‘Future Trends: Forward’ ซีรีส์บทความรับปีใหม่ มองไปข้างหน้าในปี 2023 ทั้งทางธุรกิจ เทคโนโลยี การทำงาน และเหตุการณ์รอบโลก เพื่อคาดการณ์เทรนด์สำคัญที่รออยู่ในอนาคต
หลายคนอาจเข็ดขยาดกับการลงทุนใน ‘คริปโตเคอร์เรนซี’ (cryptocurrency) เพราะข่าวร้ายมากมายที่เกิดขึ้นในปี 2022 แต่สำหรับเหล่าสาวกที่แท้จริงของสินทรัพย์ดิจิทัลประเภทนี้ ปี 2023 คือช่วงเวลาที่ดีเพื่อเรียนรู้ และกลับคืนสู่คุณค่าที่แท้จริงของตัวเอง
สกอตต์ สปีเกล (Scott Speigel) หนึ่งในผู้จัด BitBasel งานศิลปะ-คริปโตประจำปีที่นครไมอามี สหรัฐอเมริกา บอกว่า สิ่งที่บรรดาผู้เชื่อมั่นในคริปโต มักทำกันหลังเกิดวิกฤตก็คือ ‘HODL and BUIDL’
‘HODL’ (เป็นการเล่นคำของ Hold ที่แปลว่า ยึดจับ) คือศัพท์ที่ใช้กันในวงการคริปโต เพื่อกระตุ้นให้ผู้ครอบครองคริปโตในช่วงเวลาที่ราคาทรุดหนัก ‘ถือครองสินทรัพย์ต่อไปยาวๆ’ ขณะที่ ชุมชนชาวคริปโตจะช่วยกัน ‘BUIDL’ หรือ ‘สร้าง’ (build) ความน่าเชื่อถือขึ้นมาใหม่ หรือพูดสั้นๆ ก็คือ อยากบอกให้ ‘จงเชื่อมั่นและศรัทธา’
‘ฤดูหนาว’ ของคริปโต
อีกศัพท์ที่ใช้ในวงการคริปโตมาช้านานก็คือคำว่า ‘ฤดูหนาวคริปโต’ (crypto winter) ซึ่งบรรยายถึงช่วงเวลาที่ราคาทรุดหนักเป็นขาลง
ทุกครั้งที่เป็นช่วงขาลง บรรดานักเก็งกำไรที่เข้ามาเล่นคริปโตตามกระแสจะพากันถอนตัวออกไป เหลือไว้เพียงผู้ที่เชื่อมั่นด้วยใจจริง ซึ่งส่วนใหญ่ก็คือผู้สร้างแอปพลิเคชันและเทคโนโลยีบล็อคเชน ที่เป็นรากฐานของการทำงานในระบบคริปโต
Ethereum ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบล็อกเชนที่มีมูลค่าสูงที่สุดอันดับสองของโลก ก็เปิดตัวในช่วง ‘ฤดูหนาว’ ครั้งแรกของคริปโต หลังการเก็งกำไรทำให้ราคาพุ่งสูงจนเป็นฟองสบู่ในปี 2014
ส่วน ‘ฤดูหนาว’ ครั้งต่อมาในปี 2017 ก่อให้เกิดการสร้างแอปพลิเคชันการเงินไร้ตัวกลาง (DeFi) ตามมามากมาย
การเข้าสู่ ‘ฤดูหนาว’ รอบใหม่ตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นมา หากจะมีอะไรดีๆ เกิดขึ้น ก็คงเป็นการก่อร่างสร้างตัวขึ้นมาใหม่ให้แข็งแกร่งกว่าเก่าของระบบการเงินไร้ตัวกลางอย่างคริปโต เนื่องจากเหล่าสาวกตัวจริงล้วนมีประสบการณ์กันมาแล้ว จากช่วงขาลงครั้งใหญ่อย่างน้อย 2 รอบก่อนหน้านี้
อลิซ ฟุลวูด (Alice Fulwood) นักข่าวของ The Economist ประจำย่านการเงิน ‘วอลล์ สตรีท’ ในสหรัฐฯ ระบุว่า สัญญาณการค่อยๆ ก่อร่างสร้างตัวกลับมา สังเกตได้จากการระดมทุนได้หลายพันล้านดอลลาร์มาช่วยประคองธุรกิจของผู้ก่อตั้งคริปโตหลายเจ้าในช่วงที่ราคาสินทรัพย์ดิจิทัลถูกลง
อย่างไรก็ตาม มูลค่าคริปโตทั้งตลาดในปัจจุบันยังคงอยู่ที่ระดับสูงกว่าช่วงปลายปี 2020 แม้ FTX ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตรายใหญ่จะล้มละลายลงไปในเดือนพฤศจิกายน 2022 แต่แพลตฟอร์มอื่นๆ อย่าง Binance และ Coinbase ดูน่าจะเอาตัวรอดได้ และไม่ล้มหายตายจากไปไหนใน ‘ฤดูหนาว’ รอบล่าสุด
‘ฤดูหนาว’ สิ้นสุดเมื่อไร
หากถามว่า แล้วราคาเหรียญคริปโต เช่น bitcoin หรือ ether จะเป็นอย่างไรต่อไป?
ผู้เชี่ยวชาญของ The Economist ตอบว่า หากอัตราเงินเฟ้อปรับตัวลดลงและธนาคารกลางของสหรัฐฯ ผ่อนคลายความร้อนแรงในการขึ้นดอกเบี้ย อาจช่วยให้ราคาคริปโตดีดกลับมาดีขึ้นได้อีกครั้ง เนื่องจาก ปี 2022 ที่ผ่านมา พบว่า ราคาคริปโตและดัชนีหุ้นมักแปรผันไปในทิศทางเดียวกันอย่างใกล้ชิด
แต่กระนั้น ยิ่งคริปโตเติบโตมากขึ้นเท่าไร มันยิ่งยากที่จะจินตนาการถึงราคาที่จะกลับมาบูมอีกครั้งเพราะกระแสความดังของระบบการเงินยุคใหม่นี้เพียงอย่างเดียว
“ทุกคนเน้นย้ำไปที่การส่งมอบระบบที่ควรจะเป็นจริงๆ” นักพัฒนาคริปโตผู้หนึ่งในเมืองไมอามี กล่าวกับ The Economist
ระบบที่ว่า คือ การทำคริปโตให้เป็นทางเลือกใหม่ทางการเงินของโลก ซึ่งไร้ตัวกลางในการกำกับควบคุมดูแล ไร้พรมแดน และมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ ไม่ใช่เน้นที่การเก็งกำไร หรือการเล่นแร่แปรธาตุทางการเงินเพื่อต้มตุ๋นหลอกหลวง
หากการก่อร้างสร้างตัวขึ้นใหม่ที่ชาวคริปโตเรียกว่า ‘BUIDL’ ในช่วงขาลงนี้ ไม่สามารถส่งมอบคุณค่าที่แท้จริงตามที่ว่าได้ …’ฤดูหนาว’ คราวนี้ก็อาจจะอยู่ยาวต่อไป โดยไม่รู้จะสิ้นสุดเมื่อใดเช่นกัน
เขียนโดย Phanuwat Auaudomchaisakun
Sources: https://bit.ly/3izluWI