‘Calm and Cool’ จะเป็นผู้นำ…ทำงานใหญ่ ใจต้องนิ่ง
คอลัมน์: TalkกะTips
เขียน: พิเชฐ ยิ่งเกียรติคุณ
ตอนจากตำแหน่งระดับผู้จัดการที่ออฟฟิศเก่าเพื่อมารับตำแหน่งผู้อำนวยการที่ออฟฟิศใหม่ มีน้องที่ทำงานเดิมเคยถามผมว่า “ความแตกต่างที่สุดระหว่างสองตำแหน่งนี้คืออะไร?” เรื่องนี้ทำให้ผมคิดตลอด 2 เดือนแรกที่เข้ามารับตำแหน่ง เพราะผมอยู่ในระดับ “ผู้จัดการ” มา 5 ปี สำหรับผมแล้วผมมองว่า Manager นั้นฐานมาจากคำว่า “Manage” ที่แปลว่าการจัดการ งานทุกอย่างนั้นเราจะต้องลงไปกำกับดูแลด้วยตนเอง
แต่ Director นั้นมาจากพื้นของคำว่า “Direct” ที่แปลว่า “กำกับดูแล” แปลว่างานทุกอย่างเราอาจไม่ต้องลงไปจัดการเอง แต่เราต้องวางแพลนทิศทางเพื่อให้คนที่อยู่ในระดับ Manager สามารถดำเนินแผนงานได้ตามเป้าและกรอบที่กำกับไว้ สิ่งที่แตกต่างก็คือ เมื่อนั้นขาของคุณจะลอย ไม่สามารถลงไปแก้ปัญหาด้วยตัวเองทั้งหมด ย่อมมีสิ่งที่เราไม่ถูกใจอยู่บ้างซึ่งหลายครั้งเราต้องใช้ความอดทนอดกลั้นอย่างมาก
ในหนังฮ่องกงแนวเจ้าพ่อมักจะมีคำพูดว่า “จะทำงานใหญ่ ใจต้องนิ่ง” เรื่องนี้พอยิ่งเติบโตก็ยิ่งเรียนรู้ เมื่อเราเริ่มทำงานเราทำงานเต็มที่ อินกับมันสุดๆ บางครั้งเราก็ Outstanding กว่าคนอื่นๆ ขับเคลื่อนไปข้างหน้าด้วยแพสชั่น และเมื่อเราต้องไต่เต้าขึ้นไปในระดับบริหารเราก็ย่อมมีผู้ใต้บังคับบัญชา ที่บางครั้งก็คือเพื่อนร่วมงาน บางคนก็เป็นรุ่นพี่ของเราเสียด้วย สกิลที่ต้องการก็คือการบริหารจัดการความสัมพันธ์ส่วนบุคคล (Interpersonal relationship management) แต่ละคนมีวิธีการใช้งานที่แตกต่างกันไป โดยเฉพาะเด็กรุ่นใหม่เจนY หรือมิลเลนเนียล นอกจากบริหารงานแล้วก็ยังต้อง “บริหารจิตใจ” ของพวกเขาอีกด้วย
แน่นอนว่าไม่ว่าจะบริหารดีแค่ไหนก็ยังคงเป็นปัญหา ซึ่งหลายครั้งถ้าเรายังเป็นคนหนุ่มเลือดร้อน เราก็คงจะระเบิดอารมณ์แบบ “แรงมาแรงกลับไม่โกง” ซึ่งถ้าหากเราทำแบบนั้นหลายครั้งก็อาจจะนำไปสู่จุดสิ้นสุดของความสัมพันธ์และดราม่า108พันเก้าที่จะตามมาได้ คำสอนจากพี่ที่เคยเป็นเจ้านายของผมมาก่อนเตือนสติว่า “จงเป็นผู้ใหญ่ที่ Calm and cool เข้าไว้” ถือเป็นคำสอนที่ดีมากๆ
เราพบว่าสิ่งที่ยากที่สุดก็คือการระงับความโกรธด้วยความสงบนิ่ง และใจเย็นนั้นเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง เพราะการดับไฟที่ร้อนแรงด้วยความคาดหวัง การไม่ได้ดั่งใจ ด้วยความเย็นในตัวในขณะที่เราเองก็ต้องมีเป้าหมายที่จะต้องไปถึงเช่นกันนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะเราต้องพยายามคิดว่า “ไม่เป็นไร มันมีทางแก้ไขเสมอ” และเรียกร้องภาวะผู้นำ (Leadership) ในการแก้ไขปัญหาดังกล่าวให้ผ่านพ้นไปด้วยดี ไม่ว่าจะใช้กำลังและสมองเท่าไหร่ก็ตาม
แต่เมื่อหากเราสามารถผ่านพ้นไปได้ แล้วมองย้อนกลับไปเราจะได้เรียนรู้และวางแผนต่างๆได้รอบคอบมากขึ้น การสอนและการสื่อสารเป็นเรื่องสำคัญ บางครั้งเราอาจต้องคิดย้อนไปเองว่าเอเรายังอยู่ใต้บังคับบัญชาอาจเกิดเรื่องที่ผิดพลาด ที่คนระดับหัวหน้าเป็นคนรับผิดชอบแทนเราเช่นกัน พี่คนเดียวกันบอกผมว่า”นิยามคำว่า ‘หัวหน้า’ นั้น แท้จริงแล้ว หัวต้องคอยคิดแก้ปัญหา และหน้ามีอะไรก้ต้องแบกรับเรื่องแทน ไม่ใช่ว่าหัวคิดแต่จะสั่งส่วนหน้านั้นมีไว้รับเวลาได้รับคำชมเชยเท่านั้น”
เป็นผู้ใหญ่ที่ Calm and Cool นั้นบางทีก็เจ็บปวด แต่ถ้าเราผ่านไปได้มันก็จะทำให้เราแกร่งขึ้นเองเช่นกัน