‘ฟุตบอลโลก 2022’ (FIFA World Cup 2022) ปิดฉากลงอย่างเป็นทางการพร้อมการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ ระหว่างขุนพล ‘ฟ้าขาว’ อาร์เจนตินา กับแชมป์เก่าอย่าง ‘ฝรั่งเศส’ โดยจุดร่วมของการแข่งขันครั้งนี้ คือการหมายมั่นที่จะคว้าแชมป์สมัยที่ 3 กลับบ้านให้ได้ของทั้งคู่
หลังจากการแข่งขันดำเนินไปอย่าง ‘บีบคั้นหัวใจ’ มีหลายจังหวะที่ทำให้เหล่าแฟนบอลหายใจไม่ทั่วท้อง ชัยชนะก็ตกเป็นของ ‘อาร์เจนตินา’ ที่สามารถเฉือนเอาชนะการดวลจุดโทษไปได้อย่างสวยงาม ถือเป็นชัยชนะที่อาร์เจนตินารอคอยมานานกว่า 36 ปี นับจากการคว้าแชมป์สมัยที่ 2 ในปี 1986
นอกจากชัยชนะครั้งนี้ จะนำความยินดีปรีดามาสู่ประชากรชาวอาร์เจนตินาอย่างท่วมท้น จนผู้คนนับแสนต่างพากันมาเฉลิมฉลองใจกลางกรุงบัวโนสไอเรส (Buenos Aires) เมืองหลวงของอาร์เจนตินา ยังทำให้ชื่อของประเทศโดดเด่นบนพื้นที่สื่อราวกับมีแสงสปอตไลต์ส่องผ่านตลอดเวลา
แล้วแสงสปอตไลต์จะแปรเปลี่ยนเป็นแสงนำทางพา ‘อาร์เจนตินา’ ข้ามผ่านฤดูอันหนาวเหน็บไปสู่ ‘ฤดูใหม่’ ที่สดใสได้หรือไม่? Future Trends จะชวนทุกคนมาวิเคราะห์อนาคตของอาร์เจนตินา ในวันที่มีถ้วยรางวัลการันตีตำแหน่งแชมป์อยู่ในมือไปพร้อมๆ กัน
ชัยชนะของ = ใบเบิกทางการก้าวสู่เวทีโลก
ต้องยอมรับว่า การที่แต่ละประเทศส่งตัวแทนทีมชาติเข้าแข่งขันกีฬาระดับโลก ไม่ได้มีแค่ประเด็นการแสดงความสามารถในฐานะตัวแทนของประเทศเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึง ‘ความพร้อม’ ในเวทีโลกที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังผลงานของนักกีฬาด้วย
ดังนั้น ยิ่งนักกีฬาทำผลงานได้ดีมากเท่าไร ยิ่งแสดงให้เห็นถึงการอัดฉีดงบประมาณและทรัพยากรในการพัฒนาศักยภาพของนักกีฬามากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้ภาพลักษณ์ของประเทศเต็มไปด้วยสิ่งดีๆ โดยเฉพาะการส่งเสริมศักยภาพของประชากรในประเทศผ่านการใช้งบประมาณอย่างสร้างสรรค์
งานวิจัยของ ‘มาร์โค เมลโล’ (Marco Mello) จากมหาวิทยาลัยเซอร์รีย์ (University of Surrey) ในสหราชอาณาจักร ระบุว่า ประเทศที่เป็นแชมป์ฟุตบอลโลกมีโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจ 0.25 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 2 ไตรมาสหลังการแข่งขัน และที่สำคัญ จะได้รับอานิสงส์ด้านการส่งออกมากขึ้น เพราะชื่อเสียงของประเทศเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
ตัวอย่างเช่น ยอดขายในต่างประเทศของบราซิลเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญหลังจากคว้าแชมป์โลกในปี 2002 มาครอง
ชัยชนะที่มาในยุค ‘ข้าวยากหมากแพง’
ถึงแม้ชัยชนะจากการแข่งขันฟุตบอลโลกจะเป็นใบเบิกทางการก้าวสู่เวทีโลกที่ทรงพลัง แต่ก็ไม่ใช่ทุกประเทศจะสามารถดึงพลังของชัยชนะมาใช้ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อต้องเผชิญกับความท้าทายที่มีอยู่เป็นทุนเดิมในประเทศ
ซึ่งความท้าทายที่อาร์เจนตินากำลังเผชิญอยู่ในตอนนี้คือ ‘ภาวะเงินเฟ้อ’ ที่พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์
ปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อของอาร์เจนตินาอยู่ที่ 92.4 เปอร์เซ็นต์ (เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2021) ถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก รวมถึงยังมีการคาดการณ์ด้วยว่า ช่วงสิ้นปี 2022 ตัวเลขเงินเฟ้อมีโอกาสแตะ 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้สถานการณ์ทางเศรษฐกิจมีความตึงเครียดสูง และประชาชนกำลังใช้ชีวิตในยุค ‘ข้าวยากหมากแพง’ อย่างแท้จริง
ดังนั้น ชัยชนะจากการแข่งขันฟุตบอลโลกย่อมเป็น ‘ความหวังใหม่’ ของประชากรทุกภาคส่วนในอาร์เจนตินา โดยเฉพาะภาครัฐที่ต้องการผลักดันให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจ และพาประเทศไปสู่จุดมุ่งหมายที่ดีกว่า แต่ต้องยอมรับว่า ปัญหาทางเศรษฐกิจนั้นรายล้อมไปด้วยปัจจัยมากมาย และไม่สามารถแก้ได้ด้วย ‘ชัยชนะ’ ที่ได้รับมาเพียงอย่างเดียว
หากโชคร้ายกว่านั้น ปัญหาทางเศรษฐกิจที่เป็นความท้าทายภายในประเทศอาจบดบังคุณค่าของชัยชนะที่ได้รับมาก็เป็นได้ เช่นเดียวกับ ‘สเปน’ แชมป์เก่าปี 2010 ที่ต้องเผชิญกับ ‘วิกฤตหนี้สาธารณะ’ ในเวลานั้น
แล้วทุกคนคิดว่า ชัยชนะของ ‘อาร์เจนตินา’ จะพาประเทศเข้าสู่ ‘ฤดูใหม่’ ที่สดใสกว่าเดิมหรือไม่?
Sources: https://bit.ly/3Wp0kJT