Type to search

“ตั้งใจทำงานมาตลอด เดี๋ยวเขาต้องเห็นความดีเราเข้าสักวันล่ะ” Tiara Effect Trap ทำงานหนักแต่ไม่แสดงออก อาการคนกลัวมงจะลงหัว

July 02, 2022 By Chompoonut Suwannochin

“ทำดีได้ แต่อย่าเด่นจะเป็นภัย”
“ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อไป สักวันหนึ่งเดี๋ยวเขาก็เห็นความทุ่มเทของเรา”

คงไม่เป็นการพูดเกินจริงสักเท่าไร หากจะบอกว่า ทุกวันนี้หลายๆ คนก็มีมายาคติชุดนี้แฝงฝังอยู่ในความคิด ความเชื่อของการทำงานเช่นกัน ตั้งแต่เล็กจนโต สังคมคอยประกอบสร้างว่า ให้เราทุ่มเททำงานหนัก แล้วเดี๋ยวสักวันหนึ่ง ความสำเร็จก็จะส่งเสียงออกมาให้คนรอบข้างเห็นเอง

การแสดงออก โชว์ให้หัวหน้า เพื่อนร่วมงานเห็นนั้นเป็นเหมือนการเบ่ง โอ้อวดทำให้คนอื่นอาจหมั่นไส้ และโดนเขม่นว่า ‘ขิงหรือหิวแสง’ เอาได้ เพราะฉะนั้น จึงไม่ใช่เรื่องแปลกนัก ที่บางคนถึงกับยอมลดแสงของตัวเอง ทำดีแล้วนั่งเงียบๆ ไม่เคลม ไม่ป่าวประกาศให้โลกรู้ แถมบางครั้งก็หนักจนถึงขั้นยอมลดมาตรฐาน ลดคุณภาพงานของตัวเองลงด้วย

เจฟฟ์ แชนนอน (Jeff Shannon) โค้ชผู้บริหารและเจ้าของหนังสือ Hard Work is Not Enough: The Surprising Truth about Believable at Work เคยพูดถึงประเด็นดังกล่าวไว้อย่างน่าสนใจว่า เขาเชื่อว่าการทุ่มเททำงานหนักเป็นการเริ่มต้นที่ดีในช่วงแรกของชีวิตการทำงาน เพราะแน่นอนว่า มันช่วยให้สามารถสร้างตัวได้ แต่นี่ก็ไม่ใช่คำตอบที่เพียงพอที่จะพาทุกคนไปสู่หมุดหมายสูงสุด

ซึ่งพอไปถึงจุดหนึ่งแล้วมองไปรอบๆ ก็จะเข้าใจว่า การขับเคี่ยว ทุ่มเทให้กับการทำงานหนักเป็นเพียงความคาดหวังเท่านั้น และไม่อาจช่วยให้คุณก้าวขึ้นขั้นบันไดแห่งความก้าวหน้า อีกทั้ง การทำงานหนักที่ผ่านมาจะไม่สำคัญอะไรเลย ถ้าไม่มีใครรับรู้ว่า เรากำลังพยายามทำมันอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง โลกของการทำงาน ถ้าอยากได้โปรโมตเลื่อนขั้น เดินบนถนนแห่งความก้าวหน้า สิ่งแรกที่ควรทำให้คือ ‘ทำให้คนอื่นสังเกตเห็นคุณก่อน’

แครอล โฟร์ลินเจอร์ (Carol Frohlinger) ประธานบริษัทที่ปรึกษาเนโกชิเอต วีเมนดอตไอเอ็นซี (Negotiating Women, Inc.) ได้ให้คำจำกัดความหลุมพรางความซัฟเฟอร์ทำนองนี้ไว้ว่า ‘The Tiara Effect Trap’

เขาได้อธิบายว่า การทำงานหนักนั้นยังคงมีความสำคัญอยู่ แต่การรอให้ใครสักคนมาเห็นนั้นเป็นผลเสียกับตัวเองมากกว่า ในขณะเดียวกัน หนึ่งในจุดร่วมที่เกิดขึ้นระหว่างคนทำงานที่มี Performance ดี กับคนที่ไม่มีอะไรเลยคือ ‘พวกเขาต้องอยู่ภายใต้เรดาร์เดียวกัน’

การที่คนอื่นไม่เห็น หรือไม่รับรู้ใน Performance ที่อุตส่าห์ทุ่มเทหยาดเหงื่อแรงกายไปนั้นก็ย่อมทำให้เวลามีการโปรโมตเลื่อนขั้น พวกเขาก็กลายเป็น ‘คนที่ถูกลืม’ เฉกเช่นเดียวกับคนที่ไม่มีอะไรเลย สอดคล้องกับที่เจฟฟ์กล่าวไว้ว่า ถ้าเราไม่วาดความสนใจให้ตัวเองด้วยวิธีต่างๆ มันก็เป็นเรื่องง่ายมากที่คุณจะค่อยๆ เลือนหายไปกับพื้นหลัง

เพราะโดยพื้นฐานแล้ว การทุ่มเททำงานหนักไม่ได้แปลว่า หัวหน้าจะสังเกตเห็น และชื่นชมเสมอไป

ในแง่มุมของการก้าวขึ้นขั้นบันไดแห่งความก้าวหน้าต้องอาศัย ‘ทักษะทางการเมือง (Political skill)’ หรือ ‘การอยู่เป็น’ ด้วย ดังนั้น การไม่อยากทำตัวโดดเด่น นั่งเงียบๆ อยู่นิ่งๆ แล้วคิดไปเองว่า ‘เดี๋ยวมงกุฏก็มาลงหัวเราเอง’ ทำตัวไม่ต่างจากคนที่ชอบปิดทองหลังพระ ก็อาจทำให้หลายๆ คนพลาดโอกาสดีๆ ไปโดยปริยาย

นอกจากนี้แครอลยังเสริมด้วยว่า ไม่ต้องให้ถึงการประเมินตัวเองสิ้นปีแล้วบอกว่า ตัวเองมีอะไรดี สร้าง Impact อะไรให้บริษัทบ้าง? เพราะแค่ปีเดียวก็เป็นอะไรที่มากแล้ว เธอแนะนำว่า ให้คนทำงานสื่อสารกับหัวหน้าถึงความสำเร็จของตัวเองเป็นประจำ ทั้งนี้ ก็ให้ดูถ้อยคำ และความถี่ด้วย เนื่องจาก ไม่มีใครอยากได้ยินสิ่งนี้ทุกวัน

รวมไปถึงหากคุณอยากจะเลื่อนขั้นไปเป็นหัวหน้าคน แม้ว่าคุณกับเพื่อนร่วมงานจะมีทักษะที่เหมือนกันเป๊ะ ความสามารถพอๆ กัน แต่ถ้าพวกเขาใช้เวลาเข้าหาเพื่อน และคนที่มีอิทธิพลมากกว่าก็ย่อมทำให้พวกเขาดูเหมาะสมในการเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้ามากกว่าคุณ หรือตาม Common Sense ที่ว่า มนุษย์เรามักจะสนับสนุนคนที่ตัวเองชอบนั่นเอง

ลึกๆ แล้ว พยายามไปตั้งเท่าไร ทุ่มเทไปมากแค่ไหนกว่าจะสำเร็จได้แต่ละครั้ง มีเราเท่านั้นที่รู้ดีที่สุด ไม่ต้องใส่ใจกับสายตาของคนอื่นมาก คอยคิดแทนคนทั้งโลกว่า จะมองยังไง? เพราะท้ายที่สุด เราก็ห้ามความคิดพวกเขาไม่ได้อยู่ดี แถมมันไม่สำคัญไปกว่า ‘เราอยากจะเป็นแบบไหน?’ ด้วย

ทำดีแล้วอย่ามัวนั่งเงียบ กลัวมงจะลงหัว อยากโต อยากก้าวหน้าก็เป่าแตรความสำเร็จของคุณออกมาเลย ชญาน์ทัต วงศ์มณี เจ้าของเพจท้อฟฟี่ แบรดชอว์เคยกล่าวไว้ว่า จริงๆ แล้ว การทำงานได้ดี ทำงานได้เด่นนั้นไม่ได้ทำให้เราเป็นภัยหรอก แต่ ‘ความโดดเดี่ยว’ จากการวิ่งลิ่วเข้าเส้นชัยคนเดียว เหยียบย่ำคนอื่นตามรายทางต่างหากล่ะที่จะทำให้เราเป็นภัย…

แล้วคุณล่ะคิดยังไงกับเรื่องนี้ เคยรู้สึกซัฟเฟอร์แบบนี้ไหม เคยมีชุดความคิด ความเชื่อที่ไม่ถูก ไม่ควรเหล่านี้แฝงอยู่ในหัวรึเปล่า? มาแชร์ในคอมเมนต์กัน!

Sources: https://bbc.in/3A6XVLd

https://bit.ly/39XE72q

Trending

Chompoonut Suwannochin

Chompoonut Suwannochin

อดีตเด็กฝึกงาน และ Content Creator ประจำเพจ Future Trends จบเอก Creative และการจัดการวัฒนธรรมจากรั้วเหลืองแดง ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ มี ‘Sarah Salola กับ Jixgo’ เป็นศิลปินคนโปรด เวลาว่างชอบชุบชูใจด้วยการกิน และการไปติ่ง