43.6 เปอร์เซ็นต์ กังวลเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของสัตว์เลี้ยงที่เกิดจากอาหารไม่มีคุณภาพ ทำให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงมองหาอาหารสัตว์ที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น อาหารปริมาณโซเดียมต่ำ หรืออาหารที่ผลิตจากวัตถุดิบออร์แกนิก

3. อาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยง

การที่สัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่งย่อมหนีไม่พ้นจากปัญหาสุขภาพ ยิ่งเจ้าของเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงของตัวเองเป็นสมาชิกในครอบครัว ก็ยิ่งใส่ใจสุขภาพของสัตว์เลี้ยงมากขึ้น เพื่อหวังให้สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ มีชีวิตยืนยาว และอยู่ด้วยกันไปนานแสนนาน ทำให้ธุรกิจอาหารเสริมสำหรับสัตว์เลี้ยงได้รับอานิสงส์ไปเต็มๆ และมีโอกาสสร้างรายได้มากถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2027 เลยทีเดียว

การที่มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เกิดขึ้นในธุรกิจอาหารสัตว์ ถือเป็นการสร้างทางเลือกให้คนรักสัตว์ได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นการแข่งขันอันดุเดือดระหว่างผู้เล่นในตลาดอาหารสัตว์อีกด้วย

Sources: http://bit.ly/3EA6ccp

http://bit.ly/3hBz1fC

http://bit.ly/3hLtxPD

http://bit.ly/3Alxktc

http://bit.ly/3UGxELr

Trending

Witchayaporn Wongsa

Witchayaporn Wongsa

อดีตนิสิตวิทยาศาสตร์ที่จับผลัดจับผลูมาเป็น Content Creator เพราะค้นหาตัวเองจนเจอสิ่งที่ใช่จากการทำกิจกรรม สนใจโลกธุรกิจและสารพันสิ่งเกี่ยวกับ 'เกาหลี' เชื่อในพลังแห่งการอ่าน (แต่หนังสือที่อ่านค้างมีมากกว่าหนังสือที่อ่านจบ)