“ฉันไม่อยากเป็นคนเก่ง ฉันอยากเป็นคนรวย ฉันเหนื่อย”
“ฉันไม่อยากเก่ง ฉันเหนื่อย ฉันอยากถูกหวย”
เลื่อนฟีดเฟซบุ๊ก (Facebook) ทีไร เจอแก๊กตลกแบบนี้ทุกที ประโยคเชิงตัดพ้อที่อ่านผ่านๆ แล้วก็ดูขำดี แต่หากมองให้ลึกลงไป กลับสะท้อนอีกแง่มุมหนึ่งว่า คนยุคนี้รู้สึกเบื่อหน่ายกับการผลิตซ้ำค่านิยมความสำเร็จคนเก่งของสื่อต่างๆ และหมดไฟกับชีวิตมากกว่าคนรุ่นก่อน
ไม่ว่าใครก็อยากรวยด้วยกันทั้งนั้น เพราะไม่ใช่แค่คุณ ดิฉันเองก็ด้วย แต่ภายใต้โครงสร้างที่เหลื่อมล้ำ ระบบที่ย่ำแย่ และประเทศที่ไม่เอื้ออำนวยให้เราได้เติบโตเช่นนี้ การลืมตาอ้าปากด้วยการทุ่มเททำงานอย่างสุดพลังจึงไม่ใช่คำตอบที่เพียงพอ แถมบางทีจะให้ขยัน โปรดักทีฟตลอดเวลาก็คงไม่ใช่ คนเราก็มีมุมเหนื่อย มุมขี้เกียจกันบ้าง
ซึ่งแทนที่แต่ละวันจะหมดไปกับ ‘การทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต’ เพื่อหวังว่าวันหนึ่งจะรวย มีวัยเกษียณที่ได้จับเงินล้านแบบคนอื่น อนาคตที่ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงหรือไม่ ลองเปลี่ยนการปล่อยให้ ‘เงินทำงานเป็นเกลียว’ แทนเราผ่านรายได้ทางอ้อม (Passive Income) อีกทางดูสิ รับรองว่า มั่นคงกว่าการรอถูกหวยอย่างแน่นอน
แล้วเงินจะทำงานแทนเราได้ยังไง? ในบทความนี้ Future Trends จะมาแนะนำ 3 วิธีการลงทุนที่จะช่วยให้ทุกคนเข้าใกล้ชีวิตในฝันได้ไวขึ้น และไม่ต้องทำงานตัวเป็นเกลียวแบบไม่ได้พักไปให้ฟังกัน
วิธีที่ 1 : ลงทุนกับ ‘ของสะสม’ มูลค่าทางใจ กำไรแห่งอนาคต
ในอดีต เรามักจะเคยชินว่า หากอยากจะเก็บของสะสมอะไร ส่วนใหญ่แล้ว สิ่งนั้นควรจะเป็น ‘ทองคำ’ ที่สามารถเอาไปเก็งกำไรต่อได้ แต่ทุกวันนี้ ความก้าวหน้าที่มากยิ่งขึ้นส่งผลให้ทองคำไม่ใช่ของสะสมเลอค่าที่หลายคนนึกถึงเหมือนอย่างที่เคย แต่ความนิยมได้ถูกเปลี่ยนให้เป็นสิ่งของอื่น ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้มงคล กระเป๋าแบรนด์เนม เหรียญเก่า สินค้าของศิลปินไอดอล รูปภาพ หรือแม้กระทั่ง NFT Art สินทรัพย์ดิจิทัลรูปแบบใหม่บนโลกออนไลน์ก็ด้วย
ที่ใครเห็นโอกาส รู้จักซื้อเก็บมาสะสม เมื่อวันเวลาผ่านไป สิ่งที่งอกเงยจะไม่ใช่แค่เพียงมูลค่าทางใจเท่านั้น แต่หากเอาไปขายในตลาดอย่าง ‘ถูกที่ ถูกทาง’ มันก็จะแปรเปลี่ยนเป็น ‘กำไรมหาศาล’ ซึ่งอาจจะมีมูลค่าหลายเท่ากว่าราคาตอนแรกที่ซื้อด้วยซ้ำไป
แนะนำให้ลองศึกษาก่อนว่า เราหลงใหลอะไรเป็นพิเศษ ช่วงนี้คนส่วนใหญ่สนใจสิ่งไหน และมีแนวโน้มที่จะได้รับความนิยมตลอดไปหรือไม่? ซึ่งที่บอกแบบนี้ก็เพราะเมื่อวันหนึ่งแพชชัน ความหลงใหลหมดลง มันก็ยังคงเหลือเศษซากของการลงทุนที่อาจสร้างอาชีพใหม่ และกำไรในอนาคตต่อไปได้นั่นเอง
วิธีที่ 2 : ลงทุนกับ ‘อสังหาริมทรัพย์’ แบบเสือนอนกิน
อสังหาริมทรัพย์ในที่นี้สามารถเป็นอะไรก็ได้ ทั้งบ้าน คอนโด หอพัก โรงแรม ที่ดิน หรือทรัพย์สินอื่นๆ จากนั้น นำไปให้ผู้อื่นเช่าหรือเซ้งต่อ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า วิธีนี้อาจจะไม่ค่อยเวิร์กกับบางคน เพราะต้องอาศัยเวลานานในการสะสมเงินก้อนก่อนลงทุน แต่ถ้ามองที่ผลลัพธ์ปลายทาง ยอมอดเปรี้ยวไว้กินหวานระยะยาวแล้ว เรียกได้ว่าคุ้มสุดๆ
วิธีที่ 3 : ลงทุนกับ ‘สินทรัพย์การเงิน’ เพื่ออนาคตที่ดีกว่า
เพราะการเก็บเงินไปเรื่อยๆ ไม่ใช่หนทางสู่ความรวยเร็วอย่างแท้จริง แต่ต้องรู้จักให้เงินทำงานแทน งอกเงยด้วยตัวเองในขณะที่เราทำงานประจำ หลับ และพัก โดยเงินพวกนี้ก็สามารถทำงานได้ผ่านสินทรัพย์ทางการเงินที่หลากหลายด้วยกัน ยกตัวอย่างเช่น หุ้น กองทุนรวม เป็นต้น
ซึ่งถ้าวางแผนดี เลือกลงทุนเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การลงทุนในธุรกิจสีเขียว (ESG Investing) หนึ่งเทรนด์มาแรงแห่งยุคที่มีมาหลายสิบปีแล้ว แต่เพิ่งจะมาฮิตช่วงโควิด-19 การดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบบนพื้นฐานการคำนึงถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ก็นับว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า
เพราะที่แน่ๆ ก็สบายใจหายห่วงได้ทันที เนื่องจากส่วนใหญ่ บริษัทที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มักจะมีแนวโน้มความสามารถ และประสิทธิภาพเหนือกว่าคู่แข่งอย่างมีนัยสำคัญ สอดคล้องกับผลสำรวจจากเว็บไซต์แนสแด็ก (Nasdaq) ที่ระบุว่า กว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของนักลงทุนมีการนำ ESG เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในการลงทุนที่ดี โดยเชื่อว่า จะให้ผลตอบแทนระยะยาวที่ดีขึ้น นอกจากนี้ อีก 53 เปอร์เซ็นต์ ก็ยังเห็นว่า บริษัทที่มีประวัติ ESG ดีกว่าจะสร้างผลตอบแทนการลงทุนที่ดีกว่าเดิมอย่างแน่นอน
นี่จึงเป็นอีกสาเหตุที่ทำให้ ESG Investing ฮ็อตฮิต และกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกการลงทุนที่ดีที่สุดไปโดยปริยาย บวกกับภาพลักษณ์เท่ๆ สะท้อนค่านิยมของผู้ลงทุน ที่ไม่ใช่แค่เม็ดเงิน แต่ยังควบรวมไปถึงการเป็นส่วนหนึ่งเพื่อสร้างผลกระทบเชิงบวก และโลกใบนี้ให้ดีขึ้นด้วยเช่นกัน
เพียงเท่านี้คุณก็จะรวย รวย รวย ไม่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานตัวเป็นเกลียวไปจนแก่ และได้จับเงินล้านในวัยเกษียณแบบง่ายๆ ท้ายที่สุดแล้ว ‘ไม่มีคำว่าสายเกินไปที่จะเริ่ม’ เพราะการลงทุนตั้งแต่ตอนนี้จะช่วยให้คุณเข้าใกล้ชีวิตในฝันได้ไวขึ้น ให้เงินทำงานแทนได้ แต่ก็อย่าลืมว่า เงินนั้นต้องเป็นเงินเย็นด้วยนะ เพราะไม่งั้นแล้ว ก็อาจจะเดือดร้อนโดยไม่รู้ตัว
สุดท้ายนี้ ขอปิดจบด้วยประโยคตลอดกาลอย่าง ‘การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุน’
Sources: https://cnb.cx/3jW7ymQ
https://bit.ly/3v1CQPt
https://bit.ly/3Ewpmyx
https://bit.ly/3K1Z48g
https://bit.ly/3k3AWHG
https://bit.ly/3jZNSyA