เมื่อก้าวเข้าสู่บทบาทผู้นำ หลายๆ คนมักจะคิดว่า ‘การวางแผน’ ที่สมบูรณ์แบบคือหัวใจสำคัญของความสำเร็จ แต่ในความเป็นจริง สิ่งที่ทำให้ผู้นำที่ดีโดดเด่นได้นั้นไม่ใช่แค่เรื่องของกลยุทธ์ แต่เป็นเรื่องของ ‘ผู้คน’ ที่อยู่เบื้องหลังแผนนั้นๆ
โดยบทเรียนสำคัญที่เราต้องเรียนรู้ด้วยตัวเองก็คือ ผู้นำไม่จำเป็นต้องเป็นฮีโร่เสมอไป และสิ่งที่ควรทำคือการช่วยให้ทีมกลายเป็นฮีโร่แทน นี่คือ 2 บทเรียนที่เรียบง่าย แต่สามารถเปลี่ยนวิธีการนำทีมได้อย่างแน่นอน
บทเรียนที่ 1 – นำทีมผ่านคน ไม่ใช่แค่ผ่านแผน
หลายคนเริ่มต้นบทบาทผู้นำด้วยการให้ความสำคัญกับแผนงานอย่างเต็มที่ ตั้งแต่การจัดทำ Road-map ไปจนถึงการเตรียมสไลด์นำเสนอที่สมบูรณ์แบบ แต่เมื่อถึงเวลาปฏิบัติจริง กลับพบว่า แผนการที่ละเอียดลออเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ทีมมีพลังในการขับเคลื่อน
เช่น การเปิดตัวโครงการใหม่ที่วางแผนมาอย่างดีแต่กลับไม่ได้รับความร่วมมือจากทีม เพราะสิ่งที่ขาดไปคือ ‘การฟัง’ และ ‘การมีส่วนร่วม’ ของคนที่ต้องลงมือทำจริง
วิธีเปลี่ยนแปลงแนวทาง
– ฟังก่อน แล้วค่อยนำ
จัดประชุมแบบ One-on-One กับทีมเพื่อทำความเข้าใจว่าพวกเขาคิดอย่างไรกับงานที่ทำอยู่
– นำฟีดแบ็กมาปรับใช้จริง
แสดงให้เห็นว่าความคิดเห็นของทีมมีค่า โดยการนำไปใช้และให้เครดิตกับผู้เสนอ
– ให้ความสำคัญกับกระบวนการ ไม่ใช่แค่ผลลัพธ์
ชื่นชมความพยายามและไอเดียของทีม ไม่ใช่แค่เมื่อโปรเจกต์สำเร็จ
– โปร่งใสและเปิดเผย
ถ้าไอเดียไหนไม่สามารถนำไปใช้ได้ ควรอธิบายเหตุผลอย่างตรงไปตรงมา
เมื่อให้ทีมมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ พวกเขาจะรู้สึกเป็นเจ้าของโปรเจกต์และพร้อมที่จะทุ่มเทมากขึ้น
บทเรียนที่ 2 – บทบาทของผู้นำไม่ใช่ฮีโร่ แต่คือผู้สร้างฮีโร่
ผู้นำหลายคนเชื่อว่า การจะเป็นผู้นำที่ดีได้นั้นจะต้องเป็นผู้นำที่สามารถแก้ปัญหาได้ในทุกอย่างเอง ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาโปรดักต์ การจัดการวิกฤติ หรือแม้แต่การดูแลรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทุกอย่าง แต่เมื่อทำแบบนี้ไปนานๆ กลับพบว่าสิ่งนี้ไม่ได้ช่วยให้ทีมเติบโต แต่กลับทำให้ พนักงานพึ่งพาผู้นำมากเกินไป จนขาดความคิดสร้างสรรค์ในการแก้ปัญหาด้วยตัวเอง เมื่อผู้นำหยุดพยายามเป็นฮีโร่ และเปลี่ยนมาเป็นผู้ที่สร้างฮีโร่ จะได้เห็นทีมที่เติบโตขึ้น แข็งแกร่งขึ้น และสามารถขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าได้ด้วยตัวเอง
วิธีเปลี่ยนแปลงแนวทาง
– กระจายงานที่ท้าทายให้ทีม
ไม่ใช่แค่ให้ทำงานง่ายๆ แต่ให้โอกาสพวกเขาได้แก้ปัญหาที่สำคัญจริงๆ
– ให้เครดิตกับผลงานของทีม
เมื่อมีความสำเร็จเกิดขึ้น แทนที่จะบอกว่า “เราทำได้” ลองเปลี่ยนเป็น “ทีมของเราทำได้” และให้เกียรติสมาชิกในทีมต่อหน้าผู้อื่น
– ส่งเสริมการยกย่องกันเองในทีม
เปิดพื้นที่ให้เพื่อนร่วมงานสามารถแสดงความชื่นชมกันและกัน
– เป็นโค้ช ไม่ใช่ผู้แก้ปัญหา
แทนที่จะบอกวิธีแก้ปัญหา ลองใช้คำถามช่วยให้ทีมคิดหาคำตอบเอง เช่น “มองว่าปัญหานี้เกิดจากอะไร?” “มีทางเลือกไหนที่น่าจะลองได้บ้าง?”
– สร้างวัฒนธรรมที่ล้มแล้วลุกได้
แทนที่จะกลัวความล้มเหลว จงใช้มันเป็นโอกาสในการเรียนรู้
การเป็นผู้นำที่แท้จริงนั้น ไม่ใช่เรื่องของการมีคำตอบที่ถูกต้องเสมอไป แต่คือการรู้จักฟัง เปิดโอกาสให้ทีมมีส่วนร่วม และช่วยให้พวกเขากลายเป็นฮีโร่ด้วยตัวเอง เมื่อใช้แนวคิดนี้ จะทำให้สามารถสร้างทีมที่มีพลังและสามารถรับมือกับความท้าทายได้ดียิ่งขึ้น
เขียนโดย ชนัญชิดา พลอยพลาย
#FutureTrends #FutureTrendsetter #FutureTrendsLeadership
Source:
Hang Up Your Cape: Two Leadership Lessons Business School Won’t Teach You
