‘Bare Minimum Mondays’ การจัดลำดับความสำคัญเพื่อให้ทำงานในวันจันทร์นิดเดียวพอ และเก็บพลังที่เหลือให้ลุยต่อได้ในทั้งสัปดาห์
“สวัสดีเป็นหนึ่ง เรา ‘วันจันทร์’ นะ” ถ้ามีหนึ่งสิ่งที่เราสามารถบอกชายหนุ่มที่ชื่อเป็นหนึ่งได้ สิ่งนั้นก็คงต้องเป็นคำว่า ‘หนีไป’ แน่ๆ แหงล่ะ ใครมันจะไปอยากรู้จักกับ ‘วันจันทร์’ กัน
‘Monday Blues’ คือคำที่ใช้เรียกอาการที่เรารู้สึกไม่ชอบ เบื่อหน่าย รวมไปถึงเกลียดการมาถึงของ ‘วันจันทร์’ ในแต่ละสัปดาห์ ซึ่งเกิดจากความเครียด ความกดดันที่สะสมจากการทำงาน ที่แม้จะได้หยุดพักในวันเสาร์-อาทิตย์แล้วแต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทำยังไงได้ ก็วันหยุดมันหอมหวานนี่นา พอจะต้องกลับเข้าสู่โลกของความเป็นจริง เลยทำให้เรามีอาการนี้ขึ้นมาดื้อๆ ยังไงล่ะ
แต่ก่อนจะเป็น Monday Blues หลายๆ คนอาจจะมีอาการของ ‘Sunday Scaries’ มาก่อนก็ได้ โดยอาการ ‘กลัววันอาทิตย์’ สามารถอธิบายได้ง่ายๆ ว่าเป็นอาการของความวิตกกังวลเมื่อวันหยุดกำลังจะหมดไป และวันทำงานของสัปดาห์ใหม่กำลังเริ่มต้นนั่นเอง
ซึ่ง ‘Monday Blues’ และ ‘Sunday Scaries’ ต่างสร้างความเครียดให้กับมนุษย์วัยทำงานได้ไม่น้อย แถมยังมีโอกาสลากยาวไปทั้งสัปดาห์อีกด้วย แต่ไม่ต้องห่วง! วันนี้ Future Trends ขอนำเสนอ ‘Bare Minimum Mondays’ เทรนด์การทำงานแบบใหม่ที่จะทำให้วันอาทิตย์ไม่น่ากลัว และวันจันทร์ไม่น่าเบื่ออีกต่อไปมาฝากทุกคน มันคืออะไรและต้องทำยังไงบ้าง ไปดูกัน
‘Bare Minimum Mondays’ แปลเป็นภาษาไทยตามฉบับของ Future Trends ได้ว่า ‘วันจันทร์..นิดเดียวพอ’ คือการจัดลำดับความสำคัญของงานต่างๆ อย่างเป็นระเบียบ เพื่อที่จะช่วยให้เราเลือกทำงานในวันจันทร์แบบ ‘นิดเดียวพอ’ ได้ และเหลือพลังไว้ลุยงานที่เหลือทั้งสัปดาห์ได้แบบเต็มพิกัด
โดยเทรนด์การทำงานแบบ ‘Bare Minimum Mondays’ มีต้นกำเนิดมาจาก TikTok Creator คนหนึ่ง ชื่อว่า Marisa Jo Mayes โดยเธอได้นำเสนอวิธีที่ตนเองใช้จัดการกับความเครียดที่เกิดขึ้นจากอาการกลัววันอาทิตย์ ซึ่งมันได้ผลเป็นอย่างดี แถมช่วยให้การทำงานของเธอทั้งสัปดาห์มีประสิทธิภาพอย่างมาก ซึ่ง Mayes ได้อธิบายขั้นตอนไว้ ดังนี้
1. 2 ชั่วโมงแรกหลังตื่นนอน อย่าเพิ่งใช้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือ งดประชุมและเช็กอีเมล ให้เลือกทำสิ่งอื่นเพื่อเริ่มต้นวันใหม่แบบผ่อนคลายและรู้สึกดีแทน เช่น อ่านหนังสือ ทำงานบ้าน จดบันทึกงานต่างๆ
2. 1 ชั่วโมงต่อมา ใช้เวลาไปทำงานที่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ เพื่อกระตุ้นสมองให้พร้อมรับมือกับการทำงานในช่วงบ่าย
3. รับประทานอาหารกลางวันหรือไม่ก็ออกไปเดินเล่น
4. 2 ชั่วโมงหลังจากรับประทานอาหารกลางวัน จะเป็นเวลาของการจดจ่อกับงานหลักๆ ที่มีความสำคัญ 2-3 งาน โดยที่ต้องเลือกทำให้เสร็จที่ละชิ้นอย่างมีสมาธิ โฟกัสอยู่กับงานตลอด และอย่าทำพร้อมกันทุกงาน (ในกรณีที่งานไม่เสร็จภายใน 2 ชั่วโมง สามารถเพิ่มเวลาได้อีก 1 ชั่วโมง)
นอกจากช่วยลดความน่ากลัวของวันอาทิตย์และความน่าเบื่อของวันจันทร์ได้แล้ว ‘Bare Minimum Mondays’ ยังช่วยเพิ่มความโปรดัคทีฟในการทำงานได้อีกด้วยนะ เพราะเราจัดลำดับความสำคัญของงานและลงมือทำมันตามลำดับจนเสร็จสิ้นเรียบร้อย ทั้งยังช่วยสร้างสมาธิได้ดีเลยทีเดียว
และเมื่อเราเคลียร์งานที่สำคัญและถือว่าเป็นงานหลักของสัปดาห์นี้เรียบร้อย นั่นก็เปรียบได้ราวกับว่าเราสามารถยกภูเขาออกจากอกได้สำเร็จ ซึ่งจะทำให้วันที่เหลือในสัปดาห์เป็นวันสบายๆ ที่ไม่เครียดจนกดดันตัวเอง
จะเห็นได้ว่าการใช้ ‘Bare Minimum Mondays’ เนี่ย ดีต่อใจมากๆ เทคนิคนี้ช่วยบรรเทาความตึงเครียดและช่วยฮีลหัวใจ ทั้งการจัดลำดับความสำคัญของงานยังช่วยให้การทำงานนั้นราบรื่น และเสร็จสิ้นได้ตามความเหมาะสม
อย่างไรก็ตาม ไม่มีสิ่งใดบนโลกที่ไม่มีข้อเสีย ถึงแม้การใช้ ‘วันจันทร์..นิดเดียว’ จะมีประโยชน์ แต่เราก็ควรใช้มันอย่างระมัดระวัง และต้องเข้มงวดกับตัวเองสักนิด เพราะไม่อย่างงั้นจากการทำงานนิดเดียว จะเปลี่ยนเป็นเป็นผัดวันประกันพรุ่ง และกลายเป็นดินพอกหางหมูได้ในที่สุดนั่นเอง
เขียนโดย ชนัญชิดา พลอยพลาย
Sources: