‘การขอโทษที่ดีที่สุดด้วยความจริงใจ’ คือก้าวแรกในเส้นทางของการฟื้นฟูความสัมพันธ์
หลายปีที่ผ่านมา ผู้คนต่างออกมาขอโทษในสิ่งเลวร้ายที่เคยทำไป มีให้เห็นตั้งแต่การไม่ขอโทษแบบเดิมๆ ไปจนถึงการใช้ข้ออ้างมากมาย การขอโทษที่ไม่ดีนั้นง่ายเกินไป แต่นักวิจัยพบว่าการขอโทษที่ดีมีองค์ประกอบบางอย่างร่วมกัน และการพิจารณาปัจจัยเหล่านี้อย่างรอบคอบสามารถช่วยให้คุณแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี
เนื่องจากการขอโทษในที่สาธารณะมีความยุ่งยากเฉพาะตัว เราจะเน้นที่ตัวอย่างแบบตัวต่อตัว ลองนึกภาพ
“สำนักงานแห่งใหม่ของคุณมีแซนด์วิชไอศกรีมฟรีอยู่ในตู้เย็นส่วนกลาง หรืออย่างน้อยนั่นคือสิ่งที่คุณคิด แต่เมื่อวันศุกร์ เมื่อคุณช่วยเพื่อนร่วมงานของคุณจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้เพื่อนร่วมงานอีกคน เขาพบว่าไอศกรีมครึ่งหนึ่งที่เขาซื้อสำหรับงานฉลองนั้นหมดไปแล้ว”
แม้ว่านี่จะเป็นอุบัติเหตุที่น่าอับอายอย่างเห็นได้ชัด แต่การออกมาข้างหน้าและขอโทษยังคงเป็นสิ่งที่ควรทำ การทำความเข้าใจและยอมรับความรับผิดชอบต่อการกระทำของคุณ คือสิ่งที่นักวิจัยบางคนเรียกว่า ‘หัวใจสำคัญของคำขอโทษ’ แต่ไม่เป็นไรถ้าหากรู้สึกว่ามันยากเกินไป มันควรจะเป็นเช่นนั้น! การขอโทษที่มีค่าใช้จ่ายสูงเป็นส่วนหนึ่งของสิ่งที่ทำให้มันมีความหมาย
ดังนั้น แม้ว่าคุณจะถูกล่อลวงให้ปกป้องการกระทำของคุณโดยไม่ได้ตั้งใจ แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่าคำขอโทษที่ดีไม่ได้เกี่ยวกับการทำให้คุณรู้สึกดีขึ้น มันเกี่ยวกับการพยายามทำความเข้าใจมุมมองของฝ่ายที่ถูกกระทำผิด และซ่อมแซมความเสียหายต่อความสัมพันธ์ของคุณ นั่นหมายความว่าคุณควรขอโทษด้วยความรู้สึกผิดไม่ใช่ขอโทษเพราะมันทำให้รู้สึกดี
แน่นอนมันมีความผิดพลาดที่เกิดจากอุบัติเหตุ และเกิดจากความตั้งใจ ลองนึกภาพ “คุณสัญญากับ ‘ฟิล์ม’ เพื่อนของคุณ ว่าจะเข้าร่วมรับชมการแข่งขันฟุตบอลชิงแชมป์ของเขา แต่ ‘เซนต์’ เพื่อนอีกคนหนึ่งโทรมาเพื่อเสนอตั๋วพิเศษสำหรับทัวร์อำลานักดนตรีคนโปรดของคุณ คุณรู้ดีว่านี่เป็นโอกาสครั้งหนึ่งในชีวิต และคุณจะพลาดไม่ได้”
นอกจากนี้ “คุณคิดว่า ฟิล์มคงไม่ว่าอะไรหากคุณไม่ไปรับชม ผู้ชมคนอื่นๆ จะคอยสนับสนุนเขาอยู่เสมอ แต่วันรุ่งขึ้น เขาเดินมาบอกกับคุณว่าเจ็บปวดมากเมื่อไม่เห็นคุณในฝูงชน คุณรู้สึกแย่มากที่ทำให้เขาเสียใจ”
“ฉันขอโทษที่ทำให้รู้สึกแบบนี้” ในสถานการณ์เช่นนี้ เป็นเรื่องง่ายที่จะมุ่งเน้นไปที่การหาเหตุผลเข้าข้างตนเองในการกระทำของคุณ ในเวลานี้คุณควรทำความเข้าใจมุมมองของอีกฝ่าย
ในกรณีนี้ ฟิล์มอาจอธิบายว่าเขาผิดหวังที่คุณผิดสัญญา ความชัดเจนประเภทนี้สามารถช่วยให้คุณรับรู้ถึงการกระทำผิดของคุณ และยอมรับอย่างจริงใจว่าการกระทำของคุณก่อให้เกิดความเสียหายในความสัมพันธ์ได้อย่างไร จากนั้นคุณจะสามารถวางกรอบคำขอโทษเพื่อจัดการกับข้อกังวลของเขาได้
การยอมรับการกระทำผิดอย่างชัดเจนบ่งบอกว่าคุณรู้ว่าคุณทำผิดพลาดอย่างไร และมันอาจทำให้อีกฝ่ายมีความเชื่อมั่นว่าคุณจะไม่ผิดสัญญาอีกต่อไปในอนาคต แต่การระบุอย่างชัดเจนว่าคุณจะเปลี่ยนแปลงอย่างไร และจะทำอะไรเพื่อซ่อมแซมความเสียหายที่เกิดจากความผิดของคุณนั้นมีประโยชน์เสมอ
นักวิจัยเรียกสิ่งนี้ว่า ‘ข้อเสนอการซ่อมแซม’ และมักถูกจัดว่าเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดของการขอโทษ สามารถเป็นได้หลายอย่างถ้าตรงไปตรงมา ก็คงเป็นการเสนอของอร่อยแทนการขอโทษและการซ่อมแซมความสัมพันธ์ เป็นต้น สิ่งสำคัญ คือ การให้คำมั่นสัญญาด้วยวาจาว่าจะไม่ทำผิดพลาดแบบเดิมอีก แต่คุณจะสัญญาว่าจะทำให้ดีขึ้น “ก็ต่อเมื่อคุณทำได้ดีกว่าจริงๆ เท่านั้น!!!”
การรับฟังมุมมองของผู้ถูกกระทำ การยอมรับผิด และเสนอการซ่อมแซมอย่างเป็นรูปธรรมเป็นเพียงองค์ประกอบเล็กๆ น้อยๆ ของการขอโทษที่ดี แต่จำไว้ว่าคำขอโทษไม่ได้เกี่ยวกับการได้รับการให้อภัยและเดินหน้าต่อไป มันขึ้นอยู่กับการแสดงออกถึงความเสียใจ และยอมรับผิด ดังนั้น การขอโทษที่ดีที่สุดเป็นเพียงก้าวแรกบนเส้นทางของการฟื้นฟูความสัมพันธ์เท่านั้น
เขียนโดย ธนพนธ์ หัสกรรัตน์
หมายเหตุ! บทความนี้ดัดแปลงมาจาก ‘The best way to apologize (according to science)’ โดย TED-Ed แพลตฟอร์มที่เผยแพร่เรื่องราวโดยเฉพาะการศึกษา มีเป้าหมายเพื่อการพัฒนาตัวเองของเด็ก และคุณครู เรื่องราวส่วนมากจึงเป็นเรื่องพื้นฐานในการใช้ชีวิตประจำวันซึ่งสามารถปรับใช้ได้กับผู้อ่านทุกวัย
Source: https://ed.ted.com/lessons/the-best-way-to-apologize-according-to-science