ชาฮาร์ ให้คำจำกัดความของความสุขว่า “ประสบการณ์ในภาพรวมของ ‘ความพอใจ’ และ ‘ความหมาย’” คนที่มีความสุขจะมีอารมณ์ในแง่บวกและมองว่าชีวิตเปี่ยมไปด้วยความหมาย ไม่ได้เป็นแค่ช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง แต่หมายถึงประสบการณ์ในภาพรวม นั่นหมายถึงว่า เราอาจพบกับความเจ็บปวดแล้วยังมีความสุขในภาพรวมได้
ซึซุกิ โยะชิยุกิ (Suzuki Yoshiyuki) ประธานกรรมการบริหารบริษัท COACH A ผู้เชี่ยวชาญในการจัดอบรมโค้ชให้กับผู้บริหารระดับสูงเพื่อเปลี่ยนแปลงองค์กรให้ดีขึ้น แนะนำ 3 วิธี ที่จะช่วยให้คุณกระตุ้นให้พวกเขากลับมามุ่งมั่นสู่เป้าหมายต่างๆ ร่วมกัน
เมื่อมนุษย์รู้สึกมี ‘ความสุข’ จะมี ‘สารเคมีแห่งความสุข’ หลั่งออกมามากกว่า 100 ชนิด โดยมีสารสำคัญที่เป็นส่วนประกอบของความสุขในชีวิตประจำวัน 3 ชนิด คือ ‘เซโรโทนิน’ (serotonin) ‘ออกซิโตซิน’ (oxytocin) และ ‘โดพามีน’ (dopamine)
คำแนะนำของ เอ็มมา เดอ วิตา (Emma De Vita) บรรณาธิการนิตยสาร Management Today นิตยสารรายสัปดาห์และเว็บไซต์ธุรกิจชั้นนำของสหราชอาณาจักร โดยส่วนแรกที่ต้องรู้จะเกี่ยวข้องกับ ‘ตัวคุณ’ ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับค่านิยมส่วนบุคคบและทักษะที่จำเป็นต้องพัฒนาเพื่อให้กลายเป็นนักบริหารจัดการที่ดี
แนวคิดเรื่องคนกับความสุข 4 รูปแบบ ของ ทาล เบน ชาฮาร์ (Tal Ben-Shahar) ผู้สอนเกี่ยวกับจิตวิทยาความเป็นผู้นำและจิตวิทยาเชิงบวก รวมถึง ‘วิชาความสุข’ ที่มีสอนแค่ในมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (Harvard University) ซึ่งเป็นวิชาที่มีผู้ลงเรียนมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฯ
คุณในฐานะผู้นำ ผู้บริหาร หรือหัวหน้า บางครั้งจำเป็นจะต้องพูดคุยสื่อสารในสถานการณ์การที่ยากที่จะพูดอย่างเลี่ยงไม่ได้ จะมีวิธีการไหนที่สามารถผ่านไปได้ด้วยดี
ในฐานะผู้นำ ผู้บริหาร หรือหัวหน้าต้องให้ความสำคัญกับพลังงานของคนในทีมหรือองค์กร แล้วจะทำอย่างไรหากเห็นว่ามีบางคนกำลังจะหมดพลัง?
คุณอาจสังเกตเห็นว่า มีสมาชิกในทีมบางคนดูสีหน้าเคร่งเครียด เขาอาจกำลังกังวลใจกับอะไรบางอย่าง ต่อไปนี้คือ 3 วิธีการเบื้องต้น เพื่อจะให้คุณทราบถึงต้นตอของปัญหาและสามารถหาทางแก้ไขได้ต่อไป
คุณในฐานะผู้นำ ผู้บริหาร หรือหัวหน้า จำเป็นต้องคอบสนับสนุนช่วยเหลือผู้คนในที่ทำงานเสมอ เพื่อให้งานเดินต่อไปได้อย่างมีประสิทธิภาพและชีวิตผู้คนดีขึ้น แล้วจะสนับสนุนอย่างไร?
เรื่องราวบอกเล่าผ่านชีวิตของ ‘จางหมิ่นจู้’ ผู้ป่วยเป็นโรคซึมเศร้านานกว่า 7 ปี จนหายเป็น ‘คนปกติ’ ในสายตาของสังคม เรียนสาขาจิตวิทยาเพื่อทำความเข้าใจโรคซึมเศร้าของตัวเอง มีแมวคอยเยียวยาจิตใจ ซึ่งได้เขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อต้องการช่วย ‘เพื่อนร่วมโรค’ และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคนี้แก่คนทั่วไป