‘centralwOrld Offices’ โฉมใหม่ Workplace ที่รวม ‘ชีวิต’ และ ‘การทำงาน’ เข้าด้วยกันแบบไร้รอยต่อ

“ไม่อยากไปทำงานเลย..” เชื่อว่านี่คงเป็นความคิดของหลายคนเมื่อเช้าวันจันทร์มาถึงหรือช่วงวันหยุดยาวได้สิ้นสุดลง

สาเหตุมาจากหลายปัจจัย ทั้งเบื่อหน่ายกับความจำเจรวมถึงต้องเหนื่อยจากการเดินทางไปกลับในแต่ละวัน หรือความหงุดหงิดจากการ ที่ออฟฟิศไม่มีอุปกรณ์ทันสมัยที่เพียงพอสำหรับใช้ทำงาน 

ในตอนนี้ คนทำงานยุคใหม่กำลังมองหาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีในที่ทำงานกันเป็นอันดับต้นๆ โดยรายงานจาก Workplace by Meta พบว่า 58% ของพนักงานชาวอังกฤษจะลาออกหากองค์กรไม่ใส่ใจเรื่องความเป็นอยู่ของพวกเขา ทำให้หลายองค์กรได้เริ่มใส่ใจสภาพแวดล้อม และความเป็นอยู่ในที่ทำงานมากขึ้น เช่น การอนุญาตให้พนักงาน Work from Anywhere เพื่อเพิ่มอิสระในการทำงาน และส่งเสริมให้มี Work Life Balance ที่ดี

เพื่อตอบรับกับรูปแบบการทำงานที่เปลี่ยนไป เซ็นทรัลพัฒนาจึงปรับโฉมอาคารสำนักงาน centralwOrld Offices ใหม่ เพื่อส่งเสริมรูปแบบการทำงานทุกประเภท ให้ตอบโจทย์ lifestyle การทำงานที่เปลี่ยนไป ซึ่งต้องบอกเลยว่าการปรับโฉม และการเพิ่มบริการใหม่ในครั้งนี้จะเปลี่ยนภาพจำเดิมๆ ของที่ทำงานให้กลายเป็น 1 ใน workplace ที่ไม่ใช่แค่น่านั่งทำงาน แต่น่าอาศัยอยู่เลยทีเดียว

วันนี้ Future Trends จึงอยากพาไปดูกันว่าการปรับโฉมในครั้งนี้ และการเพิ่มพื้นที่ใหม่อย่าง ‘at work’ จะตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านอาคารสำนักงานในพื้นที่ Bangkok CBD ของเซ็นทรัลพัฒนาได้มากขนาดไหน ติดตามต่อในหน้าถัดไปได้เลย!

‘ชีวิตที่ดีในที่ทำงาน’ คือสิ่งที่พนักงานคาดหวังจากองค์กรเป็นอันดับแรก

จากรายงานของ Deloitte ในปี 2021 พบว่าคนรุ่นใหม่อย่างชาว Millennial กว่า 44% และ Gen-Z กว่า 49% ได้ให้ข้อมูลว่าพวกเขาอยากทำงานกับองค์กรที่ให้ความสำคัญกับความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานเป็นอันดับแรก 

เซ็นทรัลพัฒนา จึงได้นำหลัก Human Centric Approach มาใช้ในการออกแบบ ‘centralwOrld Offices’ และตั้งใจทำให้ออฟฟิศแห่งนี้เป็น Center of Life โดยการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางมากมาย และปรับปรุงพื้นที่ร้านค้า Retail ภายในอาคารสำนักงานให้มีความครบครันมากขึ้น

นอกจากนี้ เซ็นทรัลพัฒนาได้นำเทคโนโลยีมาเสริมระบบรักษาความปลอดภัย เช่น การยืนยันตัวตนก่อนเข้าใช้บริการ โดยเราสามารถใช้บัตรประชาชนแลก QR Code เพื่อเข้าพื้นที่ได้ นอกจากนี้ยังมีเทคโนโลยีจดจำใบหน้า Biometric Facial Recognition ที่ช่วยป้องกันคนนอกเข้ามาในพื้นที่ เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของพนักงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่หลายองค์กรอาจไม่เคยรู้ แต่จากการศึกษาของ Advisoryexcellence ได้พบว่า 85% ของพนักงานกลุ่มตัวอย่างเคยบ่นเรื่องการขาดความเป็นส่วนตัวในที่ทำงาน

ชมการปรับโฉมครั้งยิ่งใหญ่ กับการเพิ่ม Co-working space ‘at work’

มาดูกันว่า มีอะไรใน ‘at work’ บ้าง

1. Co-working space & Meeting Room: พื้นที่ทำงานในโซนต่างๆ รวมถึงห้องประชุม 

แนวคิดของพื้นที่ทำงานแห่งนี้ คือการตอบโจทย์ความต้องการของคนทำงานทุกคน และรองรับการทำงานได้ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะนั่งทำงานคนเดียว หรือประชุมทีม ยกตัวอย่างเช่น ‘Working Pod’ ที่สามารถตัดเสียงรบกวนภายนอกออกไปได้ ทำให้เราโฟกัสกับงานได้อย่างเต็มที่ 

นอกจากนี้ ภายในพื้นที่ยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก พร้อมอุปกรณ์เทคโนโลยีทันสมัยคอยบริการอย่างครบครัน 

2. Event space: พื้นที่อเนกประสงค์สำหรับจัดงานอีเวนต์ทุกรูปแบบ 

จะเป็นงานสัมนา, Workshop, Townhall, Art Exhibitions หรืออีเวนต์ไหนๆ ก็มีพื้นที่เพียงพอ และมีอุปกรณ์มากมายที่พร้อมจะซัพพอร์ตการจัดงานทุกรูปแบบ โดยสามารถรองรับผู้เข้าร่วมงานได้สูงสุดถึง 150 คนเลยทีเดียว

ออฟฟิศที่คิดมากกว่าแค่เรื่องการทำงาน พร้อมยกระดับไลฟ์สไตล์ในทุกมิติ

เมื่อตั้งเป้าว่าจะสร้างชีวิตให้กับพนักงาน จะส่งเสริมการทำงานอย่างเดียวคงไม่ได้ เพราะชีวิตเราไม่ได้มีแค่เรื่องการทำงานอย่างเดียว

สำหรับใครที่รักสุขภาพเป็นสายออกกำลังกาย ทาง centralwOrld Offices ได้เตรียมห้องอาบน้ำที่มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกครบครัน พร้อมล็อกเกอร์ส่วนตัว รองรับคนที่ชอบออกกำลังกาย ไม่ว่าจะเป็นเวลาไหนก็แล้วแต่ ให้ทุกคนได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตัวเองต้องการ

หรือหากใครเป็นคุณแม่ที่ต้องพาเบบี๋มานั่งทำงานด้วย หรือต้องการปั๊มน้ำนม ทาง centralwOrld Offices ก็มีห้องให้นมบุตร คอยบริการเช่นกัน

นอกจากนี้ ใครที่ชอบขี่จักรยาน ทั้งแบบธรรมดา หรือแบบไฟฟ้า ไปจนถึงสกูตเตอร์ไปกลับจากที่ทำงาน centralwOrld Offices ได้เตรียมที่จอด พร้อมที่ชาร์จไฟฟ้าไว้ยังชั้น B1 ของอาคารสำนักงานด้วย

เพราะที่นี่คือ ‘Retail-led mixed-use’ 

‘Work & Life’ จึงเชื่อมต่อกันได้แบบไร้รอยต่อ 

สำหรับการปรับโฉม centralwOrld Offices ในครั้งนี้ คือการตอกย้ำความเป็นผู้นำในตลาด ‘Retail led mixed-use’ โดยตั้งเป้าหมายให้ออฟฟิศแห่งนี้สามารถส่งเสริมการทำงานได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม และมีทางเลือกสำหรับทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคน

ตั้งแต่การเพิ่มความหลากหลายของร้านค้าในตัวอาคารให้มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ ไปจนถึงคาเฟ่บรรยากาศดีๆ สำหรับพักผ่อน หรือถ่ายรูปสวยๆ กัน ที่คิดมาแล้วว่าตอบโจทย์คนทำงานได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ เรายังสามารถเดินชอปปิงที่ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ หรือปาร์ตี้สังสรรค์กับเพื่อนที่ Groove ก่อนกลับบ้านหลังเลิกงานก็ได้ สำหรับสายสุขภาพสามารถไปออกกำลังกายที่ฟิตเนส หรือแวะซื้อวัตถุดิบสำหรับทำมื้ออาหารคลีนที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตได้ ทั้งหมดนี้ คือชีวิตที่พนักงานทุกคนเลือกได้เอง

และด้วยความที่ ‘centralwOrld Offices’ ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยขนส่งสาธารณะหลายรูปแบบ ทำให้การเดินทางมาที่นี่สะดวกสบายสุดๆ ไม่ว่าจะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีชิดลม และสถานีสยามก็อยู่ไม่ไกล ทำให้ที่แห่งนี้สามารถเชื่อมต่อกับทุกที่ รวมถึงเข้าถึงทุกคนได้อย่างง่ายดาย

ควบคุมทุกสิ่งอย่างง่ายดาย บนแอปฯ centralwOrld Offices’ บนมือถือของคุณ

เมื่อเทคโนโลยีดิจิทัลทำให้ชีวิตเราง่าย และรวดเร็วมากขึ้น ทางเซ็นทรัลพัฒนาจึงได้พัฒนาแอปพลิเคชันที่ชื่อว่า ‘centralwOrld Offices’ ที่จะช่วยให้ทุกคนสามารถเข้าถึงบริการอันหลากหลายได้อย่างง่ายดาย แถมยังมีสิทธิพิเศษ รวมไปถึงบริการทางไลฟ์สไตล์มากมายสำหรับทุกคน โดยความสามารถของแอปพลิเคชัน centralwOrld Offices ได้แก่

– สิทธิพิเศษเข้าร่วมกิจกรรม และส่วนลด จากศูนย์การค้า centralwOrld

– รับข้อมูลข่าวสาร กิจกรรมต่างๆ ของทางอาคารได้โดยตรง

– จองบริการ หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวก ในอาคาร เช่น Power Bank, ร่ม, Wheelchair, Taxi

– จองห้องประชุม at work ด้วยตนเอง

ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านอสังหาริมทรัพย์ สู่เป้าหมาย ‘ที่ทำงานของทุกคน’

ตลอดกว่า 40 ปีที่ผ่านมา เรามักจำภาพเซ็นทรัลพัฒนาจากการเป็นผู้บริหารศูนย์การค้าเซ็นทรัลทั่วประเทศ แต่การปรับเปลี่ยนยกเครื่อง ‘centralwOrld Offices’ ในครั้งนี้ ทำให้เราเห็นแล้วว่า เซ็นทรัลพัฒนามีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารอาคารสำนักงาน อย่างแข็งแกร่งด้วยเช่นกัน 

สำหรับก้าวต่อไปของเซ็นทรัลพัฒนา คือการเป็น ‘The Best Offices Space’ ของทั้งบริษัทต่างๆ และพนักงานผู้ใช้งานทุกคนในอนาคตต่อไป 

Source: https://bit.ly/3QkXXp4

https://bit.ly/3WNgWuM