ถอด 10 บทเรียน ‘การเป็นผู้นำที่ดี’ จาก Warren Buffett เซียนนักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก
นาทีนี้หากเอ่ยถึงปรมาจารย์ชั้นเซียนด้านการเงิน การจัดการชีวิต และ ‘การเป็นผู้นำ’ คงไม่มีใครไม่รู้จักวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffett) คุณปู่นักลงทุน ซีอีโอเบิร์กเชียร์ ฮาธาเวย์ (Berkshire Hathaway) ที่ขึ้นชื่อว่า เป็นหนึ่งในคนที่ประสบความสำเร็จมากที่สุด และได้รับการจัดอันดับจากฟอร์บส์ (Forbes) ว่า เป็นมหาเศรษฐีอันดับที่ 5 ของโลกด้วย
อะไรคือเคล็ดลับความสำเร็จที่ทำให้ทุกวันนี้วอร์เรน บัฟเฟตต์ ก้าวขึ้นมาเป็น ‘ผู้นำก้องโลก’ ไม่แพ้ความรวยที่มี บทความนี้ Future Trends จะพาไปดู 10 บทเรียนสู่การเป็นผู้นำที่ดีที่เขาเคยสอนชาวโลกไว้กัน
1. จงรักในสิ่งที่ทำ
พอพูดถึงงานที่รักแล้ว หลายคนอาจจะนึกถึงภาพงานที่ตรงตามแพชชัน แต่ว่ากันตามความเป็นจริง ก็ไม่ใช่ทุกคนจะสมหวังเหมือนกันหมดใช่ไหมล่ะ เพราะมีเรื่องปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้ รวมไปถึงจังหวะชีวิตที่เข้ามาเกี่ยวด้วย
เช่นนี้คำว่า ‘Passionate’ จึงเป็นคำที่สำคัญกว่า ‘Passion’ กล่าวคือ Passionate ที่แปลว่า ‘ความหลงใหล’ นั้นมีความหมายที่ลึกซึ้งกว่า เนื่องจาก ไม่จำเป็นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของสิ่งที่เราชอบที่สุดเสมอไป แต่คือการเต็มที่ ตั้งใจกับทุกอย่างหรือ ‘รักในสิ่งทำ’ ต่างหาก ซึ่งการมีมายด์เซ็ตแบบนี้จะช่วยให้เราอยากลุกจากเตียงในทุกเช้า และทำงานได้ดียิ่งขึ้น
2. จงสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ
ทักษะการสื่อสารเป็นอีกหนึ่งทักษะสำคัญที่ผู้นำทุกควรมี และเป็นหัวใจหลักของการทำงานเป็นทีม เรียกได้ว่า มีความสำคัญตั้งแต่ผู้นำตัวเล็กไปจนถึงผู้นำตัวใหญ่ระดับ C-Level เลยทีเดียว วอร์เรน บัฟเฟตต์ แนะนำว่า ผู้นำไม่ควรใช้ภาษาที่เข้าใจยาก ซับซ้อน หรือเป็นศัพท์เทคนิคเฉพาะ ให้หมั่นใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย คุยแล้วอีกฝ่ายสามารถเข้าใจตรงกันได้ ‘ทันที’
3. จงเลือกคนที่ ‘ศีลเหนือกว่า’
จิม โรห์น (Jim Rohn) กูรูด้านการพัฒนาตัวเองเคยกล่าวไว้ว่า “เราคือค่าเฉลี่ยของ 5 คนที่ใช้เวลาด้วยมากที่สุด” หรือพูดง่ายๆ ว่า เราจะเป็นยังไง ดีหรือไม่ดี เก่งหรือไม่เก่งก็ขึ้นอยู่กับคนที่คบด้วย
ตามปกติ จะมีแนวคิดที่ว่า จงอยู่ท่ามกลางคนที่ศีลเสมอกัน แต่วอร์เรน บัฟเฟตต์ บอกว่า หากเราอยากเป็นคนเก่ง อย่างแรกเลย ต้องรู้จัก “คบคนที่เก่ง และคนที่ดีกว่าตัวเอง” เพื่อให้พวกเขาเหล่านั้นเป็นแรงบันดาลใจ และผลักดันให้เราก้าวขึ้นไปอีกระดับ
4. จงไม่จุกจิก จงไม่จู้จี้
“จ้างให้ดี ควบคุมให้น้อย” นี่คือบทเรียนล้ำค่าที่เขาเคยกล่าว วอร์เรน บัฟเฟตต์ มองว่า การที่เราเลือกใครสักคนเข้ามาทำงาน นั่นหมายถึง คนนั้นต้องมีความสามารถหรือสิ่งดีๆ ในตัวอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ ฉะนั้น สิ่งที่ผู้นำควรทำคือการให้เกียรติซึ่งกันและกัน ไม่จู้จี้ เชื่อมั่น ไว้ใจในศักยภาพของพวกเขา ก่อนหน้านี้ Future Trends เคยพูดถึงประเด็นนี้ไป ถ้าใครสนใจลองเข้าไปอ่านกันได้นะ (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่ : https://bit.ly/39Ic6vp)
5. จงวางแผนอนาคต
ผู้นำที่ดีไม่ใช่เพียงเก่งงาน เก่งคน แต่ต้องเป็นนักวางกลยุทธ์ที่เก่งแห่งอนาคตด้วย โดยเขาก็ได้วางแผนอนาคตไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานหรือเรื่องคนก็ตาม เห็นได้จากการเตรียมพร้อม เลือกคนที่จะมาแทนตัวเองในอนาคตที่เขาจะลงจากบังเหียนที่อยู่ และสนับสนุนให้คนๆ นั้นได้เติบโต
6. จงเจนจัด ‘ชัดเจน’
นอกจากการวางแผนอนาคตแล้ว อีกหนึ่งประเด็นที่สำคัญไม่น้อยไปกว่ากันคือเรื่อง ‘ความชัดเจน’ บิลล์ เกตส์ (Bill Gates) ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จยักษ์ใหญ่อย่างไมโครซอฟต์ (Microsoft) เคยพูดถึงวอร์เรน บัฟเฟตต์ ไว้ว่า เขาเป็นคนที่ชัดเจน และโปร่งใสมาก ซึ่งถือเป็นหนึ่งในคุณสมบัติสำคัญที่ผู้นำทุกคนควรมี
7. จงรู้จักอดทนเข้าไว้
ความอดทนเป็นปัจจัยพื้นฐานที่ทำให้เขาก้าวมายืนอยู่จุดสูงสุดในทุกวันนี้ เพราะโลกใบนี้ไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ ทุกอย่างล้วนต้องใช้เวลา และความพยายามด้วยกันทั้งสิ้น เพราะฉะนั้น ความอดทนเลยเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคนที่จะประสบความสำเร็จ
8. จงใช้เวลา ‘อย่างชาญฉลาด’
กฎของเวลาคือเราไม่อาจกลับไปแก้ไขได้ เวลาจึงเป็นสิ่งที่มีค่ามาก และควรใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด วอร์เรน บัฟเฟตต์แนะนำว่า ต่อให้มีเลขาหรือผู้ช่วยอีกเพียบ แต่การบริหารเวลายังเป็นเรื่องที่ผู้นำต้องทำด้วยตัวเอง เพราะจะช่วยให้จัดการ และจัดลำดับความสำคัญได้อย่างเหมาะสม
9. จงเตรียมรับความเสี่ยง จงเรียนรู้จากความผิดพลาด
หยุดพฤติกรรมการทำตามเนื้อเพลงบางท่อนอย่าง ‘รู้ว่าเสี่ยงแต่คงต้องขอลอง’ อะไรที่รู้อยู่แก่ใจว่า เสี่ยง ผิดพลาดแน่ๆ ก็ไม่ต้องทำ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ประวัติศาสตร์มีไว้เป็นบทเรียน ไม่ได้ให้ทำซ้ำรอย เช่นเดียวกัน ความผิดพลาดก็มีไว้เป็นบทเรียน
10. จงปฏิบัติกับทุกคนอย่าง ‘เท่าเทียม’
ผู้นำที่ดีต้องปฏิบัติกับลูกน้องทุกคนอย่างเท่าเทียม ไม่ลำเอียง เลือกที่รัก มักที่ชัง ทิ้งใครไว้ข้างหลังจนทำให้เกิดการเล่นพรรค เล่นพวกขึ้น เขาเผยว่า กฎทองในการเป็นผู้นำส่วนตัวนั้นคือ พยายามเข้าถึงใจคนที่เงียบ และมีความสามารถ
และทั้งหมดนี้ก็คือ 10 บทเรียน ‘การเป็นผู้นำที่ดี’ จากเซียนนักลงทุนที่รวยที่สุดในโลก ลองนำไปปรับใช้กันดู ไม่แน่หรอกนะ คุณอาจกลายเป็นผู้นำที่ได้ 10 10 10 คะแนนเต็มจากบรรดาเมนเทอร์ลูกน้องคนต่อไปก็เป็นได้!