ยุคทองของ ‘การเก่งแบบเป็ด’ มนุษย์เป็ดจะปรับตัวอย่างไรในวันที่เป็ดล้นโลก?

ท่ามกลางยุคสมัยที่เปลี่ยนแปลงไป และโลกที่หมุนเร็ว การเก่งแบบตัว I ที่รู้ลึกเพียงด้านเดียว เช่น โปรแกรมเมอร์ที่เก่งในเรื่องการเขียนโค้ดเรื่องเดียว นับเป็นสิ่งไม่เพียงพอต่อการอยู่รอด ทุกวันนี้ เทรนด์มนุษย์เป็ดได้เข้ามามีบทบาทสำคัญมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ช่วงที่ผ่านมาที่หลายๆ คนพยายามพัฒนาตัวเองให้เก่งเหมือนเป็ดที่ทำได้หลายอย่าง แม้จะไม่ได้ดีเด่อะไร แต่ก็อยู่ได้ทุกสถานการณ์

ทว่า การมาของยุคทองแห่งการเก่งแบบเป็ดนั้นส่งแรงกระเพื่อมให้มีจำนวนมนุษย์เป็ดล้นตลาดแรงงาน และกลับกลายเป็นสิ่งที่ไม่เพียงพออีกครั้งหนึ่ง เนื่องจาก หลายๆ คนต่างก็มีทักษะเหล่านี้ติดตัวคล้ายกัน

แล้วมนุษย์เป็ดจะปรับตัวอย่างไรให้ได้ไปต่อ เราควรพัฒนาตัวเองให้มีความรู้แบบไหน? บทความนี้ Future Trends จะพาไปดูกัน!

รู้ลึกด้านเดียว รู้กว้างหลายด้าน เมื่อ T-Shape’ แบบเดิมไม่พออีกต่อไป!

เป็นความเข้าใจผิดของบางคนว่า การพัฒนาตัวเองให้มีทักษะเป็นรูปตัว T หรือ T-Shape Model ที่รู้ลึกหรือถนัดแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่งเหมือนกับหางแนวตั้ง แต่ขณะเดียวกัน ก็รู้กว้าง รู้รอบด้านในเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องเหมือนกับหางแนวนอนคือสิ่งที่ถูก ที่ควร

แต่ในความเป็นจริง การรู้ลึกเรื่องเดียวเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องที่ไม่เวิร์กนัก เพราะเป็นแค่โมเดลที่ช่วยให้เราเอาตัวรอดในชีวิตประจำวันได้ แต่ไม่ใช่โมเดลที่จะขับเคลื่อนเราไปสู่ขั้นความสำเร็จอย่างแท้จริง

จะหินแค่ไหนก็เอาอยู่ ‘M-Shape’ เป็ดโปรที่ใช่ในวันที่โลกซับซ้อน

ในวันที่เป็ดล้นตลาด โลกมีความซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ องค์ประกอบที่จะทำให้เราประสบความสำเร็จไม่ได้มีแค่เพียงความพยายาม ความมานะบากบั่นเท่านั้น แต่จริงๆ แล้ว ยังมีเรื่องของกลยุทธ์การพัฒนาตัวเองตามแบบฉบับของ M-Shape Model ด้วย

กล่าวคือ ไม่ได้แค่รู้ลึกในเรื่องใดเรื่องหนึ่งแบบ T-Shape Model แต่เปลี่ยนการรู้ลึกหลากหลายทักษะเหมือนขาแนวตั้งตัว M ที่ค้ำจุนความรู้กว้างในแนวนอนไปพร้อมๆ กัน หรือสรุปง่ายๆ ว่า การพัฒนาตัวเองให้โปรขึ้น มี Multi Skills มากกว่าเดิม เป็นกุญแจสำคัญของความสำเร็จนั่นเอง

ไม่ใช่รินลดาก็ปังแบบตัวแม่ได้ ลอง ‘Y-Shape’ เป็ดนักผสานความรู้พันธุ์ใหม่

แม้การรู้กว้างจะเป็นสิ่งจำเป็นในทุกวันนี้ แต่วิกฤตโควิด-19 ที่เข้ามาสั่นสะเทือนโลกทำให้ทักษะการแก้ปัญหา และการบูรณาการองค์ความรู้เข้ามามีบทบาทอย่างมาก นี่จึงเป็นที่มาของ Y-Shape ที่คนทำงานอย่างเราๆ ควรให้ความสำคัญ

Y-Shape Model คือการมีความรู้ที่ไม่ได้กำหนดตายตัวว่า จะต้องรู้ลึกหรือรู้กว้างมากกว่า แต่เป็นการเรียนรู้หลายๆ อย่างให้ลึกซึ้ง จนสามารถตกผลึก และนำองค์ความรู้เหล่านั้นมาประกอบกัน เพื่อต่อยอดเป็นไอเดีย สิ่งของ หรือนวัตกรรมใหม่ๆ ให้แก่โลกใบนี้ต่อไป

เก่งทั้งงาน เก่งทั้งคน ‘X-Shape’ ทักษะสำคัญของเป็ดจ่าฝูง

นอกเหนือจาก M-Shape และ Y-Shape แล้ว อีกหนึ่งโมเดลที่น่าสนใจในวันที่มนุษย์เป็ดล้นตลาดไม่แพ้กัน นั่นก็คือ X-Shape หรือทักษะการเป็นผู้นำ

X-Shape Model หมายถึงการมีความรู้ลึกในเรื่องที่ถนัด ควบคู่ไปกับการมี Soft Skill อย่างทักษะความเป็นผู้นำในการบริหารจัดการเรื่องต่างๆ ด้วย หรือสรุปง่ายๆ ว่า ไม่ได้แค่ทำงาน เก่งงาน แต่ก็ยังเก่งคน เป็นผู้นำที่ครบเครื่องทั้งบู๊ และบุ๋น แถมยังมีศิลป์ในการคุมทีมเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จด้วย

และนี่ก็คือโมเดลความรู้ของเป็ดที่จะได้ไปต่อท่ามกลางโลกที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ไม่แน่ว่า ในอนาคต อาจจะมีโมเดลอื่นที่เวิร์กกว่าโมเดลเหล่านี้อีกหลายสิบหลายร้อยเท่าก็เป็นได้…

Source: หนังสือ The Age of Chief Marketing Technologist 2022 CMT ผู้นำการตลาดพลิกโลก เขียนโดย จิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์

https://bit.ly/3F8DqzM

https://bit.ly/3J29Jl1

https://bit.ly/41YapAG

https://bit.ly/3Jnb1s8

https://bit.ly/41T1dgN

https://bit.ly/3ylMLjK