Employer Branding สมรภูมิใหม่ของทุกองค์กร เมื่อการเติบโตเกิดขึ้นจากคนทำงาน

เมื่อพูดถึงการแข่งขันทางธุรกิจ โดยทั่วไปเราอาจนึกถึงการแข่งขันทางสินค้าหรือบริการ แต่ทุกวันนี้ สมภูมิธุรกิจกว้างใหญ่กว่าแค่สิ่งที่องค์กรจะเสนอให้แก่ลูกค้า แต่เป็นสิ่งสำคัญที่ทุกองค์กรต้องมีอยู่ก่อนหน้านั้น

สิ่งซึ่งองค์กรใช้ในการสร้างสินค้าและบริการ ทรัพยากรที่สำคัญที่สุดอย่างหนึ่งขององค์กรนั้นก็คือ “คน” บริษัทต่างๆจึงจำเป็นต้องหาวิธีที่ทำให้ผู้คนอยากเข้ามาทำงานด้วย นั่นคือการสร้าง Employer Brand หรือ Talent Brand

เราอยู่ในยุคที่กลยุทธ์ใหม่ๆทางธุรกิจเกิดขึ้นมากมาย เกิดเป็นเทรนด์ต่างๆในโลกธุรกิจ แต่ Employer Branding ก็ยังคงเป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์ใหญ่ต้องทำเสมอมาไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน

เพราะสิ่งที่จะทำให้ธุรกิจขับเคลื่อนไปข้างหน้าได้ ไม่ใช่สินค้าหรือบริการ แต่คือ คนทำงาน

องค์กรที่ใครก็อยากทำงานด้วย

จุดมุ่งหมายในการทำ Employer Branding ไม่ใช่สิ่งที่ซับซ้อน แต่เป็นเป้าหมายง่ายๆ คือการทำให้ตัวเองกลายเป็นองค์กรที่ใครก็อยากทำงานด้วย เราจึงได้เห็นองค์กรต่างๆ พยายามนำเสนอแนวคิด ไลฟ์สไตล์ ไปจนถึงสวัสดิการ เพื่อจะบอกคนทำงานว่าทำไมพวกเขาถึงควรมาทำงานที่นี่

ไม่ว่าจะเป็นองค์กรระดับโลกอย่าง Apple, Google, Amazon หรือ Netflix ก็ทำสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอ นอกจากการสร้างธุรกิจที่แข็งแรง เป็นที่รู้จักให้ผู้คนมั่นใจและอยากร่วมงานด้วย พวกเขาก็พยายามนำเสนอสิ่งอื่นๆ ที่นอกเหนือจากการทำงานที่พนักงานจะได้จากพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นสังคมการทำงานที่เปิดกว้าง ยอมรับความหลากหลาย โอกาสในการเรียนรู้และเติบโต ความใส่ใจในความเป็นอยู่ของพนักงาน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นสิ่งที่องค์กรต่างๆ พยายามนำเสนอให้กับหนักงาน หรือ ว่าที่พนักงานของเขา เพื่อที่จะทำให้คนทำงานเห็นว่านี่คือองค์กรที่เขาอยากทำงานด้วย

เราได้เคยลองเข้าไปสังเกต ร่วมงาน และ ศึกษาองค์กรหลายแห่ง หนึ่งในองค์กรที่เราชื่นชมคือ กรุงศรี

เราพบว่า กรุงศรี ก็เป็นอีกองค์กรหนึ่งที่พยายามเป็นองค์กรที่ใครก็อยากทำงานด้วย เราจะได้เห็นการเปิดรับ และความหลากหลายในองค์กรของ กรุงศรี ผ่านผลงานวิดีโอนำเสนอเรื่องราวของคนทำงานอย่าง Humans of Krungsri ที่นำเสนอเรื่อง Diversity & Inclusion ในองค์กร ตั้งแต่เรื่องของการเปิดโอกาสให้ทุกคนได้เป็นตัวของตัวเอง ยอมรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่าง การเข้าใจในความหลากหลายของผู้คน และการทำงานร่วมกันโดยก้าวข้ามความแตกต่างของช่วงวัย

นอกจากนี้กรุงศรี ยังเป็นองค์กรที่ปรับตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อมีสถานการณ์ที่กระทบไปถึงความเป็นอยู่ของพนักงาน ในช่วง COVID-19 สิ่งที่กรุงศรีทำไม่ใช่แค่การ Work From Home แต่เป็นการนำการทำงานทั้งระบบขึ้นสู่ออนไลน์ ตั้งแต่การสมัครงาน การเรียนรู้ทักษะ ไปจนถึงการทำงาน เป็น Digital Journey ที่ช่วยให้คนทำงานรับมือกับสถานการณ์อันไม่ปกติได้ง่ายขึ้น และยังมีสิ่งต่างๆอีกมากมายที่กรุงศรีทำเพื่อให้ผู้คนอยากทำงานร่วมกับเขา ซึ่งในปี 2019 ที่ผ่านมากรุงศรีก็ได้รับรางวัลมากมายในฐานะองค์กรที่น่าทำงานด้วย ไม่ว่าจะเป็น

• Excellence in Learning & Development จากงาน Human Resources Excellence Awards 2019 สำหรับความสำเร็จในการพัฒนาพนักงานสู่ความเป็นมืออาชีพด้วยการส่งเสริมเรียนรู้และพัฒนาทรัพยากรบุคคลอย่างต่อเนื่องเพื่อการเติบโตขององค์กรและพนักงานอย่างยั่งยืน
• Top 100 Asia’s Best Employer Brands 2019 จากงาน Asia’s Best Employer Brands 2019 จัดโดย The Employer Branding Institute ในฐานะองค์กรที่น่าร่วมงานด้วย
• Diversity Impact Award ในฐานะองค์กรที่โอบรับความหลากหลาย (Embracing Diversity) ให้ความสำคัญกับพนักงาน เคารพความคิดเห็นของกันและกัน

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงก้าวหนึ่ง ของความตั้งใจในการเป็น Employer of Choice องค์กรที่ใครก็อยากทำงานด้วย

เมื่อคนมีทักษะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้องค์กรได้

Employer Branding เป็นสิ่งสำคัญในการทำธุรกิจเพราะองค์กรต่างๆล้วนต้องดึงดูดคนที่มีความสามารถเข้ามาในองค์กรให้ได้ องค์กรต่างๆจึงพยายามนำเสนอตัวตนของตัวเองออกไปให้คนทำงานได้เห็นว่าการเป็นส่วนหนึ่งขององค์กรนั้นดีอย่างไร

ทุกวันนี้แรงงานที่มีทักษะมีอยู่อย่างจำกัด และมันคือความท้าทายในการที่องค์กรต่างๆจะดึงดูดคนเก่งเข้ามาทำงานกับตัวเอง แต่ในขณะเดียวกันสิ่งที่กรุงศรีมองว่าการที่องค์กรสามารถดึงดูดคนเก่งมาทำงานกับเขาได้เพียงหนึ่งคน ก็สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับองค์กรได้ แต่เพื่อที่จะเป็นเช่นนั้น กรุงศรีก็จำเป็นที่จะต้องสร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่ดี ยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนที่ทำงานกับกรุงศรี

การยกระดับจากภายในสู่ภายนอก

การทำ Employer Branding ไปจนถึงการพัฒนา Ecosystem ให้คุณชีวิตของคนทำงานดีขึ้น ไม่ใช่แค่เรื่องของการดึงดูดคนเข้ามาทำงานเท่านั้น แต่เป็นเรื่องของความอยู่ดีมีสุขของพนักงาน

ตั้งแต่ความภูมิใจในองค์กร ไปจนถึงความพร้อมในการบริการลูกค้า สิ่งเหล่านี้ล้วนเกิดจากความสุข ความพึงพอใจของพนักงาน เพราะ Employer Branding ไม่ได้เกิดแค่จากการทำการตลาดเท่านั้น แต่เกิดจากเรื่องราวของคนทำงานด้วยเช่นกัน ดังนั้นแล้วการสร้าง Employer Branding ที่ดี จึงไม่ใช่แค่เรื่องของการตลาด แต่เป็นเรื่องของการทำให้คนทำงานมีความสุข มีความพึงพอใจ และมีความภูมิใจที่ได้ทำงานร่วมกัน

สุดท้ายแล้วงานจะเดินไปข้างหน้าได้ องค์กรจะเติบโตได้ ก็เพราะคนทำงาน เมื่อคนทำงานมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีความสุข เขาก็พร้อมที่จะทุ่มเท พร้อมที่จะขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้ ดังนั้นแล้ว Employer Branding จึงกลายเป็นสมรภูมิใหม่ของทุกองค์กร ที่ไม่ใช่แค่การแข่งขันทางการตลาด แต่คือการแข่งขันในการสร้างชีวิตคนทำงานที่ดีกว่าที่เคย