เมื่อการเรียนรู้ไม่อาจหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม Microsoft Surface จับมือ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย สร้างประสบการณ์การเรียนรู้ของโลกยุคใหม่
เรากำลังอยู่ในยุคที่โลกเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่สังคม การทำงาน ไปจนถึงการเรียนรู้ Microsoft องค์กรเทคโนโลยีชั้นนำของโลก คือองค์กรหนึ่งที่ใส่ใจอย่างยิ่งกับความเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ และได้ออกแบบสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อรับมือกับโลกที่เปลี่ยนไป
ทั้งด้วยซอฟแวร์สำหรับการทำงาน และการเรียนรู้ผ่านออนไลน์ ที่ทำให้ที่ทำงานและห้องเรียนสามารถเกิดขึ้นจากที่ไหนก็ได้ในทุกมุมโลก และฮาร์ดแวร์อย่าง Microsoft Surface คอมพิวเตอร์แท็ปเล็ตที่ช่วยให้การทำงาน และการเรียนรู้บนโลกออนไลน์ ง่ายและสะดวกสบายกว่าที่เคย
ในครั้งนี้ Microsoft Surface ก็ได้จับมือกับมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) เพื่อใช้เครื่องมือจาก Microsoft ในการสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ของโลกยุคใหม่ที่ไม่อาจหยุดนิ่งให้กับผู้เรียน
หากจะสะท้อนภาพมุมมองการเรียนรู้ในโลกยุคใหม่ที่เปลี่ยนไปของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คงไม่มีสถานที่ไหน หรือภาพใดสะท้อนเรื่องราวนี้ได้ไปกว่าสำนักหอสมุดของมหาวิทยาลัยหอการค้าอีกแล้ว
ในขณะที่เรามีภาพจำต่อหอสมุดที่เต็มไปด้วยหนังสือ ตำรา วิทยานิพนธ์ แต่หอสมุดของมหาวิทยาลัยหอการค้าฯ ในปัจจุบันเต็มไปด้วยอุปกรณ์ที่เราไม่คุ้นเคย และไม่คิดว่าจะได้เห็นในหอสมุดมหาวิทยาลัย เช่นเครื่อง VR กล้อง GoPro และเครื่องมือสำหรับการทำ Digital Content และเรียนรู้ Digital Product อีกมากมาย
นอกจากเครื่องมืออุปกรณ์ที่หอสมุดมีพร้อมไว้สำหรับการเรียนรู้แล้ว อีกสิ่งที่โดดเด่นสำหรับหอสมุดหอการค้าไทย คือฐานข้อมูลออนไลน์ชื่อดังจากทั่วโลกมากกว่า 20 ฐานที่มีนักศึกษาเข้าใช้ต่อปีไม่ต่ำกว่า 1 ล้านครั้ง
เราได้มีโอกาสพูดคุยถึงโลกการเรียนรู้ในมหาวิทยาลัยที่เปลี่ยนไป ตั้งแต่ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตามกาลเวลา ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากเทคโนโลยี ไปจนถึงความเปลี่ยนแปลงอันเกิดจากสถานการณ์ COVID-19 สู่การสร้างประสบการณ์การเรียนรู้ของโลกยุคใหม่ กับ ดร.จอมขวัญ ผลภาษี ผู้อำนวยการสำนักหอสมุดกลาง และอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ดร.จอมขวัญเล่าว่าในวันนี้การเรียนรู้ไม่สามารถหยุดนิ่งเหมือนแต่ก่อนได้อีกต่อไป เราไม่อาจเก็บความรู้ไว้ในแค่หนังสือหรือชีทเรียน แต่โลกได้เปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลที่ทุกคนสามารถสร้างคอนเทนต์ และเรียนรู้จากคอนเทนต์ใหม่ ๆ ได้อยู่ตลอดเวลา ในวันนี้หอสมุดหอการค้าไทยจึงให้ความสำคัญกับองค์ความรู้ที่มากกว่าหนังสือ แต่เป็นการเปิดโอกาสให้นักศึกษาได้เรียนรู้จากคอนเทนต์ และลองสร้างคอนเทนต์ของตัวเอง
จากการประเมินผลการศึกษาทำให้ทางมหาวิทยาลัยฯได้รับรู้ว่า สำนักหอสมุดคืออาคารที่นักศึกษาได้เข้ามาใช้บริการมากที่สุดในมหาวิทยาลัย แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นคือในขณะที่มีนักศึกษาจำนวนมากเข้ามาใช้บริการหอสมุดที่อาคารแล้ว มีนักศึกษาจำนวนมากกว่าเข้ามาใช้บริการหอสมุดผ่านช่องทางออนไลน์ จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งที่หอสมุดจะต้องจัดการโครงสร้างพื้นฐานในการให้บริการเชิงดิจิทัลให้ได้ ไม่ใช่แค่มีหน้าเว็บ แต่จะต้องมีบริการของหอสมุดอยู่บนออนไลน์ เช่นการดาวน์โหลดงานวิจัยแบบ Full-Text โดยไม่ต้องมาถึงหอสมุด หรืออ่านการประเมินหนังสือก่อนที่จะตัดสินใจเดินทางมายืมที่หอสมุดได้
ซึ่งปัจจุบันหอสมุดมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยก็เป็นเหมือน One-Stop Service ครบวงจรสำหรับบริการการศึกษา ตั้งแต่การหาข้อมูลสำหรับการเรียน การเรียนรู้ทักษะต่าง ๆ ไปจนถึงการบริการฐานข้อมูลให้กับงานวิจัย แต่หอสมุดเองก็ไม่สามารถหยุดนิ่งได้ เมื่อการเรียนรู้ในยุคใหม่ไม่ได้หยุดนิ่งลง หอสมุดก็ยังคงจำเป็นจะต้องไปไกลกว่าตัวเองในวันนี้
ดร.จอมขวัญยังเผยแผนการต่อไปในการที่จะต้องการให้บริการหอสมุดผ่านเทคโนโลยี VR ซึ่งมหาวิทยาลัยหอการค้าไทยจะเริ่มมีการใช้ซอฟแวร์ VR สามมิติในอนาคตอันใกล้นี้
ในขณะที่สำนักหอสมุดอาจเป็นภาพสะท้อนแนวคิดทางการศึกษาที่ไม่หยุดนิ่งสำหรับโลกยุคใหม่ได้ แต่ส่วนสำคัญก็ยังคงเป็นเรื่องของการศึกษาในห้องเรียน ซึ่งปัจจุบันเองก็ไม่สามารถหยุดนิ่งอยู่แค่การศึกษาในห้องเรียน แต่เป็นการทำให้ห้องเรียนอยู่ในที่ไหนก็ได้
Microsoft Whiteboard คือ เครื่องมือที่ดร.จอมขวัญ และมหาวิทยาลัยหอการค้าเลือกใช้ ซอฟแวร์ในการสร้างกระดานไวท์บอร์ดดิจิทัลที่ไม่เพียงแค่ทำให้การเรียนรู้ออนไลน์เกิดขึ้นได้ แต่ยังช่วยทำให้การเรียนการสอนง่ายขึ้น ผ่านการใช้ระบบอัตโนมัติช่วยดูแลกระบวนการสอน ตั้งแต่การเตรียมการนำเสนอไว้ล่วงหน้า การทำ Pop-Quiz และการสอบ ที่ระบบสามารถรวบรวมคะแนนไว้ได้
ควบคู่กันนั้น Microsoft Teams ซอฟแวร์ Video Conference ที่เป็นที่คุ้นเคยในแวดวงธุรกิจ ก็ถูกใช้ในการสร้างห้องเรียนออนไลน์ ที่ผู้เรียนสามารถเชื่อมต่อเข้าด้วยยูสเซอร์เนมสำหรับนักศึกษา ซึ่งทำให้ข้อมูลของผู้เรียนที่ถูกรวบรวมไว้ระหว่างการสอน สามารถบันทึกไว้กับบัญชีนักศึกษาได้โดยอัตโนมัติ
ซึ่งปัจจุบัน Microsoft Teams ก็ได้มีเวอร์ชั่นสำหรับภาคการศึกษา (Microsoft Teams For Education) ที่มีการเพิ่มฟีเจอร์ต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการเรียนการสอน ตั้งแต่ก่อนเริ่มเรียน ไปจนถึงเมื่อคลาสเรียนสิ้นสุดลงเเล้ว เช่นการสร้างลิงก์เข้าห้องเรียนเพื่อให้ผู้เรียนสามารถเข้าสู่คลาสเรียนได้อย่างสะดวก พร้อมกับแชร์เอกสารประกอบการสอนให้กับผู้เรียนโดยอัตโนมัติ การแชร์หน้าจอของผู้เรียนเหมือนการขึ้นนำเสนอหน้าชั้นเรียน ไปจนถึงฟีเจอร์ที่ให้ผู้ใช้ ซึ่งในทีนี้คือผู้เรียนสามารถที่จะ “ยกมือ” ซึ่งจะแสดงออกมาในหน้าต่างแยก ทำให้การเรียนผ่าน Teams นั้นสามารถมีการโต้ตอบกันได้ระหว่างผู้เรียน – ผู้สอน เหมือนกับในชั้นเรียนจริง
ฟีเจอร์ต่าง ๆ เหล่านี้ใน Microsoft Teams สำหรับภาคการศึกษา ช่วยเติบเต็มช่องว่างระหว่างการเรียนในชั้นเรียน และการเรียนบนออนไลน์ ทำให้ประสิทธิภาพในการเรียนการสอนบนออนไลน์นั้นสามารถเทียบเคียงกับการเรียนในห้องเรียนได้
สิ่งสำคัญในการใช้ซอฟแวร์เข้ามาช่วยในการเรียนการสอน ไม่ใช่แค่การทำให้การสอนง่ายขึ้น แต่ยังเป็นการช่วยลด Human Error หรือความผิดพลาดที่เกิดจากคน อันเป็นความผิดพลาดยิบย่อย แต่ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นบ่อย เช่นการกรอกข้อมูลผู้เรียนผิด การตรวจข้อสอบผิดข้อ การสลับชื่อและเลขประจำตัวของผู้เรียน ความผิดพลาดเหล่านี้หายไปโดยสมบูรณ์เมื่อซอฟแวร์เข้ามาทำงานแทน และช่วยลดเวลาที่อาจารย์หนึ่งท่านต้องใช้ไปกับการทำงานลงได้
นอกจากนี้การเรียนการสอนออนไลน์ ยังสนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้แบบเปิด (Open Approach) มากขึ้น เมื่อการเรียนออนไลน์ทำให้ผู้สอนไม่สามารถห้ามผู้เรียนในการค้นคว้าหาคำตอบจากอินเตอร์เน็ตได้แล้ว การสอนจึงต้องปรับตัวไปใช้การสอนที่แม้ผู้เรียนจะใช้อินเตอร์เน็ต แต่คำถามปลายเปิดก็ไม่มีคำตอบที่ตายตัว สนับสนุนให้เกิดการเรียนรู้ที่เปิดกว้าง และมุ่งเน้นการใช้งานจริงมากยิ่งขึ้น
Microsoft 365 เองก็ยังคงเป็นซอฟแวร์ยอดนิยมในการเรียน ทั้งการใช้ Word ในการทำเอกสาร PowerPoint สำหรับการนำเสนอ และ Excel ที่ช่วยในการทำกราฟ และคำนวนข้อมูลต่าง ๆ
การใช้งานควบคู่กันอย่างลื่นไหลของซอฟแวร์ต่าง ๆ ทั้ง Microsoft Whiteboard สำหรับการสอน Microsoft Teams สำหรับห้องเรียน และ Office 365 สำหรับการทำงานเอกสาร พรีเซนเทชัน และงานอื่น ๆ ช่วยสร้างสภาพแวดล้อม (Eco System) ของการเรียนรู้ที่มีความพร้อมสำหรับผู้สอน ไปจนถึงตัวผู้เรียน
Microsoft Surface คอมพิวเตอร์แล็ปท๊อปที่ได้รับการยอมรับของ Microsoft ก็เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ช่วยให้การเรียนการสอน เป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น จากประสบการณ์ในการใช้สอนจริงของดร.จอมขวัญ Surface คืออุปกรณ์การสออนที่พกพาได้ง่าย ใช้งานได้สะดวก และทำให้สามารถพร้อมกับการสอนได้ตลอดทั้งวัน
- ดีไซน์ที่รองรับทุกการใช้งาน ด้วยการออกแบบที่สามารถพกพาได้ง่าย และยังมีรุ่นที่สามารถปรับเปลี่ยนตัวเองจากแล็ปท๊อป เป็นเท็ปเล็ตได้ตลอดเวลา ช่วยให้อุปกรณ์เพียงเครื่องเดียวสามารถตอบโจทย์การใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่ต้องใช้คียบอร์ด หรือการทำ Video Conference ที่ต้องการไมโครโฟน และลำโพงที่มีประสิทธิภาพ
- การเชื่อมต่อจากทุกที่ Surface ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับการเรียนรู้ และการทำงาน การเชื่อมต่อจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่งในทุกกระบวนการ และการเชื่อมต่อไม่ได้มีความหมายแค่อินเตอร์เน็ตเท่านั้น แต่ศักยภาพของกล้องที่มีความละเอียดเพียงพอ ไมโครโฟนที่ทำให้สื่อสารได้อย่างมั่นใจ ก็เป็นองค์ประกอบที่สำคัญสำหรับการเชื่อมต่อ
- แบตเตอรีที่ทำให้พร้อมได้ตลอดทั้งวัน การใช้งานแบตเตอรีเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้น ๆ สำหรับ Microsoft Surface เพราะการใช้งานแบตเตอรีที่ยาวนาน ไม่ได้หมายถึงแค่การใช้งานที่นานขึ้นเท่านั้น แต่เป็นความพร้อมที่คุณสามารถหยิบอุปกรณ์ของคุณขึ้นมาใช้งานเมื่อไหร่ก็ได้โดยมั่นใจว่าคุณพร้อมสำหรับสิ่งที่ทำ
ในขณะที่ปี 2020 ห้องเรียนถูกบังคับให้โยกย้ายไปอยู่บนออนไลน์ แม้กระทั่งโลกการทำงานเองก็ต้องรับการทำงานแบบ Work From Home เข้ามา แต่ในขณะเดียวกันเราต่างก็โชคดีที่เทคโนโลยีในปัจจุบันมีความพร้อมเพียงพอที่จะรองรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ การมีซอฟแวร์ และฮาร์ดแวร์ที่ตอบโจทย์การเรียนรู้ ไปจนถึงการทำงานคือสิ่งที่ช่วยให้การรับมือความเปลี่ยนแปลงในโลกที่ไม่หยุดนิ่งนี้เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้น
และนี่คือประสบการณ์การเรียนรู้อันไม่หยุดนิ่งที่มหาวิทยาลัยหอการค้า (UTCC) และ Microsoft Surface ได้ร่วมกันสร้างขึ้นมา