LOADING

Type to search

GPT-4 จาก AI สู่ผู้ช่วยการมองเห็นบนแอปฯ Be My Eyes

GPT-4 จาก AI สู่ผู้ช่วยการมองเห็นบนแอปฯ Be My Eyes
Share

หลังจาก OpenAI สตาร์ตอัปเจ้าของแชตบอตอัจฉริยะ ChatGPT เปิดตัวแชตบอตเวอร์ชันใหม่ GPT-4 เพื่อมาแทนที่เวอร์ชันเก่า 3.5 ที่เข็นออกมาก่อนหน้า 4 เดือน หนึ่งในประเด็นที่ถูกพูดถึงมากที่สุดของแชตบอตเวอร์ชันใหม่ คือ ความสามารถพิเศษในการอ่านรูปภาพ และบรรยายพร้อมคิดวิเคราะห์ได้ในเวลาเดียวกัน

ความสามารถนี้นอกจากจะมีประโยชน์สำหรับคนทั่วไป ยังเรียกได้ว่า เป็นนวัตกรรม ‘เปลี่ยนชีวิต’ ให้กับใครอีกหลายคน โดยเฉพาะผู้พิการทางสายตา และผู้มีปัญหาการมองเห็น ซึ่งมีมากกว่า 250 ล้านคนทั่วโลก

Be My Eyes สตาร์ตอัปสัญชาติเดนมาร์ก ซึ่งทำงานกับชุมชนผู้มีปัญหาการมองเห็นทั่วโลก พยายามสร้างเทคโนโลยีเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับคนกลุ่มนี้มาตั้งแต่ปี 2012 ล่าสุด ด้วยการพัฒนา GPT-4 ของ OpenAI ทำให้ Be My Eyes สามารถนำเทคโนโลยีใหม่นี้มาผสมผสานกับแอปพลิเคชันของตัวเอง และช่วยใช้ผู้พิการทางสายตาสามารถใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น

OpenAI และ Be My Eyes จับมือกันนำ GPT-4 ไปพัฒนาเป็น ‘อาสาสมัครเสมือน’ (Virtual Volunteer) ซึ่งสามารถช่วยเหลือผู้พิการทางสายตาได้ไม่ต่างจากอาสาสมัครที่เป็นมนุษย์ เนื่องจากเทคโนโลยี GPT-4 สามารถบรรยายภาพที่อยู่ตรงหน้า และประมวลผลวิเคราะห์ได้อย่างชาญฉลาด ทำให้ต่อไปในอนาคตอันใกล้ มันอาจเป็นผู้ช่วยนำทางที่ติดตามผู้พิการทางสายตาไปได้ทุกที่

ความพิเศษของ GPT-4 คือ ความสามารถในการวิเคราะห์ภาพได้อย่างชาญฉลาด ตั้งแต่การอ่านลายมือ หรือภาพวาดขยุกขยิก ก็สามารถเข้าใจได้ ไปถึงขั้นที่หากผู้มีปัญหาทางสายตา ถ่ายภาพของที่มีอยู่ในตู้เย็น มันสามารถบอกได้ว่าของที่มีนั้น นำไปประกอบอาหารอะไรได้บ้าง

นอกจากนี้ ความสามารถในการนำทางของมัน ยังช่วยวิเคราะห์ได้ว่า ลูกบอลที่ขวางอยู่ตรงหน้า อาจไม่ใช่แค่อุปกรณ์กีฬาธรรมดาทั่วไป แต่สามารถเป็นวัตถุอันตรายที่ผู้พิการทางสายตาสามารถเดินไปสะดุดล้ม จนได้รับบาดเจ็บได้ด้วย

ด้วยความสามารถในการสื่อสารคล้าย ChatGPT ยังทำให้ GPT-4 สามารถพูดคุยกับผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือได้อย่างเป็นธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม นวัตกรรมนี้อาจยังไม่สามารถเข้ามาแทนที่อาสาสมัครที่เป็นมนุษย์ได้ทั้งหมด เนื่องจากบางครั้ง AI ยังมีข้อผิดพลาด ดังนั้น จึงจำเป็นต้องมีอาสาสมัครมนุษย์คอยช่วยเหลือด้วย

ปัจจุบัน GPT-4 บนแอป Be My Eyes ยังอยู่ในขั้นทดลองโดยจำกัดกลุ่มผู้ใช้ แต่จะเริ่มเปิดให้ผู้ใช้ทั่วไปสามารถใช้งานได้ในเร็วๆ นี้

“นี่คือพัฒนาการอันแสนวิเศษของมนุษยชาติ” ไมเคิล บัคลีย์ (Michael Buckley) ซีอีโอของ Be My Eyes กล่าว พร้อมชี้ว่า “มันยังเป็นตัวแทนของโอกาสเชิงพาณิชย์ได้อีกมากมายด้วย”


Source: http://bit.ly/3YSGDu6

Tags::