ทำไม Creator Economy กำลังเฟื่องฟู

Share

Social media เป็นส่วนสำคัญของการตลาดในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา และในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ในช่วงการระบาดใหญ่ของ COVID-19 เครื่องมือทางด้านออนไลน์เริ่มพัฒนาตัวเองมีบทบาทสำคัญต่อการอยู่รอดของบุคคลและธุรกิจ เมื่อทุกคนถูกขังอยู่ในบ้าน ธุรกิจต่างๆ จึงต้องย้ายไปใช้แพลตฟอร์มออนไลน์และหาวิธีที่จะสร้างช่องทางรายได้ใหม่ของตัวเองในรูปแบบสินค้าและบริการจริง และแบบเสมือนจริง 

ในช่วงเวลาที่สังคมออฟไลน์เคลื่อนตัวสู่แพลตฟอร์มออนไลน์อย่างเต็มตัว หลายคนได้ผันตัวมาเป็น Creator บนโลกออนไลน์ ซึ่งก่อให้เกิดอาชีพใหม่จนกลายเป็นตัวขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ สร้างรายได้ในรูปใหม่ๆ ให้กับคนรุ่นใหม่ที่หารายได้จากการสร้างคอนเทนต์จากสิ่งที่ตัวเองชื่นชอบ ซึ่งสำหรับใครที่กำลังสงสัยอยู่ว่า Creator Economy คืออะไร มีขั้นตอนการทำงานอย่างไร และเกี่ยวข้องกับการสร้างรายได้ในยุคปัจจุบันอย่างไรบ้าง เราจะพาไปหาคำตอบกันครับ

https://www.antler.co/blog/the-ultimate-guide-to-the-creator-economy

Creator Economy คืออะไร?

ณ เวลานี้ โลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทท่ามกลางการเปลี่ยนผ่านของบริบทเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อพฤติกรรมการใช้ชีวิตของคนในทุกแง่มุม จึงก่อให้เกิดการสร้างรายได้เสริมบนโลกออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ที่ทำให้หลายคนหันมาสร้างสรรค์ผลงานของตัวเองผ่านทางโซเชียลมีเดียกันมากขึ้น

นักสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ เราจะเรียกในนามของ ครีเอเตอร์ หรือนักสร้างสรรค์ผลงาน โดยเครื่องมือออนไลน์และซอฟต์แวร์สร้างสินทรัพย์ดิจิทัลบนแพลตฟอร์มโซเชียลมิเดียต่างๆ เช่น Facebook, YouTube, TikTok, Instagram  ในการเผยแพร่ผลงานให้เป็นที่รู้จัก และสามารถสร้างรายได้จากผู้ชมบนอินเทอร์เน็ต ผ่านรูปแบบการสนับสนุนด้วยรูปแบบเช่น สมัครสมาชิก บริจาค สนับสนุนสินค้าของครีเอเตอร์ รวมถึงการทำ Affiliate marketing ส่งผลต่อการเติบโตของผู้ติดตามและสร้างรายได้ให้กับเหล่าครีเอเตอร์หรือนักสร้างสรรค์ผลงานทางโลกออนไลน์มากขึ้น จนพัฒนากลายเป็น Creator Economy

Creator Economy เริ่มต้นมาได้อย่างไร? 

Creator Economy เริ่มต้นพัฒนามาจาก Gig economy หรือ เศรษฐกิจการจ้างงานแบบเป็นครั้งคราว เช่น พาร์ทไทม์ หรือ ฟรีแลนซ์ และเมื่อเริ่มเติบโตมากขึ้นจึงกลายเป็น เศรษฐกิจของนักสร้างสรรค์หรือ Creator Economy

การเติบโตที่สูงมากขึ้นเป็นผลมาเนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่ของนักสร้างสรรค์ผลงานหรือครีเอเตอร์จำนวนมาก เป็นการจ้างงานเป็นรายครั้งคราว ที่เหมาะสำหรับการทำเป็นรายได้เสริมมากกว่า แต่ในปัจจุบันมีนักสร้างสรรค์จำนวนไม่น้อยที่หันมาทำงานในด้านนี้กันแบบจริงจัง และสามารถทำเงินจากแพชชั่นและความชอบของตัวเองแบบเต็มตัว เนื่องจากเทคโนโลยีการเข้าถึงอินเทอร์เน็ตและแพลตฟอร์มต่างๆ ที่หลากหลายและพัฒนาออกมาได้อย่างตอบโจทย์กับเหล่าครีเอเตอร์ และเครื่องมือในการทำงานของเทคโนโลยี ที่สามารถเข้าถึงได้ในราคาที่จับต้องได้มากขึ้นในปัจจุบัน เช่น โทรศัพท์มือถือ, กล้องถ่ายรูป วิดีโอ, โน๊ตบุ๊ค และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกต่างๆ

ในช่วงเริ่มต้น เศรษฐกิจของนักสร้างสรรค์หรือครีเอเตอร์ส่วนใหญ่ จะประกอบด้วยผู้คนที่มีทักษะเฉพาะทางออนไลน์ โดยมักจะสอนสิ่งต่างๆ บนแพลตฟอร์มอย่าง เช่น Teachable ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มเฉพาะทางเกี่ยวกับเรื่องที่สนใจโดยเฉพาะ แต่เมื่อโซเชียลมีเดียเริ่มมีการพัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Instagram, TikTok และ YouTube เหล่านักสร้างสรรค์มือใหม่จึงผันตัวเองเข้าสู่ในโลกของครีเอเตอร์มากขึ้น

Creator ทำงานอย่างไร ได้เงินจากการสร้างสรรค์ผลงานอย่างไรบ้าง?

ครีเอเตอร์หรือนักสร้างผลงาน ส่วนใหญ่แล้วจะประกอบไปด้วยกลุ่มคนที่ทำงานจากสิ่งที่ชื่นชอบหรือมีทักษะความรู้ความเข้าใจในเรื่องเฉพาะตัว  จุดเริ่มต้นในการสร้างสรรค์ผลงานนี้ หลายคนอาจจะเริ่มต้นจากการทำเป็นงานอดิเรก เช่นการวาดรูป สร้างเพจ เพื่อเผยแพร่ผลงาน ความรู้ต่างๆ ลงบนโลกอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการทำวิดีโอรีวิวสินค้าต่างๆ หรือแม้แต่แสดงความสามารถเช่น การแสดงตลก แสดงบทบาท การเต้น รวมไปถึงการแบ่งปันเรื่องราวความรู้ที่น่าสนใจของตัวเองลงไปสู่แพลตฟอร์มต่างๆ บนโลกออนไลน์ ส่งผลให้เกิดรายได้จากผู้ที่ชื่นชอบผลงานที่เข้ามาชมและสนับสนุนผลงานในรูปแบบต่างๆ ของครีเอเตอร์ รวมถึงการเข้ามาสนับสนุนจากสปอนเซอร์ที่เข้ามาสนับสนุนในการ Tie in หรือ ทำคอนเทนต์ที่เกี่ยวเนื่องกับสินค้าและบริการของผู้สนับสนุน

Influencer กับ Creator เหมือนกันไหม? Influencer มีบทบาทใน Creator Economy อย่างไร?

อย่างที่รู้กันว่า Influencer เปรียบเสมือนบุคคลที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของแบรนด์ต่างๆ  ในขณะที่ Creator คือกลุ่มคนที่สร้างสรรค์เนื้อหาที่น่าสนใจไม่ว่าเป็นผ่านทางวิดีโอ รูปภาพ หรือข้อความต่างๆ บนโซเชียลมิเดียหรือเว็บไซต์ ซึ่งก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า Influencer เป็นอีกหนึ่งในผู้สร้างสรรค์คอนเทนต์หรือเนื้อหาบนโลกออนไลน์ใหม่ๆ และมีบทบาทสำคัญในการสร้างรายได้ใน Creator Economy อีกด้วย

โซเชียลมิเดียมีผลกับ Creator Economy อย่างไรบ้าง?

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการพัฒนาของโซเชียลมีเดียในปัจจุบัน มีส่วนสำคัญในการเติบโตในเศรษฐกิจของครีเอเตอร์เป็นอย่างมาก เพราะหลักการสำคัญของการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในส่วนนี้ คือการนำเสนอผลงานสู่โลกภายนอกให้มีคนเห็นและติดตามมากยิ่งขึ้น แน่นอนว่าโซเชียลมีเดีย เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญ ที่ทำให้เหล่านักสร้างสรรค์เหล่านี้ สามารถเผยแพร่ผลงานของพวกเขาสู่ผู้ชมคนอื่นๆ ได้ทั่วโลก

ในปัจจุบันก็มีแพลตฟอร์มต่างๆ เปิดกว้างให้เหล่าครีเอเตอร์สร้างผลงานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นทั้งรูปภาพ บล็อก การทำคลิปวิดีโอ หรือแม้แต่การไลฟ์สด และมีการแบ่งเงินค่าตอบแทนให้กับเหล่าครีเอเตอร์จากค่าโฆษณา นอกจากนี้เหล่านักสร้างสรรค์ยังสามารถหาเงินได้จากผู้สนับสนุนที่เข้ามาชมได้อีกด้วย

Creator สามารถสร้างรายได้บนโลกออนไลน์ได้อย่างไรบ้าง?

ปัจจุบันนักสร้างสรรค์ผลงานบนโลกออนไลน์ หรือที่เรียกกันว่า Creator นอกจากจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานตัวเองบนโลกออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ แล้ว ยังสามารถได้รับเงินหรือรายได้ส่วนแบ่งจากทางแพลตฟอร์มนั้นๆ อีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น YouTube, Facebook, Instagram หรือเว็บไซต์ในการเขียนบล็อก อย่าง Medium ซึ่งนอกจากส่วนแบ่งเหล่านั้นแล้วนักสร้างสรรค์ผลงานเหล่านี้ยังสามารถรับรายได้เพิ่มเติมจากลูกค้า เจ้าของแบรนด์ต่างๆ ได้อีกด้วย เนื่องจากในปัจจุบันโลกออนไลน์เข้ามามีบทบาทในชีวิตคนเราเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะโซเชียลมิเดีย ซึ่งในสหรัฐอเมริกามีผู้ใช้งานเป็นวัยผู้ใหญ่ ที่ใช้เวลา 38 นาทีต่อวันไปกับ Facebook และกลุ่มเด็กอายุ 16-24 ปีที่ใช้เวลาไปกับโซเชียลมีเดีย 3 ชั่วโมงต่อวัน โดยทั่วไปแล้วผู้ใช้อินเทอร์เน็ตใช้เวลาโดยเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 22 นาทีต่อวันในโซเชียลเน็ตเวิร์ก เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งโอกาสและช่องทางที่จะทำให้นักสร้างสรรค์และแบรนด์ต่างๆ สามารถโปรโมทสินค้าและสร้างรายได้ให้กับพวกเขาได้อย่างมากเลยทีเดียว

แนวโน้มในอนาคตของเศรษฐกิจของเหล่านักสร้างสรรค์

สำหรับแนวโน้มในอนาคตที่สำคัญ ในอนาคตของ Creator Economy หรือเศรษฐกิจของเหล่านักสร้างสรรค์บนโลกออนไลน์ คือ การที่เหล่าครีเตอร์ ได้ขยายช่องทางจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ไปยังช่องทางเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือช่องทางอื่นๆ ของตัวเองที่สามารถสร้างรายได้ของตัวเองได้ยั่งยืนขึ้น รวมถึงมีรูปแบบการสร้างงานในส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นกราฟฟิกดีไซน์ ช่างแต่งหน้า ช่างถ่ายวีดีโอ ช่างภาพ ทีมงานตัดต่อ และงานอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับการผลิตคอนเทนต์

ทำให้เห็นภาพสะท้อนว่าในปัจจุบันเศรษฐกิจของเหล่านักสร้างสรรค์บนโลกออนไลน์ถือว่าได้รับความนิยมอย่างมากและจะเป็นไปในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ต่อไปในอนาคต นับได้ว่าเป็นธุรกิจใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในเวลานี้เลยก็ว่าได้

หลักการสำคัญในการสร้างรายได้ของเหล่าครีเอเตอร์คือ การใช้แพลตฟอร์มเช่น YouTube, Instagram, TikTok, ที่ผู้สร้างเนื้อหาสามารถสร้างรายได้ผ่าน การได้รับส่วนแบ่งรายได้จากการโฆษณา และการสมัครสมาชิกแบบชำระเงินของช่อง รวมไปถึงการขายคอนเทนต์ เนื้อหาบนอินเทอร์เน็ต รวมไปถึงจำหน่ายสินค้า การจัดมีตติ้ง VIP แฟนคลับ นอกจากนี้ส่วนที่สร้างรายได้ใหม่สำคัญโดยที่ไม่ต้องง้อสปอนเซอร์ คือ affiliate marketing นั่นเอง

จากนี้โลกได้เคลื่อนย้ายรูปแบบการทำรายได้ด้วยวิถีทางใหม่ สร้างโอกาสให้คนธรรมดาสามารถมีช่องทางการสร้างรายได้ที่ไม่ได้เกิดจากการผลิตสินค้าเช่นในอดีต แต่สามารถเชื่อมโยงคนธรรมดาให้เข้าถึงผู้คนและใช้ทักษะส่วนตัวในการสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นรายได้รูปแบบใหม่ผ่านโลกดิจิทัลที่ไม่มีพรมแดนเป็นกำแพงอีกต่อไป