ทำความรู้จัก Business Manager เครื่องมือใหม่ช่วยแบรนด์ทำการตลาดบน LINE ได้แม่นยำและครอบคลุมด้วย Data ในยุคที่ Data คือขุมทรัพย์
ปัจจุบัน Data เปรียบเสมือนขุมทรัพย์ทางการตลาด หมดยุคทำการตลาดแบบสุ่มเดา ด้วยไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่เข้ามาอยู่บนโลกออนไลน์มากขึ้น ทำให้ Data มีบทบาทมากขึ้นในการขับเคลื่อนการตลาด โดยช่วยให้แบรนด์และนักการตลาดกำหนดกลยุทธ์ได้อย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้น
หลากหลายมิติที่ Data สามารถตอบโจทย์ธุรกิจให้ในยุคนี้ได้ แต่วันนี้ Future Trends เราอยากหยิบยกเอาแง่มุมสำคัญ 3 เรื่องที่ทำให้ Data เข้ามาตอบโจทย์การตลาด
1. ใช้ทำความเข้าใจพฤติกรรมของลูกค้า
Data จะทำให้คุณเห็นถึงพฤติกรรมของลูกค้า ไม่ว่าจะเป็นวิธีการการจับจ่าย รูปแบบการตัดสินใจซื้อ หรือปัจจัยที่ทำให้พวกเขาเลือกซื้อ โดยข้อมูลที่บ่งบอกถึงสิ่งเหล่านี้จะช่วยให้แบรนด์ออกแบบการสื่อสารได้อย่างตรงใจและประสิทธิมากยิ่งขึ้น ยิ่งไปกว่านี้ ในมุมการพัฒนาสินค้า Data จะช่วยให้เห็นฟีดแบก และบอกได้ว่าควรพัฒนาสินค้าและบริการไปในทิศทางไหน
2. ใช้ตอบสนองความต้องการแบบ Personalization
ผู้บริโภคยุคนี้คาดหวังต่อแบรนด์สูงขึ้น จากการสำรวจของ Accenture พบว่า 91% ของผู้บริโภค มีแนวโน้มที่จะซื้อสินค้าจากแบรนด์ที่จดจำ พร้อมทั้งให้ข้อเสนอและคำแนะนำต่อพวกเขาได้ ดังนั้น การที่แบรนด์จะจดจำและเสิร์ฟความต้องการได้ตรงใจลูกค้าแบบรายคน จึงต้องใช้ Data เข้ามาช่วยตอบโจทย์ข้อนี้
3. ใช้ฐานข้อมูลในรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้า
การเก็บรวบรวมข้อมูลที่เป็น First Party Data ไว้อย่างเป็นระบบ จะช่วยให้คุณรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าๆ ได้ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความไปอัปเดตโปรโมชันใหม่ๆ หรือการให้ส่วนลดพิเศษ สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และเกิดความเป็นความเหนี่ยวแน่น หรือ Brand Loyalty ในที่สุด
อย่างที่เล่าไปว่าทุกวันนี้การผู้คนใช้ชีวิตบนโลกดิจิทัลมากขึ้น ทำให้การเข้าถึงข้อมูลไม่ใช้เรื่องยากอีกต่อไป และหนึ่งในแพลตฟอร์มใกล้ตัวที่หลายๆ ร้านค้าไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ต่างใช้กันเป็นประจำอย่าง LINE ที่นี้ก็เป็นหนึ่งในแหล่งรวม Data ที่เป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ‘LINE แหล่งรวม Data ใกล้ตัว’
ตั้งแต่ที่ลูกค้าทักเข้ามา ไปจนกระทั่งปิดการขาย ข้อมูลระหว่างนี้เป็นประโยชน์มากกับธุรกิจของคุณ และเพื่อให้แบรนด์สามารถนำข้อมูลนี้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้อย่างสูงสุด LINE จึงได้พัฒนา ‘Business Manager’ เพื่อเป็นโซลูชันในการจัดการข้อมูล ให้แบรนด์สามารถเชื่อมโยงข้อมูลทางธุรกิจระหว่าง LINE Ecosystem มาใช้ประโยชน์ได้ และยังรองรับกฎหมาย PDPA ทำให้นำข้อมูลมาใช้ได้อย่างปลอดภัยหายห่วง
วันนี้เราอยากชวนทุกคนไปดูกันว่า เครื่องมือ Business Manager นี้จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการทำการตลาดและให้ผลลัพธ์กับธุรกิจอย่างไรบ้าง? ไปดูกัน!
พาดู 4 ตัวอย่าง ร้านค้า/แบรนด์บน LINE ใช้ Data ทำการตลาดได้อย่างไรบ้าง
เครื่องมือ Business Manager ของ LINE จะช่วยปลดล็อกให้แบรนด์หรือร้านค้าสามารถเชื่อมต่อและแชร์ข้อมูลที่เกิดขึ้นใน 3 ช่องทางของ LINE ได้แก่ LINE OA (LINE Official Account), LAP (LINE Ads Platform) และ LINE Smart Channel ได้ทั้งหมด มาดูกันว่าแบรนด์จะสามารถนำ Business Manager มาใช้ ในการทำการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างไรกันบ้าง
1. เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด
ในยุคที่ค่าโฆษณาแพงขึ้น เรื่องความแม่นยำในการยิงโฆษณาจึงสำคัญ ซึ่ง Business Manager ก็ได้เข้ามาตอบโจทย์นี้ ด้วยความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง LAP และ LINE OA และ LINE Smart Channel ได้ ทำให้สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายไปยังลูกค้าที่เคยเพิ่มเพื่อนบน LINE OA คนที่เคยเข้ามาอ่านข้อความบรอดแคสต์ เคยคลิกดูรูปภาพ หรือเข้ามาชมวิดีโอสินค้าได้ ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ถือว่ามีความสนใจและมีแนวโน้มจะตัดสินใจซื้ออยู่แล้ว และการยิงโฆษณาไปยังคนเหล่านี้ ก็ช่วยให้สินค้าของคุณเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกลุ่มมากขึ้น
2. ชวนลูกค้าที่เคยหายไปให้กลับมาซื้อใหม่
ลูกค้าที่เคยซื้อของ แต่ตอนนี้เงียบไป คุณสามารถ Retargeting ชวนเขากลับมาซื้ออีกครั้งได้ ตัวอย่างเช่น การเชื่อมโยงข้อมูลของผู้ใช้ที่เคย Engage กับ LINE OA หรือ LINE Smart Channel ให้มาเป็นกลุ่มเป้าหมายในการยิงโฆษณาผ่าน LAP เพื่อกระตุ้นให้เกิดความสนใจและกลับมาซื้อซ้ำ
หรือกรณีที่ลูกค้าที่เคยเพิ่มเพื่อน LINE OA ของแบรนด์เรา แต่ตอนนี้บล็อกไปแล้ว คุณก็สามารถยิงโฆษณาโปรโมชันใหม่ๆ ไปบน LAP เพื่อชวนให้เขากลับมาสนใจอีกครั้งได้ แม้ว่าจะบล็อก LINE OA ไปแต่พื้นที่บน LAP นี้ คุณก็สามารถสื่อสารกับเขาได้ และหากโปรโมชันนั้นโดนใจ ก็ทำให้เขากลับมาติดตามคุณได้อีกครั้ง
3. สร้าง LINE Tag มาช่วยติดตามพฤติกรรมลูกค้าบนเว็บไซต์ นำมาเป็นกลุ่มเป้าหมายร่วมได้
นอกจากนำเอาข้อมูลพฤติกรรมบน LINE OA, LAP และ LINE Smart Channel แล้ว สำหรับแบรนด์ที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง คุณสามารถใช้ประโยชน์จาก LINE Tag ที่สร้างบน Business Manager มาเป็นเครื่องมือที่ช่วยแทร็กพฤติกรรมของผู้เข้าชมเว็บไซต์ได้ว่า เขามีแอคชันอย่างไรหรือเข้ามาทำอะไรบ้างบนเว็บไซต์ของแบรนด์คุณ ข้อมูลพฤติกรรมที่เก็บได้จะนำมาเป็นข้อมูลให้คุณสามารถยิงโฆษณาผ่าน LAP หรือบอรดแคสต์โปรโมชันผ่าน LINE OA ไปยังลูกค้าที่สนใจได้เช่นกัน
4. ช่วยขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ
นอกจากการสร้างสัมพันธ์กับลูกค้าเก่าอย่างสม่ำเสมอ การค้นหาลูกค้าหน้าใหม่ๆ ก็สำคัญ และด้วย Business Manager ที่เชื่อมต่อกับข้อมูลบน LAP กับ LINE OA, LINE Smart Channel หรือบนเว็บไซต์ (ผ่าน LINE Tag) ได้ ทำให้คุณสามารถนำข้อมูลมาสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมาย Lookalike หรือคนที่มีพฤติกรรมคล้ายกับลูกค้าของคุณ และเลือกยิงโฆษณาไปก็จะช่วยสร้างโอกาสในการเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ๆ ให้กับธุรกิจได้อีกด้วย
ซึ่งจากทั้ง 4 ข้อนี้ คุณจะเห็นได้เลยว่า เมื่อมีข้อมูล และข้อมูลทั้งหมดสามารถเชื่อมโยงกันได้แบบนี้ จะช่วยให้การตลาดของคุณมีโอกาสในการเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น โดยทุกๆ การยิงโฆษณา หรือการโปรโมตบนทุกช่องทางใน LINE ที่มาจากการจัดการข้อมูลด้วย Business Manager นี้จะทำให้ทุกอย่างมีทิศทางที่ชัดเจนและตรงจุดมากยิ่งขึ้น
ประโยชน์ 3 ต่อ ที่ธุกิจจะได้รับ จากการใช้ Business Manager
หลังจากได้เห็นตัวอย่างกันแล้วว่า Business Manager มีส่วนช่วยในการตลาดของคุณอย่างไร ต่อไปเราจะพามาขมวดปม สรุปประโยชน์ที่จะได้รับถึง 3 ต่อกันเลย
ต่อที่ 1 ได้ตัวช่วยในการจัดการข้อมูล
ในยุคที่มีข้อมูลเต็มไปหมด เรื่องปริมาณอาจไม่ใช่ปัญหา แต่ที่สำคัญคือการจัดการข้อมูล เพื่อให้เอามาใช้ได้ง่าย ซึ่ง Business Manager ช่วยเรื่องนี้ได้ด้วยการเป็นตัวกลาง ให้คุณสามารถอัปโหลด First Party Data อย่าง User ID, Email หรือเบอร์โทรศัพท์ ลงบนที่นี่ที่เดียว จากนั้น แบรนด์ก็สามารถเลือกกลุ่มข้อมูลที่ต้องการให้กลายเป็นกลุ่มเป้าหมาย แชร์ไปยัง LINE OA, LAP และ LINE Smart Channel ได้ทั้ง 3 ช่องทางได้เลยตามต้องการ
ต่อที่ 2 ช่วยทำ Cross Data ระหว่างบัญชี
สำหรับแบรนด์ที่มีหลายบัญชี เช่น มีบัญชีหลัก และบัญชี LINE OA แยกย่อยของแต่ละสาขา หรือเป็นองค์กรที่มีหลายแบรนด์ และแต่ละแบรนด์มีบัญชี LINE OA แยกกัน ด้วยความสามารถในการ Cross Data เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างบัญชีได้ ทำให้ธุรกิจสามารถแชร์ฐานข้อมูลลูกค้าไปใช้ได้อย่างทั่วกัน
หรืออีกกรณี หากองค์กรของคุณมีเอเจนซี่ดูแลอยู่หลายบริษัท แบบนี้ก็สามารถให้แต่ละบริษัทสามารถเข้าถึงและใช้งานข้อมูลร่วมกันได้ ซึ่งทั้งหมดนี้ มาจากการเก็บข้อมูลเพียงครั้งเดียว รวมไว้ที่เดียวแต่ใช้ร่วมกันได้ทั้งหมด
ต่อที่ 3 หมดกังวลเรื่อง PDPA
หลังจากประกาศใช้พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA ทั้งแบรนด์และนักการตลาดต่างก็กังวลเรื่องการนำข้อมูลมาใช้ ซึ่ง Business Manager ก็ถูกออกแบบมาให้รองรับกับกกฎหมายนี้ โดยมีการคัดกรองข้อมูลเบื้องต้นให้อัตโนมัติ และมีการขออนุญาตเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคโดยแพลตฟอร์มตามกฎหมายกำหนด ทำให้เจ้าของธุรกิจหรือนักการตลาดสามารถนำข้อมูลมาใช้ได้อย่างหายห่วง
จากที่ Future Trends ชวนดูมาทั้งหมด เรามองว่า Business Manager ถือเป็นเครื่องมือที่แบรนด์และนักการตลาดไม่ควรพลาดเลยทีเดียว เพราะสามารถตอบโจทย์ Pain Point ในการนำข้อมูลมาใช้อย่างครบถ้วน และช่วยให้ธุรกิจสามารถนำเอาข้อมูลที่อยู่บน LINE มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
อยากได้ตัวกลางจัดการข้อมูล อย่าง Business Manager ต้องทำอย่างไร?
มาถึงตรงนี้ เชื่อว่าคงมีใครหลายคนที่สนใจอยากจะใช้ Data ที่มีอยู่บน LINE ของแบรนด์ตนเองให้เกิดประสิทธิมากขึ้น ด้วย Business Manager บ้างแล้ว ดังนั้น ไปดูกันว่ามีขั้นตอนและเงื่อนไขอะไรบ้าง
เงื่อนไข:
1 บริษัทสามารถลงทะเบียนได้ 1 บัญชี Business Manager
เปิดลงทะเบียนเฉพาะบัญชีไลน์แบบ Premium และ Verified Accounts เท่านั้น
หากร้านค้าของคุณมีบัญชี Premium และ Verified Accounts อยู่แล้ว สามารถใช้งาน Business Manager ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ
วิธีการสมัคร:
ทำได้ง่ายๆ เพียงติดต่อผ่านเอเจนซี่ที่ดูแลแบรนด์ของคุณได้เลย หรือสามารถค้นหาเอเจนซี่ที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ LINE เพื่อติดต่อสอบถาม ขอคำแนะนำเริ่มการใช้งาน Business Manager ได้ที่ https://bit.ly/3as5e63
ในโลกการตลาดดิจิทัลที่การแข่งขันดุเดือดขึ้นทุกวัน ทุกคนต่างต้องการ Data มาช่วยขับเคลื่อนธุรกิจ อย่างไรก็ตาม การมี Data แต่ไม่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็เป็นเรื่องน่าเสียดาย
บอกได้เลยว่า Business Manager ของ LINE เป็นเครื่องมือที่น่าสนใจ ที่จะช่วยให้คุณจัดการข้อมูลได้อย่างเป็นระบบ ด้วยความสามารถในการเชื่อมโยงข้อมูลระหว่าง 3 ช่องทางยอดนิยมในการทำธุรกิจบน LINE ช่วยให้ข้อมูลที่มีอยู่ถูกนำมาใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ช่วยลดต้นทุนที่ใช้ไปกับการตลาดได้อย่างคุ้มค่า และนำไปสู่ยอดขายที่เพิ่มขึ้น