LOADING

Type to search

10 บทเรียนชีวิต ที่ได้รับจาก ‘Attack On Titan’

10 บทเรียนชีวิต ที่ได้รับจาก ‘Attack On Titan’
Share

สำหรับผู้ที่ติดตามแอนิเมชั่นเรื่อง ‘Attack On Titan’ ก็เดินทางมาถึงจุดจบของเรื่องราวกันแล้ว นอกจากความบันเทิง การ์ตูนเรื่องนี้มอบบทเรียนอะไรให้พวกเรากันบ้างนะ

[ 10 บทเรียนชีวิตจาก Attack On Titan ]

1.อย่ายอมแพ้ถึงแม้ว่าจะต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบาก

“อย่ายอมแพ้ในความยากลำบาก” เป็นคติประจำใจของมังงะโชเน็นหลายๆ เรื่อง แต่ในมุมมองของ Attack On Titan เป็นสิ่งที่สอนพวกเราผ่านเนื้อเรื่องได้เป็นอย่างดี

ครั้งหนึ่ง เอเรน เคยกล่าวไว้ “ถ้าไม่สู้ จะไม่มีวันชนะ” คนที่ยอมแพ้ทั้งๆ ที่ไม่เคยลองสู้เลยไม่มีทางเข้าใจแม้แต่เศษเสี้ยวของคำว่า ‘ชนะ’

ถึงแม้ว่าความยากลำบากภายในเนื้อเรื่องจะหลุดโลกไปหน่อย แต่มันก็เป็นบทเรียนที่สอนไม่ให้เรายอมแพ้ได้เป็นอย่างดี

2.ไม่มีผู้ชนะในสงคราม

“เมื่อเกิดสงครามทุกคนล้วนเป็นฝ่ายแพ้” เป็นบทเรียนที่สอดคล้องกับสังคมความเป็นจริง ถึงแม้ว่าในท้ายที่สุดจะมีฝ่ายหนึ่งที่ประกาศชัยชนะ แต่ชัยชนะที่ได้รับมานั้นต้องแลกมาด้วยความสูญเสียที่ไม่สามารถแทนที่ได้

3.เราเป็นปีศาจในเรื่องเล่าของผู้อื่นเสมอ

“ประวัติศาสตร์มักจะเข้าข้างผู้เขียนเสมอ” Attack On Titan ทำให้เราเห็นความจริงนี้ง่ายขึ้น ยิ่งในบริบทของประเทศไทยยิ่งเข้าใจการเป็นปีศาจในเรื่องเล่าได้อย่างชัดเจน เพราะเราอยู่ในหลักสูตรการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ที่ป้ายสีให้ ‘ประเทศหนึ่ง’ เป็นปีศาจเสมอมา

4.อิสรภาพก็แค่ภาพลวงตา

อาร์มินและเอเรนใฝ่ฝันถึงโลกหลังกำแพงมาตลอด จากการอ่านหนังสือทำให้พวกเขาอยากไปทะเลมากๆ เมื่อถึงเวลานั้นพวกเขากลับมีความสุขที่ได้เห็นทะเลเป็นครั้งแรกเพียงแค่ไม่นาน เพราะสิ่งที่ไกลออกไปข้างหน้า อีกฝั่งของหนึ่งทะเล คือ สงครามที่ไม่มีคำว่าอิสรภาพ

ความหวังของพวกเขาคืออิสรภาพหลังกำแพง แต่ในความเป็นจริงอิสรภาพก็แค่ภาพลวงตาที่จินตนาการขึ้นมาเอง

5.การตั้งคำถามกับทุกเรื่องคือสิ่งที่สำคัญ

“There’s no such thing as truth in this world. That’s our reality. Anyone can become a god or a devil. All it takes is for someone to claim that as the truth.”

“ไม่มีสิ่งจริงแท้บนโลกใบนี้ นั่นคือความจริง ทุกๆ คนสามารถกลายเป็นพระเจ้าหรือปีศาจก็ได้ ขอแค่มีใครสักคนบอกว่านั่นคือความจริง” เป็นคำพูดของครูเกอร์ สายลับผู้เป็นไททันจู่โจม

ไม่ว่าสิ่งที่พวกเขาพูดจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม หากมีคนเชื่อเรื่องโกหกที่พวกเขากำลังพ่นออกไปมากขึ้น คำพูดโกหกเหล่านั้นก็จะกลายเป็นความจริงในความคิดของทุกคน

เช่นเดียวกับ สงคราม ฝ่ายที่ชนะคือฝ่ายที่เขียนหนังสือประวัติศาสตร์ ประเด็นหลักของ Attack On Titan คือสอนให้ตั้งคำถามกับทุกสิ่งว่ามันคือความจริง หรือ คำพูดโป้ปดของใครคนหนึ่ง

6.รู้สึกขอบคุณกับสิ่งเล็กน้อยในชีวิต

ขอบคุณกับสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นถึงแม้มันจะเป็นเรื่องที่เล็กน้อยก็ตาม ครั้งหนึ่งอาร์มินเคยขอบคุณกลุ่มเพื่อนของเขาเพียงเพราะเขามีความสุขกับการได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ดังนั้น เราสามารถขอบคุณกับสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นเล็กน้อยในชีวิตได้ 

7.เชื่อในตัวเองเป็นอันดับแรก

Attack On Titan สอนให้เชื่อตัวเองก่อนที่จะเชื่อคนอื่น เพราะเราเป็นคนเดียวที่พึ่งได้เมื่อประสบกับปัญหา และเราจะไม่เสียใจกับทางเลือกของตัวเอง

ลีไวเคยพูดกับเอเรนว่า “ตัดสินใจซะ ว่าจะเชื่อตัวเอง หรือเชื่อในหน่วยสำรวจ ฉันไม่รู้คำตอบที่ถูกต้องหรอกนะ แต่จงอย่าเสียใจกับการตัดสินใจนั้น”

ดังนั้น เชื่อมั่นใจตัวเองและตัดสินใจ ถึงแม้จะเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาดก็จงอย่าเสียใจกับการตัดสินใจในครั้งนั้น เพราะคุณได้เลือกมันไปแล้ว

8.การสูญเสียตัวตกคือสิ่งที่อันตรายที่สุด

เอเรนเริ่มต้นการเข้าหน่วยสำรวจด้วยความแรงกล้าที่จะจัดการไททันทั้งหมดนอกกำแพงเพื่อสร้างโลกแห่งอิสรภาพให้เพื่อนของเขา แต่เมื่อความจริงปรากฏตัวตนของเอเรนเปลี่ยนไป จากความต้องการในอิสรภาพ กลายมาเป็นความต้องการแก้แค้นกับทุกสิ่งที่สูญเสียไป

การสูญเสียตัวตน หรือ สูญเสียแนวคิดที่ยึดมั่นไว้ สามารถพาคุณด่ำดิ่งลงไปสู่ความมืดมิดที่ไม่อาจจะกลับมาเป็นตัวเองได้อีกต่อไป

9.ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเสมอ

ในโลกของ Attack On Titan ความสงบสุขไม่มีจริง ทุกๆ ครั้งที่เกิดความสงบสุขขึ้น มันจะตามมาด้วยความรุนแรงและความสูญเสียที่ไม่จบสิ้น และวนลูปต่อไปเรื่อยๆ 

ถึงแม้คุณจะเรียนรู้ประวัติศาสตร์มากเพียงใด ก็มีโอกาสที่มันจะเกิดขึ้นซ้ำรอยได้เสมอ เพราะการเรียนรู้ไม่มีอิทธิพลมากพอให้ผู้คนตระหนักกับเหตุการณ์เหล่านั้น

10.โลกไม่ใช่สีขาวหรือดำ

กาบิเป็นตัวละครที่สร้างพัฒนาการและแสดงให้เราเห็นว่าโลกนั้นไม่ได้มีแค่ขาวกับดำ กาบิเป็นตัวละครที่ได้รับเสียงคำวิจารณ์ในแง่ลบอย่างมาก แต่เธอก็เหมือนตัวเองของเราเอเรนมากเช่นกัน ทั้งความมุ่งมั่นและเป้าหมายในชีวิต

จุดเปลี่ยนที่แสดงให้เห็นถึงความเทาในโลก คือ กาบิสังหารชาช่า เพราะคิดว่าเธอคือปีศาจ แต่เมื่อได้พบเจอกับครอบครัวของชาช่า เธอกลับได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ความคิดของเธอเปลี่ยนไป คนที่เธอตีตราว่าเป็นปีศาจกลับมีจิตใจดี กลับกันตัวเองที่เป็นนักรบกลับทำตัวเยี่ยงปีศาจ

เป็นบทเรียนที่หนักอึ้ง เพราะโลกใบนี้ไม่ได้มีเพียงแค่ขาวและดำ หรือ ดีและชั่ว มันจะมีเฉดสีเทาอยู่ระหว่างกลางเสมอ

บางครั้งการรับชมหรืออ่านการ์ตูน ก็ให้บทเรียนชีวิตอันมีค่า มากกว่าความบันเทิงก็เป็นได้ ‘Attack On Titan’ ก็เป็นหนึ่งในเรื่องที่มอบบทเรียนอันล้ำค่า สะท้อนให้เห็นความเป็นจริง และสัจธรรมบนโลกใบนี้

เขียนโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์

Source: https://www.cbr.com/attack-on-titan-life-lessons-learned/#the-world-isn-39-t-black-amp-white

Tags::

You Might also Like