“มีผู้นำอยู่ทั่วโลกที่คิดว่าตัวเองเป็นศาสตราจารย์เอ็กซ์ จากการ์ตูนเอ็กซ์เมน ที่ชอบสั่งงานผ่านพลังจิตของตัวเอง จะด้วยความจงใจหรือความเผลอก็ไม่ทราบ นั่นเป็นสิ่งที่ส่งผลร้ายต่อการเป็นผู้นำ และการจัดการทีมอย่างยิ่ง”
นับเป็นความล้มเหลวของผู้นำที่มีภาวะการสั่งงานในกระแสจิต หรือ เรียกง่ายๆ ว่า ‘สั่งงานในใจ’ มันแสดงให้เห็นถึงปัญหาด้านการสื่อสารของผู้นำคนนี้อย่างมาก
วันนี้ Future Trends จะพูดคุยเกี่ยวกับผู้นำที่ชอบใช้งานกระแสจิต หรือ ชอบสั่งงานในใจ ว่ามีเหตุผลอะไรกันที่ทำให้พวกเขาทำเช่นนั้น แล้วจะมีวิธีแก้ไขได้อย่างไรบ้าง เหล่าผู้ใช้พลังจิตทั้งหลายตามมาหาคำตอบกันได้เลย
[ การประมวลผลภายในมากเกินไป ]
สาเหตุที่หนึ่ง คุณเป็นผู้นำที่กำลังจมอยู่กับปัญหาและต้องหาวิธีแก้ไขพวกมันอยู่ตลอดเวลา ทำให้คุณคิดในหัวตัวเองมากเกินไป เนื่องจากมันคือหน้าที่คุณที่แก้ไขปัญหาได้ จึงละเลยที่จะพูดมันออกมาแล้วปล่อยให้ความคิดเหล่านั้นอยู่ภายใน นำไปสู่ปัญหาด้านการสื่อสาร คุณจะหลงลืมว่าตัวเองสามารถกระจายการแก้ปัญหาให้ทีมได้
วิธีแก้ไข อันดับแรกอย่าคิดไปเองว่าคนอื่นรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ สองนำแนวคิดออกจากหัวของคุณให้เร็วที่สุดด้วยการเขียนมันออกมาใส่กระดาษและแปะไว้ที่โต๊ะ แค่นี้ทีมคุณก็ไม่ต้องมานั่งรับกระแสจิตจากการสั่งงานในใจของคุณแล้ว
[ คุณคิดว่าคนอื่นจะสื่อสารแทนคุณ ]
ในห้องประชุมขนาดใหญ่ที่ซึ่งทีมของคุณจะนำเสนอข้อมูลแต่ละส่วนให้คุณได้ทราบ คุณมีหน้าที่รับฟังและให้คำแนะนำ ดูเป็นเรื่องปกติสินะ แต่มันนำไปสู่สาเหตุที่สอง ในเมื่อคุณกระจายงานไปให้แต่ละคนทำแล้วคุณมักจะคิดว่าพวกเขาจะรายงานสิ่งเหล่านั้นให้คุณฟัง และบางทีคุณคิดไปถึงขั้นที่พวกเขาจะสื่อสารแทนคุณได้
แท้จริงแล้วมันไม่เป็นเช่นนั้น ถึงแม้พวกเขาจะรู้รายละเอียดของงานเป็นอย่างดี แต่คุณก็ไม่ควรคาดหวังให้พวกเขารู้ด้วยตัวเองว่าต้องสื่อสารมันออกมา คุณเป็นผู้นำมีหน้าที่พูดออกมาว่าอยากได้รายละเอียดส่วนไหน และบางเรื่องที่คุณรู้แต่คิดว่าคนอื่นคงสื่อสารแทนก็แย่พอๆ กัน คุณเป็นผู้นำทีมหวังพึ่งคุณแต่คุณกลับพึ่งทีมเสียเอง
วิธีแก้ไข เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาการสื่อสาร ให้พูดอย่างชัดเจนว่าต้องการข้อมูล และการติดตามผล กับบุคคลไหน คุณต้องการข้อมูลส่วนไหนบ้างในการประชุมก็พูดออกมา
[ คุณเชื่อว่าคนอื่นเข้าใจตรงกัน และจะถามคำถามเพื่อยืนยันความคิดของคุณ ]
เมื่อมีช่องว่างในข้อมูล มนุษย์จะเติมเต็มข้อมูลที่ว่างเปล่าด้วยความคิด สมมติฐาน และความคาดหวังของตนเอง นำไปสู่สาเหตุที่สาม การมีช่องว่างของความเข้าใจ ในฐานะผู้นำ คุณทราบดีว่าสิ่งเลวร้ายสามารถเกิดขึ้นเมื่อได้เมื่อคุณสื่อสารไม่เข้าใจกัน นอกจากนี้ ผู้คนมักจะไม่ถามคำถามที่ชัดเจน เพราะพวกเขาคิดว่า ‘รู้ว่าต้องทำอะไร’
วิธีแก้ไข แสดงความชัดเจนกับทีม สร้างสภาพแวดล้อมในการทำงานที่สามารถถามคำถามได้โดยไม่รู้สึกถึงว่ามันเป็นเรื่องน่าอาย ให้การสนับสนุนเชิงบวกเมื่อมีคนถามคำถามหรือขอรายละเอียดเพิ่มเติม
[ ความเกียจคร้าน ]
สาเหตุสุดท้ายที่เรียบง่ายและน่าหงุดหงิดที่สุดของการสื่อสารที่ล้มเหลว คือความเกียจคร้าน ไม่ว่าจะเป็นความล้มเหลวในการจัดลำดับความสำคัญของการประชุม หรือการไม่สนใจที่จะแบ่งปันรายละเอียดกับทีมผู้บริหาร ความเกียจคร้านมักเป็นสาเหตุของการสื่อสารที่ล้มเหลว
วิธีแก้ไข อาจจะเป็นสิ่งที่รุนแรงแต่คนที่เกียจคร้านสมควรเป็นผู้นำจริงหรือไม่? บางทีการแก้ไขอาจจะสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการเปลี่ยนผู้นำ แต่ต้องดูเป็นกรณีไปเพราะในบางครั้งผู้ที่เกียจคร้านก็สามารถเป็นคนจำพวกที่เก่งมากๆ ในสายงานของตัวเอง เขาอาจจะแค่ไม่รู้ตัวหรือลืมตัวตนของตัวเองไปชั่วขณะหนึ่ง อย่าพึ่งเปลี่ยนผู้นำถ้ายังหาสาเหตุของความเกียจคร้ายไม่ได้
การหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองเป็นผู้นำที่สั่งงานในใจ ช่วยส่งเสริมความสามารถในการสื่อสารได้มากยิ่งขึ้น ทั้งกับผู้บริหารและกับทีมที่คุณดูแลเอง ในบางครั้งการสร้างความเป็นทีมหรือวัฒนธรรมก็ช่วยให้การใช้พลังจิตของผู้นำหายไปได้ ลองปรับเปลี่ยนกับทีมของคุณดู
“อย่างไรก็ตาม ผู้นำที่ใช้พลังจิตสั่งการในใจ ไม่น่าจะใช่ผู้นำที่ดีนัก เพราะมันสร้างความทุกข์ให้กับทีมที่ต้องมาคอยตรัสรู้ว่าคุณจะสั่งการอะไรในใจอีก”
เขียนโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
Source: https://skylineg.com/resources/blog/telepathic-leaders-equal-big-failures-leaders-dont-rely-on-psychic-skills-instead-of-communication-skills
