LOADING

Type to search

เพราะวันนี้เครื่องมือ ‘MarTech’ ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แล้วองค์กรผู้ออกแบบเครื่องมือเหล่านี้เขาทำงานกันอย่างไร?

เพราะวันนี้เครื่องมือ ‘MarTech’ ขาดไม่ได้ในการทำธุรกิจ แล้วองค์กรผู้ออกแบบเครื่องมือเหล่านี้เขาทำงานกันอย่างไร?
Share

ในโลกธุรกิจยุคปัจจุบัน ทุกคนต่างทราบกันดีว่า ‘ความเร็ว’ เป็นสิ่งสำคัญเป็นอันดับต้นๆ เพราะด้วยการเติบโตของโลกออนไลน์ ลูกค้า และธุรกิจสามารถเชื่อมต่อถึงกันได้ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อขาย หรือกระแสความคิดเห็นจากลูกค้า ที่สำคัญต้องไม่ลืมว่าธุรกิจคู่แข่งเองก็สามารถเชื่อมต่อลูกค้าได้เช่นเดียวกัน

โจทย์ความท้าทายสำคัญสำหรับธุรกิจ คือจะทำอย่างไรให้สามารถเข้าไปนั่งในใจลูกค้า ครองใจให้ได้นานที่สุดในยุคที่พฤติกรรมลูกค้าไม่ยึดติดกับความภักดีต่อแบรนด์อีกแล้ว แต่มองหาสิ่งที่ดีที่สุดให้ตัวเองแทน วันนี้ MarTech จึงมีบทบาทอย่างมากในการดำเนินธุรกิจโดยมีลูกค้าเป็นศูนย์กลาง

ปัจจุบันเครื่องมือ MarTech มีมากมายตั้งแต่เครื่องมือ Social Listening ที่นักการตลาดคุ้นหูกันดี ไปจนถึงแชตบอตเพื่อโต้ตอบกับลูกค้าอัตโนมัติ แต่สิ่งที่น่าสนใจคือเครื่องมือเหล่านี้อัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูงมากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ AI หรือระบบวิเคราะห์ประมวลผลด้านข้อมูลต่างๆ

วันนี้ Future Trends จึงอยากชวนทุกคนไปดูหลังบ้านของผู้ออกแบบเครื่องมือเหล่านี้อย่าง ‘InsightERA’ องค์กรผู้ให้บริการด้าน MarTech แบบครบวงจรชั้นนำของประเทศ และ Hero Product อย่างเครื่องมือ DOM : Social Listening & Social Analytics Tool ที่ออกแบบโดยคำนึงถึงความง่ายในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นนักการตลาด องค์กรหรือเจ้าของธุรกิจ ไปจนถึงผู้ที่สนใจทำคอนเทนต์ก็สามารถใช้งานได้ มาดูกันว่าที่นี่เขาทำงานกันอย่างไร

ชวนรู้จัก InsightERA ผู้ให้บริการด้าน MarTech แบบครบวงจรกับ Hero Product ‘DOM’ เครื่องมือที่นักการตลาดต้องรู้จัก

‘InsightERA’ เป็นผู้ให้บริการด้าน Marketing Technology แบบครบวงจร ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัท Tech spin-off ภายใต้กลุ่มจีเอเบิล ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อเดือนกันยายน พ.ศ. 2558 และเป็นผู้คว้ารางวัลชนะเลิศจากเวทีระดับโลกอย่าง Microsoft Imagine Cup มาแล้ว

สิ่งที่เรียกได้ว่าเป็นความถนัดของ InsightERA เลย คือการวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และความต้องการของตลาด เพื่อวางแผนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่การวัดผลที่แม่นยำ เพื่อช่วยให้ธุรกิจเข้าใจลูกค้า และพัฒนากลยุทธ์การตลาดให้เติบโตไปในทางที่ตรงใจลูกค้ามากที่สุด InsightERA จึงมุ่งมั่นพัฒนาเทคโนโลยีที่มีประสิทธิภาพอยู่เสมอ เพื่อผลักดันทุกธุรกิจ ให้เติบโตบนช่องทางดิจิทัล พร้อมก้าวไปสู่ความสำเร็จอย่างยั่งยืน

โดยโปรดักต์ที่เรียกได้ว่าเป็นตัวชูโรง หรือ Hero Product ของ InsightERA เลยคือ DOM : Social Listening & Social Analytics Tool ซึ่งออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะเป็นนักการตลาด องค์กรหรือเจ้าของธุรกิจ หรือคนทั่วไปเองก็สามารถใช้งานได้ง่ายๆ ผ่านการจัดรีพอร์ตข้อมูลที่เข้าใจง่าย และนำข้อมูลเหล่านี้ไปต่อยอดพัฒนากลยุทธ์ของตัวเองได้จริง

นอกจาก DOM แล้ว ทาง InsightERA ยังได้ออกแบบเครื่องมือทางการตลาดอีกมากมายโดยยังมุ่งเน้นความง่ายในการจดจำชื่อโปรดักต์ ด้วยหลัก (1 ABCDE) ซึ่งทาง Future Trends ได้สรุปมาให้แบบนี้เลย

1 – 1 Pallete: CDM/CRM จัดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายตาม Sales Funnel เพื่อกำหนดกลุ่มลูกค้าสำหรับการยิงโฆษณาผ่านโซเชียลมีเดียได้อย่างแม่นยำ

A – Alice: แชตบอตอเนกประสงค์ สำหรับใช้งานหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นคุยโต้ตอบกับลูกค้าโดยไม่ต้องใช้แรงงานคนทำงาน หรือปรับใช้เข้ากับการสื่อสารภายในองค์กรธุรกิจ

B – Brian: ไม่พลาดทุกความเคลื่อนไหวของคู่แข่ง พร้อมติดตาม และวิเคราะห์การทำสื่อออนไลน์ของคู่แข่ง ได้แบบ Real-time เพื่อวางกลยุทธ์ให้เหนือกว่า

C – Cent: เพราะวันนี้โซเชียลมีเดียไม่ได้มีแค่แพลตฟอร์มเดียว Cent สามารถช่วยให้ธุรกิจตอบโต้กับกลุ่มลูกค้าผ่านทั้งข้อความ และคอนเทนต์ได้ในหน้าจอเดียว

D – DOM: Hero Product ของทาง InsightERA เครื่องมือ Social Listening และวิเคราะห์ทุกความเคลื่อนไหวบนโลกออนไลน์โซเชียล ซึ่งยังได้รวบรวมความสามารถอันหลากหลายของโปรดักต์ตัวอื่นๆ ไว้ใน DOM ที่เดียวอีกด้วย

E – Eli: ระบบที่ทำหน้าที่ประมวลผลความรู้สึกจากภาษา และจัดเป็นกลุ่มเช่น กลุ่มความคิดเห็นเชิงบวก และกลุ่มความคิดเห็นเชิงลบ ซึ่งทำให้ธุรกิจสามารถดูทิศทางกระแสสังคมได้ว่ากำลังเป็นไปในเชิงบวก หรือเชิงลบ

‘เปิดบ้าน InsightERA’ ที่นี่เขาทำงานกันอย่างไร

จากในหน้าที่แล้ว เราจะเห็นได้ว่าเครื่องมือต่างๆ จากทาง InsightERA นั้นมีความหลากหลาย และเป็นประโยชน์กับนักการตลาดอย่างมาก ยิ่งในยุคที่ผู้บริโภคอยู่บนโลกออนไลน์กันหมด ธุรกิจยิ่งต้องเร็ว และดูกระแสความเคลื่อนไหวของลูกค้าได้แบบเรียลไทม์จึงจะสามารถรับมือ และตอบโจทย์ลูกค้าได้

แต่สำหรับ InsightERA ผู้ออกแบบเครื่องมือต่างๆ เพื่อช่วยเหลือนักการตลาดอีกที จะต้องเดินนำหน้าทั้งกลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มองค์กรธุรกิจไปอีกก้าวเพื่อให้ตัวเครื่องมือสามารถตอบโจทย์ทั้งสองฝ่ายได้จริง วันนี้ Future Trends จึงอยากชวนมาเปิดหลังบ้าน InsightERA กันว่าที่นี่เขามีรูปแบบการทำงาน และวัฒนธรรมองค์กรอย่างไรที่สามารถส่งเสริมทั้งคนทำงาน และองค์กรให้ดำเนินการสำเร็จตามเป้าหมายได้อย่างสวยงาม

“เราทำงานกันแบบ Agile ในทุกๆ ส่วนงาน”

เพราะไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการตลาด หรือเทคโนโลยีล้วนเป็นเรื่องที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การปรับตัวช้าเกินไปเพียงแค่เสี้ยววินาที เราอาจตกขบวนรถไฟไปไกลมากกว่าที่คิดเสียอีก การทำงานที่ InsightERA จึงต้องเป็นการทำงานในรูปแบบที่เราสามารถปรับตัวได้อย่างรวดเร็ว ให้ตอบรับกับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ

แม้การทำงานในรูปแบบ Agile จะไม่ใช่คำใหม่ในวงการธุรกิจ แต่ต้องบอกว่าการปรับใช้รูปแบบ Agile กับการทำงานจริงนั้นไม่ง่ายเลย โดยการสำรวจจาก Forbes ได้ให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า เพียงแค่ในประเทศอังกฤษที่เดียว มีเม็ดเงินที่ต้องสูญเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์กับการปรับองค์กรสู่รูปแบบ Agile ที่ล้มเหลว ถึง 37,000 ล้านปอนด์

แต่สำหรับ InsightERA จะมีแนวคิดที่ยึดถืออยู่เสมอ 2 ข้อใหญ่ คือมีความขี้สงสัยอยู่เสมอ ซึ่งเป็นต้นกำเนิดของการศึกษาหาความรู้อยู่เสมออย่างไม่หยุดนิ่ง และอีกข้อคือการไม่ยอมแพ้ต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยทีมใน InsightERA มักจะตื่นเต้นกับการคิดค้นโซลูชัน และเทคนิคใหม่ๆ อยู่เสมอ เพื่อปรับใช้ และตอบโจทย์ลูกค้า ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไปให้ได้

อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่สุดของรูปแบบการทำงาน Agile คือ ‘การสื่อสาร’ ที่ต้องทำได้ทันที และตลอดเวลา เพราะอย่างที่เราได้ทราบกันไปว่า การล่าช้าแม้เพียงเสี้ยววิอาจมีผลกระทบตามมาไม่น้อย ที่ InsightERA ให้ความสำคัญกับการเปิดรับฟังความคิดเห็นจากคนทำงานทุกคนโดยไม่แบ่งแยกตำแหน่ง ซึ่งจะเห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนในตอนที่เกิดปัญหาในองค์กรขึ้น โดยทีมทำงานใน InsightERA จะ Brainstorm เพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกัน และทุกครั้งจะมีการสรุปสาเหตุ และแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น พร้อมเก็บตัวอย่างปัญหานี้ไว้เป็นบทเรียน สำหรับการแก้ปัญหาในครั้งหน้า

จะเห็นได้ว่าการทำงานใน InsightERA นั้นให้ความสำคัญกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้าก่อนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้า องค์กรธุรกิจ หรือปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งยังมีการคิดหาวิธีการใหม่ๆ ในการแก้ปัญหาอย่างหลากหลายไม่เป็นแพทเทิร์น เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับปัญหาที่แม้จะยังไม่เคยเกิดขึ้น แต่มีโอกาสเกิดขึ้นได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นวิธีการคิดที่ใช้กันภายในทีมทำงาน หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ก็ตาม ปัจจัยเหล่านี้ทำให้การทำงานแบบ Agile ของ InsightERA เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ควบคู่กับการมีวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง

Source: https://bit.ly/3MMQiQ1

‘เพราะพนักงานคือหัวใจสำคัญ’ชวนดูการสนับสนุนทีมคนทำงาน แบบ InsightERA เพื่อความสุขของพนักงาน

จะเห็นได้ว่าการทำงานในรูปแบบ Agile จะมี ‘คนทำงาน’ เป็นหัวใจสำคัญเลยก็ว่าได้ เพราะต้องอาศัยการเชื่อมต่อที่ลื่นไหล และสื่อสารแลกเปลี่ยนกันอยู่เสมอ ทีนี้เรามาดูกันว่าแล้วองค์กร InsightERA เขามีการสนับสนุนพนักงานอย่างไร ทั้งในด้านการทำงาน และการเสริมความแข็งแกร่งให้กับวัฒนธรรมองค์กรจนทั้งพนักงาน และองค์กรสามารถจับมือเดินไปข้างหน้าด้วยกันได้แบบนี้

สำหรับที่ InsightERA แล้ว รูปแบบการทำงานหลายๆ ส่วนงานจำเป็นต้องมีการปฏิสัมพันธ์ หรือพูดคุยสื่อสารกันภายในทีมกันอยู่ตลอดเวลา โดยทาง InsightERA ได้จัดพื้นที่ให้พนักงานได้มีการเชื่อมต่อถึงกันได้ง่าย เช่น การจัดพื้นที่ Knowledge Sharing เพื่อพูดแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ และประสบการณ์ทำงาน ไปจนถึงปัญหาที่พบเจอในแต่แผนก ซึ่งเป็นจุดที่คนทำงานได้จะศึกษาแลกเปลี่ยนวิธีการแก้ปัญหาที่ตนอาจไม่เคยเจอมาก่อนด้วย

ทั้งนี้นอกจากเรื่องงานแล้ว InsightERA ยังได้มีการจัดปาร์ตี้ หรืองานเลี้ยงอยู่เสมอ เพื่อให้พนักงานรู้สึกผ่อนคลาย และได้มีส่วนร่วมในสังคมการทำงานมากกว่าแค่มิติของการเป็นพนักงานเพียงอย่างเดียว แต่ยังได้รับรู้ถึงบรรยากาศของความเป็นทีมเดียวกันทั้งองค์กร

นอกจากนี้ InsightERA ยังได้จัดสภาพแวดล้อมการทำงาน แบบ ‘ฟรีสไตล์’ กึ่ง Co-Working Space พร้อมมีมุมพักผ่อนให้พนักงานได้ดื่มกาแฟ หรือพูดคุยกัน ซึ่งสิ่งเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ InsightERA มองว่าเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้พนักงาน รู้สึกว่าอยู่ในบรรยากาศที่ผ่อนคลาย ไม่ตึงเครียดจนเกินไป และองค์กรยังมองหาช่องทางการสนับสนุนในมิติอื่นๆ เพิ่มขึ้นในอนาคตด้วย

การสนับสนุนทั้งหมดนี้ เกิดขึ้นเพื่อตอกย้ำแนวคิด ‘พร้อมในการพัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา’ ที่ InsightERA ได้เน้นย้ำอย่างชัดเจนอยู่เสมอ เพราะเรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรับมือกับความเปลี่ยนแปลงของโลกที่กำลังเกิดขึ้นในทุกวินาที ซึ่งต้องบอกว่าความพร้อมที่จะเรียนรู้อยู่เสมอนี้ จะนำไปสู่การปรับตัว และการพัฒนาตัวเองให้เข้ากับองค์กรได้ไม่ยากเลย

‘พร้อมที่จะเรียนรู้อยู่เสมอ’จุดเริ่มต้นเล็กๆ สู่การเติบโตอันยิ่งใหญ่ของทั้งพนักงาน และองค์กร

ไม่มีการทำงานใดในโลกที่ไม่มีปัญหา แต่เมื่อปัญหาเกิดขึ้นแล้ว จะแก้ไขมันอย่างไรคือสิ่งสำคัญ อย่างที่เราได้ทราบกันดีว่าโลกของเรานั้นเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัญหาที่เกิดขึ้นก็จะมีเรื่องใหม่ๆ ตามมาซึ่งรอให้เราแก้ไขมันอีกไม่รู้จบ

.

เช่นนั้นแล้ว การเปลี่ยนอุปสรรคตรงนี้ ให้เป็นโอกาสสำคัญในการเรียนรู้ จึงเรียกได้ว่าเป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนที่สุด การเตรียมความพร้อมที่จะรับประสบการณ์ใหม่ๆ พร้อมที่จะเรียนรู้ พัฒนาตัวเองอยู่ตลอดเวลา จึงเรียกได้ว่าเป็นสิ่งสำคัญที่สุด สำหรับการทำงานในองค์กร และ ‘InsightERA’ มีความพร้อมที่จะสนับสนุนพนักงานให้เติบโตขึ้นในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงาน หรือความสุขในชีวิตด้วยเช่นกัน

#InsightERA #DOM #SocialListening #FutureTrends #KnowledgeforSuccess