LOADING

Type to search

ไม่ให้สายชาร์จ ไม่มีหูฟัง แต่ยังครองจริยธรรมอันดับ 1 ของโลก ‘Less is more’ แนวคิดของ ‘Apple’ ยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่น่าทำตาม

ไม่ให้สายชาร์จ ไม่มีหูฟัง แต่ยังครองจริยธรรมอันดับ 1 ของโลก ‘Less is more’ แนวคิดของ ‘Apple’ ยักษ์ใหญ่ระดับโลกที่น่าทำตาม
Share

รู้หรือไม่? ทุกวันนี้พวกหูฟัง สายชาร์จที่เรามีกันเต็มบ้านเป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นให้เกิด ‘ปัญหาขยะล้นโลก’

ความก้าวกระโดดของเทคโนโลยีที่ล้ำหน้า แม้จะทำให้ชีวิตเราดีขึ้น แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มันกลับมาพร้อมกับปริมาณขยะและของเสียด้วย โดยจากสถิติตั้งแต่ปี 2560 เป็นต้นมา ไทยมีปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ (E-waste) มากกว่า 400,000 ตันต่อปี และมีแนวโน้มจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ อย่างเห็นได้ชัด

แถมชิ้นส่วนเหล่านี้ก็ไม่สามารถย่อยสลายได้เอง ต้องลงเอยที่ ‘หลุมฝังกลบ’ อีกทั้งยังก่อให้เกิดอันตรายต่อคน และสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นระบบห่วงโซ่อาหารในดิน น้ำ อากาศ หรือโรคต่างๆ ที่อาจร้ายแรงถึงชีวิต เพราะส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่ผลิตมาจาก ‘สารพิษ’ ทั้งตะกั่ว แคดเมียม ปรอท โครเมียม เบริลเลียม และสารหนู

ในทางกลับกัน ก็มีสัญญาณที่ดีว่า ช่วงปีหลังนี้ หลายภาคส่วนเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น สังเกตได้จากเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป เดิมที่ส่วนใหญ่จะยอมจ่ายเฉพาะสินค้าราคาถูก เปลี่ยนมาเป็นการบริโภคอย่างมีความรับผิดชอบ ยอมจ่ายสินค้า ‘ราคาแพง’ หากเป็น ‘แบรนด์รักษ์โลก’ ซึ่งจากการสำรวจเก็บข้อมูลจากผู้บริโภคบางส่วนเราพบว่า เทรนด์นี้อาจจะไม่เกินจริงสักเท่าไร เนื่องจาก บางคนยอมซื้อหูฟังราคาแพงของแบรนด์ชื่อดังแห่งหนึ่งด้วยเหตุผลที่ว่า มีการผลิตโดยใช้พลาสติกรีไซเคิลจากอุตสาหกรรมรถยนต์

ส่วนในฟากฝั่งยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่มีมูลค่าสูงที่สุดในโลกอย่างของแอปเปิล (Apple) ก็ตื่นตัวเรื่องผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมไม่ต่างกัน ถึงแม้อาจมองย้อนกลับในอีกมุมได้ว่า เมื่อขยะล้นโลก เราก็แค่เก็บ แต่นั่นอาจเป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ การย้อนกลับไปหยุดที่จุดเริ่มต้น ตัดไฟตั้งแต่ต้นลมเลยถือเป็นทางเลือกที่เวิร์กกว่า

โดยล่าสุดตั้งแต่ไอโฟน 12 จนถึงรุ่นล่าสุด ทางแอปเปิลก็ไม่ได้มีการใส่หูฟัง และอะแดปเตอร์ชาร์จไฟมาพร้อมกับอุปกรณ์ ตามปกติ เราจะเคยชินกับการได้สิ่งของพวกนี้ทุกครั้งที่ซื้ออุปกรณ์ใหม่ อีกทั้งยังมีข่าวจากเดลิเมล์ (DailyMail) รายงานว่า นโยบายดังกล่าวช่วยทำกำไรให้บริษัทเพิ่มได้กว่า 217,000 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่นี่ยังไม่พอ เพราะขนาดกล่องของไอโฟนก็บางลงด้วย!

อย่างไรก็ตาม แบรนด์ก็ได้ออกมาอ้างว่า การทำเช่นนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อลดของเสีย ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากการผลิตให้ลดลงปีละกว่า 2 ล้านตัน ประกอบกับลูกค้าหลายคนมีหูฟัง และอะแดปเตอร์ชาร์จไฟเก่าที่ไม่จำเป็นหลายชิ้น พอซื้อเครื่องใหม่ก็ได้มาซ้ำแล้วซ้ำเล่า บางชิ้นยังไม่ทันพังก็เลิกใช้ ปล่อยไว้นานๆ ก็เสื่อมสภาพ กลายเป็นกองขยะในที่สุด รวมไปถึงต้องการสานต่อเป้าหมายสำคัญอย่าง ‘การปล่อยคาร์บอนให้มีความเป็นกลางภายในปี 2030’

นอกจากนี้ แอปเปิลยังมีกลยุทธ์สำคัญคือ ‘การออกแบบที่มีคาร์บอนต่ำ (Low-Carbon Design)’ ผ่านการปรับปรุงวัสดุในการผลิตให้สามารถรีไซเคิลได้ ลดปริมาณคาร์บอนฟุตปริ้นต์ ก๊าซเรือนกระจก ยกตัวอย่างเช่น การใช้อลูมิเนียมรีไซเคิลในการผลิตทุกอุปกรณ์, ไอโฟน 7 ที่ใช้ไฟเบอร์รีไซเคิลมากถึง 90 กรัม ทดแทนพลาสติกที่มีปริมาณกว่า 60 กรัมในไอโฟน 6s

หรืออย่างตัวกล่องบรรจุภัณฑ์ไอโฟน X ที่ลดการใช้พลาสติกให้น้อยลง เปลี่ยนไปใช้เส้นใยธรรมชาติมากขึ้น คิดเป็น 175 กรัมโดยประมาณ ส่วนพลาสติกจะมีเพียง 8 กรัมเท่านั้น ซึ่งเป็นการผลิตด้วยวัสดุที่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และโลกใบนี้นั่นเอง

โดยทั้งหมดนี้ก็ตั้งอยู่บนหลักการว่า วัสดุที่จะนำมาใช้ทดแทนพลาสติกนั้นต้องมีประสิทธิภาพสูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ และต้องสามารถนำกลับมาใช้ในอนาคตได้เพื่อลดปริมาณขยะให้เหลือน้อยที่สุด (Zero Waste) ไม่เป็นภาระต่อสิ่งแวดล้อม

รวมไปถึงโครงการ Apple GiveBack ที่สามารถนำเครื่องเก่ามาแลกรับส่วนลด หรือบัตรของขวัญ ก็เป็นหนึ่งในนโยบายที่สานต่อเป้าหมายนี้เช่นกัน ซึ่งแอปเปิลจะนำอุปกรณ์เก่าของลูกค้าไปรีไซเคิล เปลี่ยนกลับมาผลิตเป็นอุปกรณ์รุ่นใหม่ในอนาคต และตอบแทนกลับมาเป็นเครดิต คล้ายกับการขอบคุณลูกค้าที่ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อม เรียกได้ว่า เป็นบริบทที่ ‘Win-Win Situation’ ทั้ง 2 ฝ่าย ลูกค้าได้ช่วยโลก และได้สิทธิพิเศษกลับ ขณะเดียวกัน แบรนด์ก็ประหยัดต้นทุนในการผลิตจากวัสดุใหม่ และยังเป็นการส่งเสริมภาพลักษณ์เท่ๆ ตามแนวคิด ESG การทำธุรกิจเพื่อสังคม และสิ่งแวดล้อมในระยะยาว กอบกู้โลกให้น่าอยู่ขึ้นอีกด้วย

ทั้งหมดนี้ก็คือกลยุทธ์รักษ์โลกที่ทั้งเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Eco-Friendly) ดีต่อใจทุกคน เพิ่มพูนกำไรยิ่งกว่าที่เคย หรือสรุปง่ายๆ ว่า เป็น ‘กลยุทธ์น้อยแต่มาก (Less is more.)’ ที่อาจเป็นหนึ่งในไม้ตายสำคัญที่ทำให้ล่าสุดแอปเปิลครองแชมป์อันดับ 1 บริษัทที่มีจริยธรรมมากที่สุดในโลก ปี 2022 จากการจัดอันดับของเอธิสเฟียร์ (Ethisphere) บริษัทชื่อดังด้านการกำหนดมาตรฐานทางจริยธรรม และยกระดับการดำเนินธุรกิจอย่างมีจริยธรรมเลยก็ได้

Sources: https://bit.ly/3jWu8vJ

https://bit.ly/3MffCLq

https://bit.ly/3rISuNQ

https://apple.co/3xMLCmf

https://bit.ly/3xF43sX

https://apple.co/3rFSiyN

https://apple.co/3v0cixZ

https://apple.co/3L2eRFj

https://apple.co/3rD0waH

https://apple.co/37x5xuN

Chompoonut Suwannochin

อดีตเด็กฝึกงาน และ Content Creator ประจำเพจ Future Trends จบเอก Creative และการจัดการวัฒนธรรมจากรั้วเหลืองแดง ชอบฟังเพลงเป็นชีวิตจิตใจ มี ‘Sarah Salola กับ Jixgo’ เป็นศิลปินคนโปรด เวลาว่างชอบชุบชูใจด้วยการกิน และการไปติ่ง

  • 1