McKinsey ได้เปิดเผยรายงาน ‘Technology Trends Outlook 2024’ โดยมีเนื้อหาที่พูดถึงเทรนด์เทคโนโลยี 15 เทรนด์ 5 หมวดหมู่ด้วยกัน 

.

โดยรายงานนี้พูดถึงการรับมือสำหรับเทรนด์เทคโนโลยีทั้ง 15 เทรนด์ เพื่อให้ธุรกิจรับมือได้ง่ายขึ้น จัดกลุ่มเทรนด์เป็น 5 หมวดหมู่กว้างๆ ได้แก่ The AI Revolution, Building The Digital Future, Compute and Connectivity Frontiers, Cutting-Edge Engineering, และ A Sustainable World

โดยจะมีเทรนด์อะไรที่น่าสนใจบ้างตามมาดูกันเลย!

[ หมวดหมู่ที่ 1: The AI Revolution ]

💡 1. Generative AI

Generative AI เป็นอัลกอริธึมที่สามารถนำข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง เช่น ข้อความ ภาษา หรือ รูปภาพมาสร้างเป็นเนื้อหาใหม่ในหลายรูปแบบไม่ว่าจะเป็นเสียง โค้ด รูปภาพ การจำลอง และวิดีโอ โดยสามารถทำงานได้อัตโนมัติ มีความรวดเร็วมากกว่าคน และเพิ่มประสิทธิภาพโดยการใช้ข้อมูลผสมที่มีหลากหลายรูปแบบเพื่อสร้างเนื้อหาใหม่ๆ เครื่องมือที่โด่งดังก็จะมี ChatGPT, Midjourney, Gamma, Copilot เป็นต้น

สำหรับ Generative AI ในปี 2019 มีคะแนนความน่าสนใจและคะแนนนวัตกรรมอยู่เพียงแค่ 0.01 หน่วย มาพร้อมกับเงินลงทุน 4 พันล้านดอลลาร์ 

แต่ในปี 2023 หลังจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 4 ปี ส่งผลให้มีคะแนนความน่าสนใจ 0.64 และคะแนนนวัตกรรมอยู่ที่ 0.08 หน่วย ความน่าสนใจอยู่ที่เงินลงทุนที่เพิ่มขึ้นไปถึง ‘36 พันล้านดอลลาร์’ พร้อมกับคะแนนในการนำไปปรับใช้กว่า 4 (หมายความว่าเป็นเทคโนโลยีที่เกือบจะใช้โดยทั่วไปแล้ว) นอกจากนี้อัตราการจ้างงานในด้าน Generative AI ยังเพิ่มขึ้นกว่า 111 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

ตัวเลขเหล่านี้บ่งบอกว่ากระแสของ Generative AI กำลังมา เป็นเหตุให้อาชีพในอุตสาหกรรมเหล่านี้ได้รับผลกระทบควรจับตามองและเตรียมรับมือ ได้แก่ การบินและการป้องกัน การเกษตร ยานยนต์ เคมี ผลิตภัณฑ์บริโภค การก่อสร้าง การศึกษา พลังงาน การเงิน สุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศ สื่อและความบันเทิง การขุดแร่ น้ำมันและก๊าซ ยา ทรัพย์สินและบริการสังคม อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก และโทรคมนาคม

🧑‍💻 2. Applied AI

Applied AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ประยุกต์ เป็นการหยิบโมเดลที่ถูกฝึกฝนด้วย Machine Learning มาแก้ไขปัญหา เช่น การจำแนกประเภท การทำนาย การควบคุม เป็นต้น ด้วยการฝึกฝนรูปแบบนี้จะช่วยให้ปัญญาประดิษฐ์สามารถรับผิดชอบงานต่างๆ ได้ และนำไปสู่การพัฒนาเพื่อการตัดสินใจด้วยตัวมันเอง

สำหรับ Applied AI ในปี 2019 มีคะแนนความน่าสนใจไม่ค่อยสูงนักอยู่ที่ 0.26 หน่วย แต่มีคะแนนนวัตกรรมในระดับกลางที่ 0.49 หน่วย ส่งผลให้มาพร้อมกับเงินลงทุนที่มากถึง 57 พันล้านดอลลาร์ 

ต่อมาในปี 2023 หลังจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 4 ปี ส่งผลให้มีคะแนนความน่าสนใจที่สูงขึ้นถึง 0.50 หน่วย และคะแนนนวัตกรรมเกือบสูงที่สุด 0.98 หน่วย อันเนื่องมาจากความสามารถในการฝึกฝนและพัฒนาสู่การนำไปใช้จริงที่จับต้องได้ ผลักดันเงินลงทุนสูงขึ้นไปอีกที่ ‘86 พันล้านดอลลาร์’ พร้อมกับคะแนนในการนำไปปรับใช้กว่า 4 (หมายความว่าเป็นเทคโนโลยีที่เกือบจะใช้โดยทั่วไปแล้ว) แต่ด้านอัตราการจ้างงานกลับลดลงถึง 29 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

ความเก่งกาจของปัญญาประดิษฐ์ประยุกต์จะสร้างผลกระทบให้กับอุตสาหกรรม ได้แก่ การบินและการป้องกัน การเกษตร ยานยนต์ เคมี ผลิตภัณฑ์บริโภค การก่อสร้าง การศึกษา พลังงาน การเงิน สุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศ สื่อและความบันเทิง การขุดแร่ น้ำมันและก๊าซ ยา ทรัพย์สินและบริการสังคม อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก และโทรคมนาคม

🏭 3. Industrializing Machine Learning

แนวโน้มของการเรียนรู้ Machine Learning ในอุตสาหกรรม ในระบบนิเวศของโซลูชันซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์จะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วซึ่งช่วยให้สามารถเร่งและลดความเสี่ยงในการพัฒนา การปรับใช้ และการบำรุงรักษาได้ดียิ่งขึ้นด้วยเทคโนโลยี

สำหรับ Industrializing Machine Learning ในปี 2019 มีคะแนนความน่าสนใจต่ำมากอยู่ที่ 0.02 หน่วย และมีคะแนนนวัตกรรมอยู่ที่ 0.13 หน่วย มาพร้อมกับเงินลงทุนที่ 37 พันล้านดอลลาร์

ต่อมาในปี 2023 หลังจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 4 ปี ส่งผลให้มีคะแนนความน่าสนใจที่สูงขึ้นแต่ก็ยังต่ำอยู่ที่ 0.04 หน่วย และคะแนนนวัตกรรมที่เพิ่มมาที่ 0.31 หน่วย เป็นเทรนด์ที่ช่วยให้พัฒนาระบบของอุตสาหกรรมได้แต่ไม่ได้มีความว้าวมากนัก คะแนนการนำไปปรับใช้จึงอยู่ที่ 3 คะแนน กลางๆ ไม่มากไม่น้อยแต่ก็เป็นนวัตกรรมแนวหน้า ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้เงินลงทุนเหลือเพียงแค่ ‘3 พันล้านดอลลาร์’ และอัตราการจ้างงานที่ลดลง 36 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

สร้างผลกระทบให้กับอุตสาหกรรม ได้แก่ การบินและการป้องกัน การเกษตร ยานยนต์ เคมี ผลิตภัณฑ์บริโภค การก่อสร้าง การศึกษา พลังงาน การเงิน สุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศ สื่อและความบันเทิง การขุดแร่ น้ำมันและก๊าซ ยา ทรัพย์สินและบริการสังคม อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก และโทรคมนาคม

[ หมวดหมู่ที่ 2: Building The Digital Future ]

🖥️ 4. Next-Generation Software Development

Next-Generation Software Development หรือ การพัฒนาซอฟต์แวร์ยุคใหม่ ประกอบด้วยเครื่องมือและเทคโนโลยีที่ช่วยให้สามารถดำเนินการปรับใช้โค้ดสมัยใหม่ รวมถึงสร้างโค้ด การทดสอบ การรีแฟกเตอร์ และการแปลโค้ดโดยอัตโนมัติ ซึ่งสามารถปรับปรุงคุณภาพของแอปพลิเคชันและกระบวนการพัฒนาได้

สำหรับ Next-Generation Software Development ในปี 2019 มีคะแนนความน่าสนใจต่ำมากอยู่ที่ 0.03 หน่วย และมีคะแนนนวัตกรรมอยู่ที่ 0.14 หน่วย มาพร้อมกับเงินลงทุนที่ 54 พันล้านดอลลาร์

ต่อมาในปี 2023 หลังจากการพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 4 ปี คะแนนของความน่าสนใจยังอยู่ที่เดิมไม่เพิ่มเติมแต่อย่างใด แต่คะแนนนวัตกรรมเพิ่มขึ้นมาที่ 0.20 หน่วย เป็นเทรนด์ที่ช่วยสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับการพัฒนาซอฟต์แวร์ คะแนนการนำไปปรับใช้จึงอยู่ที่ 3 คะแนน กลางๆ เป็นนวัตกรรมแนวหน้า ด้วยปัจจัยเหล่านี้ทำให้เงินลงทุนเหลือเพียงแค่ ‘17 พันล้านดอลลาร์’ และอัตราการจ้างงานที่ลดลง 37 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

สร้างผลกระทบให้กับอุตสาหกรรม ได้แก่ กฎหมาย สินค้าบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค บริการทางการเงิน บริการด้านการดูแลสุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศและอิเล็กทรอนิกส์ การผลิต สื่อและความบันเทิง และโทรคมนาคม

⚖️ 5. Digital Trust and Cybersecurity

Digital Trust and Cybersecurity หรือ ความเชื่อมั่นทางดิจิทัลและความปลอดภัยทางไซเบอร์ เป็นเทรนด์ที่สอดคล้องกับยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลงทั่วโลกหันเข้าหาดิจิทัลและปัญญาประดิษฐ์ส่งผลให้ต้องมีความเชื่อใจกับพวกมัน ทำให้การพัฒนาและการใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือและความปลอดภัยในสภาพแวดล้อมดิจิทัลเป็นสิ่งจำเป็น รวมไปถึงการปกป้องข้อมูล การบริหารจัดการความเสี่ยงทางไซเบอร์ การป้องกันการโจมตีทางไซเบอร์ และการปรับปรุงการตรวจสอบและการบังคับใช้นโยบายความปลอดภัย

สำหรับ Digital Trust and Cybersecurity ในปี 2019 มีคะแนนความน่าสนใจอยู่เพียงแค่ 0.18 หน่วย และคะแนนนวัตกรรมอยู่ที่ 0.11 หน่วยอาจจะเป็นผลมาจากการที่เรายังไม่ได้โอบกอดดิจิทัลมากนัก มาพร้อมกับเงินลงทุนที่ 25 พันล้านดอลลาร์

ส่งผลให้ในปี 2023 ที่เข้าถึงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลมากยิ่งขึ้น ทำให้คะแนนความน่าสนใจเพิ่มขึ้นมาที่ 0.41 หน่วย แต่คะแนนนวัตกรรมไม่ได้สูงมากตามอยู่เพียงแค่ 0.18 หน่วยเท่านั้น ทั้งนี้ความน่าสนใจที่เพิ่มมากยิ่งขึ้นมาจากอัตราการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์มีแนวโน้มสูงมากยิ่งขึ้น และแต่ละครั้งของการโจมตีเป็นเงินมูลค่ามหาศาลที่ต้องเสียไป คะแนนการนำไปปรับใช้ยังอยู่ที่ 3 คะแนน ปานกลางแต่ก็เป็นเทรนด์นวัตกรรมแนวหน้า การลงทุนจึงมีมูลค่ามากยิ่งขึ้นโดยมีตัวเลขอยู่ที่ ‘34 พันล้านดอลลาร์’ ถึงแม้การจ้างงานจะลดลง 34 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมาก็ตาม

สร้างผลกระทบให้กับอุตสาหกรรม ได้แก่ การบินและการป้องกัน โลจิสติกส์ สินค้าบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค บริการทางการเงิน การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศและอิเล็กทรอนิกส์ สื่อและความบันเทิง และโทรคมนาคม

[ หมวดหมู่ที่ 3: Compute and Connectivity Frontiers ]

🛜 6. Advanced Connectivity

Advanced Connectivity หรือ การเชื่อมต่อขั้นสูง ครอบคลุมเครือข่ายไร้สายพลังงานต่ำ เซลลูล่าร์ 5G/6G Wi-Fi 6/7 ดาวเทียมวงโคจรต่ำของโลก และเทคโนโลยีโทรคมนาคมอื่นๆ

สำหรับ Advanced Connectivity ในปี 2019 มีคะแนนความน่าสนใจอยู่เพียงแค่ 0.17 หน่วย และคะแนนนวัตกรรมอยู่ที่ 0.49 หน่วย ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก แสดงถึงความน่าสนใจของการเชื่อมต่อขั้นสูงที่ทุกคนคาดหวังความรวดเร็วมากกว่าที่ 4G จะทำได้ มาพร้อมกับเงินลงทุนที่ 37 พันล้านดอลลาร์

ส่งผลให้ในปี 2023 การเชื่อมต่อขั้นสูง ได้รับคะแนนนวัตกรรมมากขึ้นถึง 0.63 หน่วย และคะแนนความน่าสนใจ 0.23 หน่วย ด้วยโลกแห่งการเชื่อมต่อไร้สายการนำไปปรับใช้ค่อนข้างสูงเลยทีเดียวอยู่ที่ 4 คะแนน แต่เงินลงทุนน้อยลงเหลือเพียง ‘29 พันล้านดอลลาร์’ และการจ้างงานจะลดลง 24 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

สร้างผลกระทบให้กับอุตสาหกรรม ได้แก่ การบินและการป้องกัน โลจิสติกส์ สินค้าบรรจุภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค บริการทางการเงิน การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศและอิเล็กทรอนิกส์ การค้าปลีก และโทรคมนาคม

🎡 7. Immersive-Reality Technologies

Immersive-Reality Technologies หรือ เทคโนโลยีการดื่มด่ำกับความจริง ช่วยให้เกิดการโต้ตอบแบบเรียลไทม์ในโลกเสมือนจริงสามมิติ โลกเสมือนจริงสามารถมีตั้งแต่พื้นที่ที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์ทั้งหมดในความจริงเสมือน (VR) ไปจนถึงความจริงผสม (MR) ไปจนถึงความจริงเสริม (AR) ซึ่งวัตถุที่สร้างด้วยคอมพิวเตอร์จะซ้อนทับบนโลกแห่งความเป็นจริง เทคโนโลยีเหล่านี้ใช้ประโยชน์จากการคำนวณเชิงพื้นที่เพื่อตีความพื้นที่ทางกายภาพ เช่น ใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์และกล้องในชุดหูฟัง VR เพื่อจดจำท่าทาง จำลองการเพิ่มข้อมูล วัตถุ และผู้คนลงในโลกเสมือนจริง

สำหรับ Immersive-Reality Technologies ในปี 2019 มีคะแนนความน่าสนใจอยู่เพียงแค่ 0.09 หน่วย และมีคะแนนนวัตกรรมอยู่ที่ 0.15 หน่วย พร้อมเงินลงทุนเพียง 5 พันล้านดอลลาร์

ต่อมาในปี 2023 คะแนนความน่าสนใจและคะแนนนวัตกรรมเพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย เนื่องจากการดื่มด่ำยังไม่สามารถที่จะตีความออกมาให้จับต้องได้อย่างชัดเจนได้ ส่งผลให้เป็นเทรนด์เทคโนโลยีที่ต้องจับตามองกันต่อไป คะแนนการนำไปปรับใช้จึงอยู่เพียงแค่ 2 ที่หมายถึงเป็นนวัตกรรมแนวหน้าเพียงยังยากต่อการเข้าถึง และมีเงินลงทุนเพิ่มที่ ‘6 พันล้านดอลลาร์’ และการจ้างงานจะลดลง 36 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

สร้างผลกระทบให้กับอุตสาหกรรม ได้แก่ การศึกษา เทคโนโลยีสารสนเทศและอิเล็กทรอนิกส์ และการค้าปลีก 

☁️ 8. Cloud and Edge Computing

Cloud and Edge Computing การประมวลผลแบบคลาวด์และเอจหมายถึงเวิร์กโหลดที่กระจายไปทั่วสถานที่ เช่น ศูนย์ข้อมูลระยะไกลระดับไฮเปอร์สเกล ศูนย์ระดับภูมิภาค และโหนดในพื้นที่ เพื่อปรับให้เหมาะสมในด้านเวลาแฝง ต้นทุนการถ่ายโอนข้อมูล การปฏิบัติตามระเบียบอำนาจอธิปไตยของข้อมูล ความเป็นอิสระเหนือข้อมูล ข้อควรพิจารณาด้านความปลอดภัย 

สำหรับ Cloud and Edge Computing ในปี 2019 มีคะแนนความน่าสนใจอยู่เพียงแค่ 0.04 หน่วย และมีคะแนนนวัตกรรมอยู่ที่ 0.14 หน่วย แต่ด้วยการมองภาพกว้างและเล็งเห็นความสามารถที่มันน่าจะผลักดันได้ส่งผลให้มีเงินลงทุนสูงถึง 50 พันล้านดอลลาร์

ในปี 2023 คะแนนทั้งสองประเภทยังไม่มีการเพิ่มขึ้นอย่างเป็นนัยสำคัญ แต่ว่ากระแสของระบบคลาวด์ดีขึ้นส่งผลให้คะแนนการนำมาปรับใช้อยู่ที่ 4 มันกลายเป็นนวัตกรรมที่ใช้กันเกือบทั่วไปในสังคม ส่งผลให้มีเงินลงทุนเพิ่มถึง ‘54 พันล้านดอลลาร์’ แต่การแข่งขันด้านอาชีพค่อนข้างสูงการจ้างงานจะลดลง 38 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

ส่งผลกระทบโดยตรงกับอุตสาหกรรม การบินและการป้องกัน การเกษตร ยานยนต์ เคมี ผลิตภัณฑ์บริโภค การก่อสร้าง การศึกษา พลังงาน การเงิน สุขภาพ เทคโนโลยีสารสนเทศ สื่อและความบันเทิง การขุดแร่ น้ำมันและก๊าซ ยา ทรัพย์สินและบริการสังคม อสังหาริมทรัพย์ ค้าปลีก และโทรคมนาคม

⚛️ 9. Quantum Technologies

Quantum Technologies เป็นเทคโนโลยีที่ใช้หลักการของกลศาสตร์ควอนตัมในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆ กลศาสตร์ควอนตัมเป็นหนึ่งในแขนงทางฟิสิกส์ที่ศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมและปฏิสัมพันธ์ของอนุภาคที่เล็กที่สุด เช่น อิเล็กตรอนและโฟตอน สามารถประยุกต์ใช้งานได้ในหลายด้าน เช่น คอมพิวเตอร์ควอนตัม การคำนวณที่เร็วและประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ในเวลาอันสั้น เป็นต้น

สำหรับ Quantum Technologies ยังอยู่ในขั้นตอนที่กำลังพัฒนากันอยู่ยังคงไม่ได้เห็นเป็นรูปธรรมในเร็ววันนี้แต่มันเป็นเทรนด์ที่จะมาแน่ในอนาคต ในปี 2023 มีเงินลงทุนเพียง ‘1 พันล้านดอลลาร์’ เราต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดว่ามันจะสร้างความน่าตกใจให้กับโลกเราได้อย่างไรบ้าง?

[ หมวดหมู่ที่ 4: Cutting-Edge Engineering ]

🤖 10. Future of Robotics

อนาคตของหุ่นยนต์ครอบคลุมถึงการพัฒนาหุ่นยนต์จากการจัดการงานที่มีจุดประสงค์ตายตัวและงานที่ตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้า ไปจนถึงความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับอินพุตใหม่ในชีวิตจริงด้วยระดับความเป็นอิสระและความคล่องแคล่วที่เพิ่มมากขึ้น เราเพิ่งได้พบเจอกับ Humanoid อย่าง ‘Ameca’ ไปในงาน Techsauce Global Summit 2024 นี่แหละคืออนาคตของหุ่นยนต์ อาจจะไม่ได้มองภาพในอนาคตไว้ว่าเราจะอยู่ร่วมกันแบบ Detroit Become Human แต่หุ่นยนต์จะได้รับการพัฒนาขึ้นแน่ๆ

สำหรับ Future of Robotics จะเหมือนกับ Quantum Technologies ที่เรามีภาพในหัวแต่เรายังไม่สามารถจับต้องได้ แต่เราก็รู้อยู่ในใจว่ามันจะมาแน่สักวันหนึ่ง ในปี 2023 ได้รับเงินลงทุนไป ‘6 พันล้านดอลลาร์’ หวังว่ามันจะถูกสร้างให้เห็นภาพชัดเจนมากยิ่งขึ้นในอนาคต

🚗 11. Future of Mobility

เทรนด์ของการเดินทาง เทคโนโลยีการเคลื่อนที่ครอบคลุมถึงยานยนต์ไร้คนขับและยานยนต์ไฟฟ้า การสัญจรทางอากาศในเมือง และเทคโนโลยีการขับขี่อัตโนมัติ การเชื่อมต่อ การใช้ไฟฟ้า และการเคลื่อนที่ร่วมกัน (ACES) โดยมีเป้าหมายเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและความยั่งยืนของการขนส่งทางบกและทางอากาศ เป็นอนาคตของการคมนาคม

สำหรับ Future of Mobility ในปี 2019 มีคะแนนความน่าสนใจที่ 0.29 หน่วย และมีคะแนนนวัตกรรมอยู่ที่ 0.19 หน่วย พร้อมเงินลงทุนที่สูงถึง 151 พันล้านดอลลาร์

ในปี 2023 คะแนนความน่าสนใจเพิ่มขึ้นที่ 0.49 หน่วย และมีคะแนนนวัตกรรมอยู่ที่ 0.33 หน่วย แต่การนำไปปรับใช้ยังไม่ได้รับการเข้าถึงในวงกว้างมากนักได้คะแนนอยู่ที่ 2 มันเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจแต่การลงทุนน้อยลงกว่าเก่าเกือบเท่าตัวอยู่ที่ ‘83 พันล้านดอลลาร์’ และการจ้างงานจะลดลง 5 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

ส่งผลกระทบโดยตรงกับอุตสาหกรรม ยานยนต์และการคมนาคม

🧬 12. Future of Bioengineering

ชีววิศวกรรม คือ การประยุกต์ใช้หลักการวิศวกรรมกับชีววิทยา โดยใช้ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงสุขภาพและสมรรถภาพของมนุษย์ เปลี่ยนแปลงห่วงโซ่คุณค่าของอาหาร และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ซึ่งเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจในปัจจุบันและอนาคต

สำหรับ Future of Bioengineering ในปี 2019 มีคะแนนนวัตกรรมที่ค่อนข้างสูงถึง 0.39 หน่วย เพราะการคิดค้นอะไรใหม่ๆ ได้เป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นเสมอ และมีคะแนนความน่าสนใจที่ 0.13 หน่วย แต่มาพร้อมเงินทุนที่มากถึง 97 พันล้านดอลลาร์

ในปี 2023 คะแนนความน่าสนใจขยับขึ้นเพียงเล็กน้อย แต่คะแนนนวัตกรรมสูงขึ้นถึง 0.52 หน่วย ภายในระยะเวลา 4 ปี แสดงความการประยุกต์ศาสตร์ของชีววิทยาและวิศวกรรมในครั้งนี้เป็นการปรับตัวที่ดี ถึงแม้การนำไปปรับใช้จะมีคะแนนเพียงแค่ 2 ก็ตาม และเงินลงทุนที่น้อยลง ‘62 พันล้านดอลลาร์’ แต่มันก็ยังเป็นเทรนด์ที่น่าสนใจในมุมมองของผู้บริโภคที่จะได้รับสิ่งใหม่ๆ และมีการจ้างงานจะลดลง 23 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา

อุตสาหกรรมที่ต้องระวังตัวว่าจะได้รับผลกระทบคือ อาหารและยา และสุขภาพ

🚀 13. Future of Space Technologies

การเข้าใกล้อวกาศมากยิ่งขึ้นของมนุษย์ด้วยเทคโนโลยี สำหรับ Future of Space Technologies ในปี 2019 ยังไม่ได้รับคะแนนที่มีความน่าสนใจมากนัก อาจจะเพราะเรื่องราวของอวกาศไม่ใช่ทุกคนจะอินไปกับมัน จึงได้เงินลงทุนเริ่มต้นไปเพียงแค่ 5 พันล้านดอลลาร์ ถือว่าเป็นนวัตกรรมแนวหน้าแต่ไม่สามารถเข้าถึงคนได้ในวงกว้างเท่านั้นเอง โดยในปี 2023 ได้รับเงินลงทุนไป ‘9 พันล้านดอลลาร์’ และมีการจ้างงานจะลดลง 9 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา 

สร้างผลกระทบให้กับอุตสาหกรรม การบินและการป้องกัน

[ หมวดหมู่ที่ 5: A Sustainable World ]

⚡ 14. Electrification and Renewables

การใช้ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน มีแนวโน้มที่การใช้ไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียนจะครอบคลุมห่วงโซ่คุณค่าการผลิต การจัดเก็บ และการจำหน่ายพลังงานทั้งหมด เทคโนโลยีต่างๆ ได้แก่ แหล่งพลังงานหมุนเวียน (เช่น พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม) แหล่งพลังงานสะอาด (เช่น พลังงานนิวเคลียร์และไฮโดรเจน) เชื้อเพลิงที่ยั่งยืน และพลังงานชีวภาพ โซลูชันการจัดเก็บและจำหน่ายพลังงาน (เช่น ระบบแบตเตอรี่อายุการใช้งานยาวนานและโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ) ล้วนเป็นสิ่งที่ได้รับความนิยมอย่างสูง ดูได้จากการเติบโตของคะแนนและการลงทุน

สำหรับ Electrification and Renewables ในปี 2019 มีคะแนนความน่าสนใจสูงถึง 0.52 หน่วย และมีคะแนนนวัตกรรมอยู่ที่ 0.29 หน่วย พร้อมเงินลงทุนถึง 160 พันล้านดอลลาร์ 

ในปี 2023 ความนิยมของพลังงานทดแทนยังคงเพิ่มขึ้นควบคู่ไปกับกระแสความยั่งยืนของโลก  มีคะแนนความน่าสนใจสูงมากถึง 0.73 หน่วย  และมีคะแนนนวัตกรรมอยู่ที่ 0.36 หน่วย สำหรับการนำไปปรับใช้อยู่ที่ระดับ 3 การเข้าถึงโอเคแต่ยังไม่ใช่กระแสหลัก ส่งผลให้เงินลงทุนเพิ่มมากขึ้นถึง ‘183 พันล้านดอลลาร์’ มาพร้อมกับอัตราการจ้างงานมากยิ่งขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2022 ที่ผ่านมา 

ส่งผลกระทบโดยตรงกับอุตสาหกรรม เกษตร คมนาคม โลจิสติกส์ เคมี น้ำมันและก๊าซ และอสังหาริมทรัพย์

🌤️ 15. Climate Technologies Beyond Electrification and Renewables

เทรนด์ของ Climate Technologies Beyond Electrification and Renewables จะเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีด้านสภาพอากาศ (นอกเหนือจากการผลิตไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน) มุ่งเน้นไปที่โซลูชันที่บรรเทาผลกระทบเชิงลบของการใช้ทรัพยากรต่อสภาพอากาศ ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากชั้นบรรยากาศ หรือ การผลิตวัสดุที่มีปริมาณคาร์บอนที่เทียบเท่าหรือต่ำกว่าเดิม

ต้องยอมรับว่าใน 4 ปีที่ผ่านมานี้กระแสความยั่งยืนมาแรงมากๆ สร้างความตระหนักรู้แก่คนทั่วไปและองค์กรในวงกว้าง ทุกๆ คนหันมาใช้ความสนใจและพยายามช่วยโลกมากยิ่งขึ้น ได้รับเงินลงทุนในปี 2019 ไปกว่า 51 พันล้านดอลลาร์ และได้เพิ่มมากขึ้นถึง ‘68 พันล้านดอลลาร์’ ในปี 2023 ซึ่งอัตราการรับเข้าทำงานน้อยลง 11 เปอร์เซ็นต์จากปี 2022

ส่งผลกระทบโดยตรงกับอุตสาหกรรม เกษตร คมนาคม โลจิสติกส์ เคมี น้ำมันและก๊าซ และอสังหาริมทรัพย์

โดยภาพรวมของ Technology Trends 2024 จาก ‘McKinsey’ ทำให้เราได้เห็นการปรับตัวทางเทคโนโลยีมากมาย ได้เห็นความน่าสนใจ ความเป็นไปได้ใหม่ๆ ที่จะช่วยให้เราสามารถคาดการณ์กระแสในอนาคตได้ ซึ่งมันช่วยให้ธุรกิจคุณไปต่อได้อย่างแน่นอน

Sources

A Leader’s Framework for Decision Making – https://hbr.org/2007/11/a-leaders-framework-for-decision-making

Problem Solving with “Cynefin Framework” – https://thailandpolicylab.com/en/cynefin-framework/

The Cynefin Framework – https://www.youtube.com/watch?v=N7oz366X0-8